อ่านสรุป บทที่ 51 อย่าทำตัวเป็นตัวประกอบหญิงเสี่ยงตาย จาก ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย โดย ฮั่วลั่วหยิง
บทที่ บทที่ 51 อย่าทำตัวเป็นตัวประกอบหญิงเสี่ยงตาย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายเวลาเดินทาง ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฮั่วลั่วหยิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
มู่ต้าซานมองไปยังมู่เจิ้งหานที่กำลังเดินใกล้เข้ามา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“หานเอ๋อร์…”
“กินสิ”
สีหน้าเย็นชาของมู่เจิ้งหานทำให้มู่ต้าซานถึงกับชะงัก สีหน้านั้นดูราวกับว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่เป็นเพียงแค่คนที่บังเอิญมาเจอกันเท่านั้น
มู่ต้าซานมองไปยังอาหารที่ถูกส่งมา เขารู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่าในใจเขาจะอยากพูดออกไปว่า ‘ที่พ่อมาที่นี่ พ่อไม่ได้จะมาขออาหาร’ แต่ความหิวโหยที่กำลังรุมเร้าเขาอยู่นั้นทำให้เขาไม่หนักแน่นพอที่จะพูดออกไปได้
โครกกก!
เดิมทีก็หิวจนไส้กิ่วอยู่แล้ว เมื่อได้กลิ่นอาหารอันหอมฉุย ท้องของเขาก็ระเบิดเสียงร้องออกมา
เขารับอาหารมาแล้วรีบกินด้วยความหิวโหย
มู่เจิ้งหานมองมู่ต้าซานราวกับไม่แยแส
“ทุกวันนี้ครอบครัวของพวกเราอยู่กันอย่างอบอุ่น เอาเป็นว่าเราจะถือว่าไม่รู้จักกัน ต่อไปท่านก็อย่าได้มาที่นี่อีกเลย ตั้งแต่ตอนที่ท่านทิ้งท่านแม่ไป ท่านก็ลงนามในหนังสือหย่า ยกเลิกความสัมพันธ์กับข้าไปแล้ว ถือว่าท่านไม่ใช่พ่อของข้าอีกต่อไป หากวันหน้าเราบังเอิญพบกันอีก ในฐานะที่ท่านอาวุโสกว่า ข้าจะเรียกท่านว่าลุงซานก็แล้วกัน”
“หานเอ๋อร์…” มู่ต้าซานจ้องมองไปยังมู่เจิ้งหานอย่างว่างเปล่า
เขากำลังตกใจจนลืมกลืนน่องไก่ที่คาอยู่ในปาก
สีหน้าของชายวัยกลางคนเผยความร้อนรนใจ “มันไม่ใช่อย่างนั้น พ่อถูกบังคับ ลูกก็น่าจะรู้ดีว่าท่านยายเป็นคนตัดสินใจเรื่องครอบครัวเราทั้งหมด พ่อเองก็จนปัญญา…”
มู่เจิ้งหานถอยหลังไปสองก้าวเพื่อเลี่ยงมือของมู่ต้าซานไม่ให้แตะต้องโดนตัวเขา
“คงไม่ได้มานึกเสียดายหรอกนะ?”
“พ่อ…”
ใช่แล้ว เขากำลังเสียดาย
“เสียดายไปก็เปล่าประโยชน์” มู่เจิ้งหานกล่าวด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “วันหลังไม่ต้องมาหาท่านแม่อีก ท่านแม่เป็นคนใจอ่อน โดนคนหลอกง่าย แต่ข้าไม่เป็นอย่างนั้นแน่ นับจากนี้เป็นต้นไป ข้าคือหัวหน้าของครอบครัวนี้ เรื่องในครอบครัวที่ท่านแม่ได้พูดอะไรไปแล้วก็ไม่เป็นผล นอกเสียจากว่าท่านแม่จะเต็มใจยอมเสียลูกชายคนนี้ไป แต่ข้าคิดว่าต่อให้ท่านแม่เป็นคนใจอ่อนแค่ไหนก็ไม่ใช่คนโง่ ถ้าต้องเลือกระหว่างท่านกับข้า ท่านคิดว่าท่านแม่จะเลือกใคร?”
มู่ต้าซานถึงกับไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
ลูกชายไม่ต้องการเขาอีกต่อไปแล้วจริง ๆ
ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เขาคิดมาตลอดว่าความบาดหมางระหว่างพ่อลูกนั้น หากข้ามคืนไปแล้วก็คงจะหายไปเอง เพียงแค่พูดคำหวานไม่กี่คำ ลูกชายของเขาก็จะยอมให้อภัยเสมอ
ทว่ามันกลับไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว
ลูกชายคนนี้ใจแข็งกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก
ลูกคนนี้อายุสักเท่าไหร่กันเชียว ทว่าเมื่อมองไปที่แววตาคู่นั้น เขากลับเห็นเพียงความเย็นชา ดูไม่ออกเลยว่าลูกของเขาอายุก็เพียงแค่นี้
มู่เจิ้งหานเดินกลับไป เขาปิดประตูบ้านเพื่อกันไม่ให้คนที่อยู่ข้างนอกมองเข้ามาได้
ครั้นเห็นมู่เจิ้งหานกลับมา ถงซื่อก็ทั้งตื่นเต้นและประหม่า “ลูกหาน…”
ใบหน้าน้อย ๆ ของมู่เจิ้งหานเต็มไปด้วยความจริงจัง “ท่านแม่ ท่านจะเลือกผู้ชายคนนั้นหรือลูกชายคนนี้ เลือกมาเลย! ถ้าเลือกผู้ชายคนนั้น ท่านก็ไปกับเขาเลยตอนนี้ แต่ถ้าท่านแม่เลือกลูกชาย ต่อไปก็อย่าได้ไปสนใจไยดีเขาอีก”
“แม่… แม่ก็ไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้นหรอกนะ” ดวงตาของถงซื่อแดงก่ำ น้ำตารื้นขึ้นมายังขอบตา “อย่างไรแล้วเขาก็เป็นพ่อของลูกนะ แม่ก็แค่ไม่อยากให้ลูกต้องมาเสียใจทีหลัง”
“ข้าไม่เสียใจ!” มู่เจิ้งหานกล่าวอย่างหนักแน่น “ข้าพอใจกับชีวิตในตอนนี้”
“ดีแล้วล่ะ ดีแล้ว ยังมีกับข้าวอร่อย ๆ เยอะแยะขนาดนี้ ถ้าไม่กินเดี๋ยวก็เย็นหมดหรอก พวกเรามากินกันต่อเถอะ!” ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านทักขึ้นมา
“ใช่เลย อาหารอร่อยมากมายขนาดนี้นะ ถ้าไม่กินก็เสียเปล่า ถงซื่อ มานี่มา วันนี้พวกเรามาดื่มกัน ช่วงวันธรรมดาล้วนแต่เป็นพวกผู้ชายที่ดื่มกัน วันนี้ไม่ต้องมาดื่มแบบเกรงใจพวกเขาแล้ว”
มู่ต้าซานจากไปตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น คนที่อยู่ด้านในต่างก็ไม่มีใครสนใจ หลังจากงานเลี้ยงจบลง ทุกคนต่างก็พร้อมใจกันกลับบ้านของตัวเอง จะมีก็แต่สองครอบครัวที่ค่อย ๆ จัดการปัดกวาดลานบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
“ท่านพี่ เดี๋ยวข้าทำเอง”
ลู่อี้ลังเลอยู่ครู่นึง จากนั้นก็ส่งลู่จื่ออวิ๋นให้นางอุ้ม “เดินช้า ๆ หน่อยล่ะ”
คบไฟที่เดิมทีอยู่ในมือมู่ซืออวี่ ตอนนี้ถูกส่งต่อไปให้ลู่ฉาวอวี่ถือไว้
ตอนแรกลู่เซวียนก็อยากจะปฏิเสธ ไม่อยากให้มู่ซืออวี่สมเพชเขา แต่สุขภาพร่างกายเขาก็ช่างไม่เป็นใจเอาเสียเลย ชายหนุ่มรู้ดีว่า ณ ตอนนี้ ทางที่ดีที่สุดก็คือถนอมแรงเอาไว้ มิฉะนั้นโรคเก่าคงจะกำเริบ ประเดี๋ยวจะกลับกลายเป็นการไปเพิ่มภาระให้พี่ใหญ่มากกว่าเดิม
ลู่อี้เข้าไปแบกลู่เซวียนไว้บนหลัง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลู่เซวียนขี่หลังลู่อี้ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาถูกแบกต่อหน้ามู่ซืออวี่ เขาอับอายจนหน้าชาไปหมด ทว่าโชคดีที่ค่ำคืนอันมืดมิดได้ช่วยปิดบังซ่อนเร้นความอับอายขายขี้หน้าทั้งหมดที่เขามีไว้ได้อย่างมิดชิด
หลังจากที่ทุกคนได้ลิ้มลองอาหารที่มู่ซืออวี่ทำเพียงแค่มื้อเดียว ฝีมือการทำอาหารของนางก็เป็นที่เลื่องลือไปทั้งหมู่บ้าน แม้ว่าหลายคนจะยังไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ แต่กว่ายี่สิบคนที่ได้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ในคืนนั้น พอคนหนึ่งยกย่องฝีมือของนางว่าดีเลิศก็ไม่มีใครคัดค้าน ทั้งยังมีคนชื่นชมไม่ขาดปากมากมายขนาดนี้ ถึงจะไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
ชื่อเสียงของมู่ซืออวี่เริ่มดีขึ้น
หลังงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ ถงซื่อและมู่เจิ้งหานก็เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างเป็นทางการ ชีวิตของพวกเขามาถูกทางแล้ว
มู่ซืออวี่เองก็เริ่มวางแผนทำงานหาเงินที่นี่เช่นกัน
เนื่องจากนางได้กลายเป็นตัวประกอบหญิงเสี่ยงตายในหนังสือเล่มนี้ไปแล้ว ถ้าเช่นนั้นแล้วก็ปล่อยให้ผีเสื้อน้อยตัวนี้ได้กระพือปีกโผบินไปสักหน่อย
นางเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดลู่อี้จึงกลายเป็นตัวร้ายไปได้ และไม่รู้ด้วยว่าลู่ฉาวอวี่และลู่จื่ออวิ๋นค่อย ๆ ก้าวสู่เส้นทางอันมืดมิดได้อย่างไร เนื่องจากหนังสือเล่มนั้นเขียนเรื่องราวที่เน้นเกี่ยวกับตัวพระเอกและนางเอก ตัวร้ายเหล่านี้มีบทบาทเพียงแค่ส่งเสริมโครงเรื่องหลักเท่านั้น ส่วนในต้นฉบับก็ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมาของตระกูลลู่สักเท่าไหร่
นอกจากนี้ บทภรรยาคู่ใจของวายร้ายนั้น ต้นฉบับอธิบายไว้เพียงแค่ไม่กี่ร้อยคำเท่านั้นเอง
ตอนนี้นางต้องการลบหลายร้อยคำเหล่านั้นและเริ่มต้นเขียนบทบาทของนางเองอย่างเป็นทางการ ตราบใดที่นางอยู่ที่นี่ นางจะไม่ยอมให้อวิ๋นเอ๋อร์น้อยที่แสนจะน่ารัก และลู่ฉาวอวี่จอมแก่แดดเดินไปผิดทางเด็ดขาด
….
“เจียวเจียว วันนี้เจ้าจะเก็บผักหรือขุดพืชสมุนไพรก่อนดี?”
มู่ชุนฮวา สาวน้อยที่มีอายุไล่เลี่ยกับมู่ซือเจียวยืนตะโกนถามอยู่ตรงประตูรั้ว
ประตูถูกเปิดออก มู่ซือเจียวในชุดกระโปรงสีส้มมีดอกไม้ประดับอยู่บนเรือนผม ส่วนในมือถือผ้าเช็ดหน้าเดินออกมาแล้วพูดว่า “วันนี้ข้าไม่ไปเก็บผักกับขุดพืชสมุนไพรหรอกนะ อีกเดี๋ยวเดียวลูกพี่ลูกน้องของข้าก็จะมาเยี่ยมที่บ้าน ข้าต้องอยู่รอต้อนรับน่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
รออ่านบทต่อไปนานแล้ว...
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...