ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 87

ครั้นอาทิตย์อัสดง ลู่อี้ก็ย้ายโต็ะไปยังลานบ้าน

แต่ละคนในครอบครัวค่างถือจานอาหารของตน

กลิ่นหอมของอาหารลอยโชยจนทำให้ท้องของพวกเขาร้องโครกคราก

“ฝีมือการทำอาหารของท่านพี่ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่นานคงเปิดร้านอาหารได้”

มู่เจิ้งหานจ้องมองปลาทอดสีเหลีองทองเบื้องหน้า ไหนจะไข่ม้วน ผัดพริกหยวก ผัดผัก และแกงเนื้อ

เขารู้สึกได้ว่าช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตคือช่วงแห่งการเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศ

“ปากหวานจริงเชียว เอาไว้วันหลังข้าจะทำให้กินอีก” มู่ซื่ออวีเดินออกมาพร้อมกับซีโครงหมู่ผัดเปรี้ยวหวาน “เอาละทุกคน นั้งลงทานข้าวกันเถอะ“

ถงซื่อยังดูละอายใจอยู่บ้าง มู่ซื่ออวึ่่จึงนั้งลงเคียงข้างอีกฝ่าย เพราะนี่เป็นวิธีเดียวที่ทำให้นางสบายใจ

“ท่านพี่ ขอบคุณสำหรับวันนี้ ข้าขึ้นไปหาฟืนบนภูเขา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้าน ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ป่านนี้ท่านแม่ต้องสับสนจนตัดสินใจผิดพลาดแน่”

“เจ้าคิดผิดแล้ว ครั้งนี้ท่านแม่ไม่สับสนสักนิด นางจำสิ่งที่เจ้าย้ำได้เสมอ ไม่ยอมให้พวกเจาก้าวเขาเข้าบ้านเลย

มู่ซืออวีปกป้องถงซื่อ พยายามให้กำลังใจเป็นแม่

ถงซือเป็นคนหูเบา มักจะยอมแพ้อย่างง่ายดาย หากได้รับกำลังใจบ่อยๆ ก็อาจจะใจแข็งยิ้งขึ้น

“จริงหรือ?”มู่เจิ้งหานมองถงซือด้วยความสงสัย

ถงซือบีบมีอของตน “ข้าจำในสิ่งที่เจ้าพูดได้ขึ้นใจ ก็เลยไม่ยอมให้พวกเขาเข้าบ้าน

แต่หากมู่ซืออวีไม่ปรากฏตัวขึ้นทันเวลา นางก็คงทำอะไรพวกเขาไม่ได้ นับว่าโชดดีแล้ว

“จริงสิ เจ้าบอกว่ามีอะไรจะพูดไม่ใช่หรอ ?มู่ซืออวีมองจ้องมองลู่อี้ ”ตอนนี้ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตามกันแล้ว พูดเลยเถอะ”

ลู่อี้มองทุกคนตรงหน้าพลางกล่าวว่า “วันนี้ข้าเดินทางเข้าเมื่องหางานทำ ได้เป็นเสมียนในศาลว่าการ เงินเดือน 5ตำลึงเงิน”

5ตำลึงเงินมีมูลค่าสูงมากในสมัยโบราณ พนักงานรับจ้างโดยทั่วไปได้เงินเดือนเพียงไม่อีกแปะ บอกจากนี้การทำงานเป็นเสมียนในหน่วยงานของรัฐก็เทียบเท่ากับข้าราชการ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะสามารถทำได้

“ท่านพี่นี่น่าชื่นชนนริงๆ ”ลู่เซวียนนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยด้วยความดีใจ “นับเป็นเรื่องดีที่พี่ชายของข้าจะต้องออกไปล่าสัตว์บนภูเขาอีกต่อไป หากท่านทำงานเป็นเสมียน ท่านก็จะได้รับการยกย่องให้เป็นข้าราชการ”

มู่ซืออวีจ้องมองลู่อี้ด้วยแววตาแห่งความสับสน

แม้ว่านี่ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู่อี่น แต่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับนาง

ตามนิยายต้นฉบับ ลู่อี้ได้กลายเป็นเสมียนก็จริง แต่ชีวิตของเขานั้นไม่ดีนัก ราวกับกำลังเดินเข้าไปในหุบเหวลึกทีละก้าว ไม่สามารถล่าถอยออกมาได้อีก

ทุกคนค่างตื่นเต้นดีใจ แน่นอนว่าหากนางบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดคงจะไม่มีผู่ใดยยอมเชื่อฟัง อีกทั้งคงคิดว่านางเป็นหญิงโง่เขลาไร้ปัญญา

ลู่อี้สังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับมู่ซืออวีจึงเอ่ยถามทันที“เจ้าไม่ดีใจหรือ?”

ดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองไปยังมู่ซืออวี

แเหตุใดจึงไม่ดีใจเล่า ”ลู่เซวียนเอ่ยถาม “5 ตำลึงเงินไม่ใช่น้อยๆ ทำงานเช่นนี้อาจได้เงินได้โต็ะ รายได้สีเทาย่อมสูงกว่าเงินเดือน นี่ถือเป็นเรื่องดี!”

มู่ซื่ออวีเผยรอยบยิ้ม ”ถือเป็นเรื่องดีสิ”

ดูเถิด!ทุกคนต่างคิดว่านี่คือโชดดีที่เบื่องบนประทานให้ หากนางบอกว่า ไม่ดีใจหรือไม่เห็นด้วย ทุกคนคงจะเข้าใจผิดแน่นอน

“ข้า... จะกลับมาทุกวัน”ลู่อี้กล่าวพลางกระแอมไอ

มู่ซื่ออวีกะพริบตา “อ้อ!”

หมายความว่าอย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย