ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 98

“พี่สะใภ้ ข้ายินดีที่จะลอง เพียงแต่… ข้าไม่มีเงิน”

ลู่เจินเจินก้มหัวลงต่ำ ราวกับว่ากำลังรวบรวมความกล้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาลุกโชน

“ข้าติดไว้ก่อนได้ไหม?”

“แน่นอนว่าได้” มู่ซืออวี่พยักหน้า “แต่ว่าข้าต้องอธิบายให้เจ้าฟังก่อน ข้าติดสัญญากับภัตตาคารเจียงซื่อว่าจะขายหมูตุ๋นให้แค่พวกเขาเท่านั้น ดังนั้นส่วนผสมที่ข้าให้เจ้าจะไม่เหมือนกัน”

พูดให้เข้าใจคือ ทำแค่ช่วนช่วนเสียบไม้จุ่มหม้อเท่านั้น

“ข้าเชื่อพี่สะใภ้ พี่สะใภ้บอกว่าใช้ได้ก็ต้องออกมาดีแน่นอน”

“เช่นนั้นพรุ่งนี้เจ้ากลับมาอีกที วันนี้ข้าต้องเตรียมไว้”

“ขอบคุณพี่สะใภ้ แต่อย่าเพิ่งบอกพี่สะใภ้ใหญ่ของข้าได้หรือไม่ ข้ากลัวนางจะไม่เห็นด้วย”

“ไม่ได้ หากเจ้าอยากลองดู ต้องพาพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าไปด้วยกัน หญิงสาวคนเดียวเดินไปเดินมาทีละหมู่บ้าน ข้าไม่วางใจ” มู่ซืออวี่ทำหน้าจริงจัง น้ำเสียงขึงขัง

“เช่นนั้นก็ได้”

หลังจากลู่เจินเจินเดินจากไป ลู่เซวียนจึงเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ “ก่อนหน้านี้เจ้าเป็นหญิงใจแข็งราวกับหิน ตอนนี้ดีขึ้นแล้วสินะ อยากจะโปรดสรรพสิ่งหรือ เจ้าคิดหรือไม่ว่าหากเกิดเรื่องขึ้นกับนาง เจ้าจะเป็นคนบาปหนาที่สุด?”

“ถ้าพวกเขาคิดว่ากิจการนี้ไปได้ดี ก็จะเรียกชายที่เข้าไปทำงานในเมืองกลับมา พี่เฉินเป็นคนเฉลียวฉลาด นางจะไม่ปล่อยให้คนในครอบครัวตกอยู่ในอันตราย”

“เจ้ามั่นใจขนาดนั้นเชียว ถ้าหากวิธีการของเจ้าไม่ได้ผลเล่า?”

“หากไม่ได้ผล เช่นนั้นก็หาวิธีการอื่น ไม่มีใครรับรองได้ว่าตนจะประสบผลสำเร็จในคราเดียว แม้กระทั่งพ่อค้าวาณิชใหญ่ร่ำรวยเงินทองเหลือกินเหลือใช้เหล่านั้นก็พบวิธีที่ถูกต้องหลังจากพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า”

“ข้าก็อยากไป” ลู่ฉาวอวี่ที่อยู่ข้าง ๆ เปิดปากขึ้น

มู่ซืออวี่กะพริบตาปริบ ๆ “เจ้าจะไปทำอะไร?”

“ข้าก็อยากลองดู” ลู่ฉาวอวี่ตอบ “ข้าอยากหาเงิน”

“เด็กน้อย เจ้าไม่อยากคัดลอกหนังสือหาเงินแล้วรึ? ฉบับคัดลอกนั้นขายได้ถึงหนึ่งตำลึงเงินเชียวนะ” มู่ซืออวี่หลอกล่อเขา “เด็กเปลือยก้นคนหนึ่งอย่างเจ้าอันตรายเกินกว่าจะออกไป เผลอ ๆ คงถูกคนขโมยสินค้าไป แต่อยู่ที่บ้านคัดลอกหนังสือไม่เหมือนกัน นี่เป็นบ้านของพวกเราเอง ไม่มีผู้ร้ายเข้ามาได้ คัดลอกหนังสือยังได้เงินมากกว่า อีกทั้งหากเขียนจนเหนื่อยแล้วก็ยังเล่นอยู่ที่บ้านได้ ถ้าเจ้าออกไปแล้ว อาศัยขาสั้น ๆ นี้จะไปได้ไกลเท่าไหร่กัน?”

“ท่านก็แค่กลัวจะมีปัญหา กลัวเกิดเรื่องกับข้าแล้วท่านพ่อจะตี” ลู่ฉาวอวี่เปิดโปงความคิดของนางอย่างไร้ความปรานี

“เหอะ! สุนัขกัดหลี่ว์ตงปิน” มู่ซืออวี่บอก “เมื่อครู่นี้ตำนานเรื่องนั้น อาของเจ้าแย่งไปเขียนแล้ว ข้าจะบรรยายเรื่องใหม่ให้เจ้า ไปเถอะ พวกเรากลับเข้าไปในบ้าน”

วันนี้ลู่อี้กลับมาเร็ว ในตอนที่ผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน มีหลายคนชี้มาที่เขา ตอนแรกเขาไม่สนใจ แต่เมื่อได้ยินแว่ว ๆ ว่า ‘แม่ฉาวอวี่’ เขาจึงหยุดฝีเท้า

“พวกท่านคุยอะไรกัน?”

ลู่อี้รั้งชาวบ้านคนหนึ่งที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเอาไว้

“ไม่มีอะไร!” ชาวบ้านคนนั้นยิ้มแหย ๆ

ลู่อี้มองนิ่ง ๆ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้ามีความเป็นอยู่อย่างไร?”

“ว่าอย่างไรนะ?”

“ข้าสังกัดฝ่ายราชทัณฑ์ที่ศาลาว่าการ สอบสวนนักโทษ…”

ชาวบ้านคนนั้นนิ่งงัน “…”

ถึงแม้จะรู้ว่าหมู่นี้ลู่อี้ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ไม่ได้ขึ้นเขาล่าสัตว์ แต่กลับไม่รู้ว่าเขาไปเป็นเจ้าหน้าที่ทางการอยู่ที่ศาลาว่าการ

“นั่นคือ… ข้าจะบอกให้แล้วกัน” ชาวบ้านคนนั้นไม่อยากลองดีกับเจ้าหน้าที่สอบสวนของฝ่ายราชทัณฑ์ จึงยอมเอ่ยปากเล่า “มีคนเพิ่มราคาให้ภรรยาเจ้า ให้นางขายหมูตุ๋นให้ภัตตาคารหมายเลขหนึ่ง ภรรยาเจ้าไม่ยอมตกลง พวกเขาเลยกล่าวว่า… ภรรยาเจ้ากับเจ้าหนุ่มจากภัตตาคารเจียงซื่อลักลอบคบชู้กัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย