ทะลุมิติมาเป็นพระชายา นิยาย บท 21

"ในเมื่อเจ้ายอมรับก็ดีแล้ว ข้าจะไม่ยอมประนีประนอมใดๆ หากเงินไม่ถูกส่งไปยังลานมู่ฝูภายในสามวัน เจ้าคงรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากไม่ได้เห็นเงินในวันนั้น" หรงลี่มองแม่บ้านหลินที่นั่งนิ่งงันอยู่บนพื้น สายตาของนางเย็นชา ตอนนี้นางรู้จักกลัวบ้างแล้ว เหตุใดนางไม่นึงผลที่ตามมายามที่มาเอาเงินไปในตอนนั้นเล่า?

"เวรกรรมอะไรเช่นนี้"

คำนี้แล่นเข้ามาในหัวของแม่บ้านหลินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้านางไม่ได้โลภเงินและต้องการทำให้เจ้านายของนางพอใจ นางจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร? นางไม่เคยคิดว่าคนที่นางเคยกลั่นแกล้งเป็นแค่พระพุทธรูปดินเผา

ตอนนี้นางเห็นแล้วว่าพระชายามิใช่พระพุทธรูปดินเผาแต่เป็นผีร้าย นางเอ่ยว่าพระชายาช่างใจกว้างนักซึ่งนางเริ่มหาเงินเพิ่มโดยเริ่มบอกให้เสี่ยวเถานำเงินมาให้นางวันละหนึ่งตำลึง นางยังหัวเราะลับหลังว่าพระชายาช่างโง่เขลา แต่ดูเหมือนคนที่โง่เขลากลับไม่ใช่พระชายาแต่เป็นตัวนาง พระชายาขุดหลุมรอให้นางกระโจนเข้าไป และนางไม่เพียงกระโจนเข้าไปแต่ยังลงมือกลบหลุมฝังตัวเองอีกด้วย เงินถึงสามร้อยตำลึง นางจะไปหาจากที่ใด?

"ไม่น่าพึงใจที่คนโลภเช่นเจ้าทำงานในครัว จงไปอยู่ลานชั้นนอกคอยทำความสะอาด เจ้าจะอยู่กับนายของเจ้าก็ย่อมได้ แล้วเจ้ายังได้อยู่กับสามีของเจ้าด้วยฎ ทันทีที่หรงลี่เอ่ยปากก็ราวกับสายฟ้าอีกระลอกฟาดลงมาเหนือร่างแม่บ้านหลิน

“ฝ่าบาท พระชายา...”

“ฝ่าบาท ท่านคิดว่าอย่างไร” หรงลี่ไม่อนุญาตให้แม่บ้านหลินพูด นางหันไปหาเซี่ยเฮ่าเซียนแทน

เซี่ยเฮ่าเซียนมองไปที่หรงลี่ เขาไม่ได้คาดหวังว่านางจะคิดถามความคิดเห็นของเขา มีนัยแห่งความสุขในใจของเขา "เยี่ยมมาก"

หรงลี่ลอบกลอกตา หากไม่ใช่เพราะนางกลัวว่าแม่บ้านหลินจะรบกวนนางเพื่อร้องขอความเมตตา นางก็คงไม่สนใจที่จะขอความเห็นจากเซี่ยเฮ่าเซียน ตามที่คาดไว้ ทันทีที่เขาพูดจบ แม่บ้านหลิน รีบไปที่เท้าของเซี่ยเฮ่าเซียนและร้องว่า "ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดความเมตตา"

งานครัวเป็นงานที่ล่ำซำ หากนางสูญเสียงานนี้ ชีวิตครอบครัวของนางคงลำบาก

เซี่ยเฮ่าเซียนเตะแม่บ้านหลินลงกับพื้นด้วยความขยะแขยง นางดูเหมือนขอทานและค่อนข้างดุดัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่อาจช่วยได้ "เจ้าชื่ออะไร?"

ผู้ที่หรงลี่ถามคือสตรีผู้คุกเข่าในแถวสุดท้าย สวมชุดเนื้อหยาบสีน้ำเงินเข้ม นางเป็นคนที่นั่งยอง ๆ อยู่ตรงมุมเมื่อหรงลี่เข้ามาเลือกผัก ในตอนแรกหรงลี่ไม่ได้สนใจนางมากนัก เมื่อนางทุบครัว หรงลี่ก็พบสิ่งที่น่าสนใจ

ทุกคนอยู่ในกลุ่มต่างก็พยายามขวางเสี่ยวเถาหรือไม่ก็รีบออกไปรายงาน มีเพียงนางเท่านั้นที่ยืนอยู่ตรงมุมอย่างเงียบ ๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่ถูกขว้างไปมา นางมิได้ช่วยเสี่ยวเถา นางไม่ได้ช่วยผู้ใดทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีผู้ใดคิดช่วยหรือร้องขอให้นางช่วย

เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้อยู่กับกลุ่มสาวใช้ เมื่อทุกคนล้มลงกับพื้นและร้องออกมา นางก็คุกเข่าลงข้างๆ อย่างเงียบๆ ถ้าหรงลี่ไม่สังเกตเห็นนางล่วงหน้า นางก็อาจมองผ่านไป

เหล่าคนรับใช้ชราที่คุกเข่าอยู่บนพื้นมองย้อนกลับไปตามนิ้วของหรงลี่ เมื่อเห็นว่าหรงลี่ถามนาง พวกเขาก็อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นนางก็รีบคำนับแล้วตอบว่า "ข้าน้อยแซ่กู่ นามเยว่เจ้าค่ะ"

ท่าทีของนางไม่สูงส่งไม่ต่ำต้อย ดูจากภูมิหลังเสื้อผ้าของนางแล้ว นางมิได้ดูมั่งมีนัก หรงลี่พยักหน้าและพูดว่า "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าเป็นหัวหน้าห้องเครื่อง"

คนข้างนอกต่างมาเพื่อชมความสนุก แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าพระชายาจะจากไปในทันที พวกเขาไม่มีเวลาสลายตัว ในเวลานี้พวกเขาทำได้เพียงคุกเข่าลงและคำนับ “คาราวะพระชายา”

พ่อบ้าน คนงาน ทาส และสาวใช้คุกเข่าลงบนพื้นและค้างอยู่ท่านั้น พวกนางมองไปที่ผู้คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นและพูดว่า "ฟังนะ ใครเคยบอกให้ข้าแลกเงินกับสิ่งของในอดีต วันนี้ข้าจะกลับไปสะสางบัญชี จงส่งเงินคืนมาให้ข้าภายในสาม แล้วข้าจะยอมอภัย ถ้าพวกเจ้าไม่สำนึกผิดหรือเงินขาดจำนวนไป พรุ่งนี้จะถึงตาพวกเจ้าได้เป็นอย่างในครัว อย่าโทษข้าที่ไม่ให้โอกาสพวกเจ้า”

หลังจากนั้นหรงลี่ก็จากไปพร้อมกับเสี่ยวเถา ผู้คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นต่างมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง พระชายาเปลี่ยนท่าทีของนางแล้ว? จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่ประตูห้องครัว องค์ชายยืนอยู่นอกประตูและมองไปทางพระชายา เขาไม่ได้มีท่าทีโกรธหรือรำคาญ องค์ชายก็เปลี่ยนท่าทีไปด้วยหรือ?

เซี่ยเฮ่าเซียนมองเหม่อ ไม่มีเรื่องอันใดให้ต้องใช้เงินในจวน แล้วที่ผ่านมานางใช้ชีวิตมาเช่นนี้หรือ? เขาควรสุขใจที่นางมิได้มีชีวิตที่ดีสิ ทว่าด้วยเหตุผลบางประการ เขากลับรู้สึกหัวเสียเล็กน้อย

เมื่อมองไปที่คนรับใช้บนพื้น เซี่ยเฮ่าเซียนก็ออกจากครัวพร้อมกับผู้ติดตามของเขา เขาไม่ได้ไปหามู่ซิ่วโหรวแต่ไปห้องอักษรตามลำพัง เขาจุดเทียนและนั่งอยู่หลังโต๊ะเงียบๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

คนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่นอกครัวไม่ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกจนกระทั่งเซี่ยเฮ่าเซียนจากไปไกลแล้ว พวกเขามองไปรอบ ๆ และพบว่าเจ้านายของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น จากนั้นพวกเขาก็ยืนขึ้น ปัดเศษดินบนร่างกายและกลับไปยังสถานที่ที่รับผิดชอบ

ระหว่างทางกลับ คนงานหลายคนที่ยักยอกหรงลี่ต่างมารวมตัวกัน พวกเขามองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างขมขื่น

"พวกเจ้าคิดว่าเราจะหาเงินเพิ่มได้อย่างไร?" คนแรกที่พูดคือหลิวเหลี่ยง เขามีหน้าที่จัดหาผลไม้และชาเข้าจวน ทุกๆ วัน เขาจะส่งผลไม้สด สาลี่ ลูกท้อ ดอกท้อและของว่างไปยังลานเสวี่ยอวี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ลานมู่ฝูจะได้ผลไม้สด ในแต่ละวัน หากเสี่ยวเถามาถามหา เขาก็จะให้นางเอาเงินมาซื้อ เขาต้องคืนเงินจำนวนมากให้พระชายา เขาเป็นคนของพระชายารองและต้องการเอาใจเจ้านาย เขายังพยายามจะหาเงินเพิ่มด้วยวิธีอื่น ยามนี้พระชายาเรืองอำนาจ หากเขาไม่คืนเงินนาง เขาจะต้องเสียหน้าที่การงาน ดูเหมือนพระชายาคงไม่ยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเป็นพระชายา