ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 697

บทที่ 697 ตอนพิเศษ 3-เจ้าใหญ่โจวข่าย

โจวข่ายเข้ากองทัพตั้งแต่อายุ 19 ปี หลังจากนั้นก็ก้าวหน้าสูงเรื่อย ๆ ในตอนที่เขาอายุ 30 ปีก็ได้ยศระดับพันตรีแล้ว

อนาคตก้าวไกลไร้ขีดจำกัดที่แท้จริง

แต่ไม่รู้ทำไม โจวข่ายกลับฝันเป็นครั้งคราว

ในฝันเขากลายเป็นคนเสเพล พาน้องชายสองคนทำเรื่องไม่ดี และเป็นเรื่องไม่ดีที่ไม่มีทางกลับตัวด้วย

เขาถึงกับฝันว่าเนื่องจากตนเลือกเส้นทางชีวิตผิด สุดท้ายก็ถูกประหารชีวิต

ตอนที่กระสุนลูกนั้นยิงเจาะเข้ามา เขาก็ตกใจจนสะดุ้งตื่น แม้จะรู้ว่าเป็นแค่ความฝัน แต่เขาก็ยังหวาดผวาจนเสียวสันหลังวาบอยู่ดี

ความจริงแล้วเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงฝันถึงสิ่งที่ระทึกขวัญขนาดนี้

เขาไม่เคยเดินทางผิดเลยสักครั้ง ทุกครั้งล้วนเดินตามคำสั่งและทิศทางของประเทศอย่างเคร่งครัด

ดีที่เขาเคยฝันแบบนี้แค่ครั้งเดียว เขาจึงถือว่าเป็นคำเตือน ให้ตนเองจำไว้เสมอว่าห้ามเดินทางผิดเป็นอันขาด

ชีวิตของโจวข่ายถือว่าราบรื่นมาก เรียกได้ว่าไร้อุปสรรคเลยก็ว่าได้ บางครั้งก็คุยโทรศัพท์กับเพื่อนเก่าในวันวานบ้าง

เพื่อนเก่าของเขาชื่อหานสวี้เจี๋ย แต่งงานกับผู้หญิงที่ชื่อจงฉิง ทั้งสองมีชีวิตคู่อันสุขสันต์ และมีลูกชายอัจฉริยะ

โจวข่ายไม่อิจฉาที่หานสวี้เจี๋ยไต่ตำแหน่งไปอยู่ในหน่วยงานที่มณฑลได้ เขาเพียงแค่อิจฉาที่เพื่อนเก่าเขาคนนี้มีลูกชายแบบนี้

ลูกชายของเขาและเวิงเหม่ยเจี่ยใช่ว่าไม่ฉลาด แต่เทียบกับคนอื่นไม่ได้หรอก

คนอื่นเขาใช้ความฉลาดกับเรื่องดี ๆ ลูกชายเขากลับใช้ความฉลาดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

ตั้งแต่ 3 ขวบก็เป็นเด็กที่สุนัขเห็นแล้วยังรังเกียจ พอถึง 5 ขวบ ทันทีที่สุนัขและแมวเห็นเขาก็จะรีบหลบไปไกล ๆ เรียกได้ว่าได้ยินชื่อเขาแล้วปอดแหกกันหมด

เมื่อเด็กชายอายุ 7 ขวบ เรื่องที่สองสามีภรรยาเวิงเหม่ยเจี่ยและโจวข่ายกระทำบ่อยที่สุดคือขอโทษขอโพยคนที่มาเอาเรื่องที่บ้าน

ไอ้เด็กบ้านี่ดื้อมาก โดนโจวข่ายหวดด้วยเข็มขัดไปไม่น้อย

เขาไม่ใช่คนที่ตีลูกหรอก ตั้งแต่เด็กจนโตพ่อเขาก็ไม่เคยตีพวกเขาพี่น้องเลย ตอนนี้เขาเป็นพ่อคนจะตีลูกได้อย่างไรกัน?

แต่มันจนปัญญาจริง ๆ จนไม่ตีไม่ได้แล้ว เมื่อก่อนโจวข่ายคิดว่าตัวเองก็เป็นเด็กซนคนหนึ่ง ตอนเด็กก็ดื้อเหมือนกัน แต่เขาดื้อส่วนดื้อ ไม่เคยไม่เชื่อฟังขนาดนี้เลย

สมัยเด็ก ๆ เวลาที่ดื้อ แม่ของเขาจะใช้ข้าวเพียงมื้อเดียวทำให้เขาไม่กล้าดื้ออีก หากดื้อเกินไป แม่เขาก็จะทำแต่อาหารอร่อย ๆ และให้เขาไปยืนดูบรรดาน้องชายกินที่มุมห้อง เป็นการทรมานที่โหดร้ายที่สุด

แต่เด็กนี่ไม่สน เพราะคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ไม่ตะกละเหมือนพวกเขาตอนเด็ก เด็กนั่นไม่ตะกละเลยสักนิด จึงเหลือแค่การตีอย่างเดียว

แต่ตีไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี ไอ้เด็กบ้านั่นกระดูกแข็งเกินไป

สุดท้ายแล้วเมื่อไร้หนทางจริง ๆ เขาจึงโทรหาพ่อแม่เขาและส่งตัวลูกชายไปที่ปักกิ่ง

พอลูกไปแล้ว บรรยากาศที่กองทัพก็หอมหวานอบอวลขึ้น ทั้งสุนัขทั้งแมวก็ออกมาเดินเล่น

ลูกชายของโจวข่ายมีชื่อว่าโจวจวี

หลินชิงเหอเรียกหลานชายคนโตคนนี้ว่าเจ้าม้าพยศ แต่นิสัยของเขาก็พยศจริง ๆ นั่นแหละ

เพราะฉะนั้นตอนที่เพิ่งส่งตัวมา ปู่ย่าอย่างหลินชิงเหอและโจวชิงไป๋จึงฉวยโอกาสปิดเทอมหน้าร้อนพาเขาออกไปท่องเที่ยว พอท่องเที่ยวกลับมาแล้วเจ้าม้าพยศตัวน้อยตัวนี้สงบเสงี่ยมขึ้นเยอะ

เพราะปู่ย่าของเขาสัญญากับเขาว่าขอแค่เขาเชื่อฟัง พวกเขาออกท่องเที่ยวกันคราวหน้าจะพาเขาไปด้วย

พอไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน สงบได้อยู่หนึ่งเทอม ก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทที่โรงเรียนแค่ 3 ครั้ง ถือว่าพัฒนาขึ้นมากแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม