"ในเมื่อเจ้ายอมรับก็ดีแล้ว ข้าจะไม่ยอมประนีประนอมใดๆ หากเงินไม่ถูกส่งไปยังลานมู่ฝูภายในสามวัน เจ้าคงรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากไม่ได้เห็นเงินในวันนั้น" หรงลี่มองแม่บ้านหลินที่นั่งนิ่งงันอยู่บนพื้น สายตาของนางเย็นชา ตอนนี้นางรู้จักกลัวบ้างแล้ว เหตุใดนางไม่นึงผลที่ตามมายามที่มาเอาเงินไปในตอนนั้นเล่า?
"เวรกรรมอะไรเช่นนี้"
คำนี้แล่นเข้ามาในหัวของแม่บ้านหลินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้านางไม่ได้โลภเงินและต้องการทำให้เจ้านายของนางพอใจ นางจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร? นางไม่เคยคิดว่าคนที่นางเคยกลั่นแกล้งเป็นแค่พระพุทธรูปดินเผา
ตอนนี้นางเห็นแล้วว่าพระชายามิใช่พระพุทธรูปดินเผาแต่เป็นผีร้าย นางเอ่ยว่าพระชายาช่างใจกว้างนักซึ่งนางเริ่มหาเงินเพิ่มโดยเริ่มบอกให้เสี่ยวเถานำเงินมาให้นางวันละหนึ่งตำลึง นางยังหัวเราะลับหลังว่าพระชายาช่างโง่เขลา แต่ดูเหมือนคนที่โง่เขลากลับไม่ใช่พระชายาแต่เป็นตัวนาง พระชายาขุดหลุมรอให้นางกระโจนเข้าไป และนางไม่เพียงกระโจนเข้าไปแต่ยังลงมือกลบหลุมฝังตัวเองอีกด้วย เงินถึงสามร้อยตำลึง นางจะไปหาจากที่ใด?
"ไม่น่าพึงใจที่คนโลภเช่นเจ้าทำงานในครัว จงไปอยู่ลานชั้นนอกคอยทำความสะอาด เจ้าจะอยู่กับนายของเจ้าก็ย่อมได้ แล้วเจ้ายังได้อยู่กับสามีของเจ้าด้วยฎ ทันทีที่หรงลี่เอ่ยปากก็ราวกับสายฟ้าอีกระลอกฟาดลงมาเหนือร่างแม่บ้านหลิน
“ฝ่าบาท พระชายา...”
“ฝ่าบาท ท่านคิดว่าอย่างไร” หรงลี่ไม่อนุญาตให้แม่บ้านหลินพูด นางหันไปหาเซี่ยเฮ่าเซียนแทน
เซี่ยเฮ่าเซียนมองไปที่หรงลี่ เขาไม่ได้คาดหวังว่านางจะคิดถามความคิดเห็นของเขา มีนัยแห่งความสุขในใจของเขา "เยี่ยมมาก"
หรงลี่ลอบกลอกตา หากไม่ใช่เพราะนางกลัวว่าแม่บ้านหลินจะรบกวนนางเพื่อร้องขอความเมตตา นางก็คงไม่สนใจที่จะขอความเห็นจากเซี่ยเฮ่าเซียน ตามที่คาดไว้ ทันทีที่เขาพูดจบ แม่บ้านหลิน รีบไปที่เท้าของเซี่ยเฮ่าเซียนและร้องว่า "ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดความเมตตา"
งานครัวเป็นงานที่ล่ำซำ หากนางสูญเสียงานนี้ ชีวิตครอบครัวของนางคงลำบาก
เซี่ยเฮ่าเซียนเตะแม่บ้านหลินลงกับพื้นด้วยความขยะแขยง นางดูเหมือนขอทานและค่อนข้างดุดัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่อาจช่วยได้ "เจ้าชื่ออะไร?"
ผู้ที่หรงลี่ถามคือสตรีผู้คุกเข่าในแถวสุดท้าย สวมชุดเนื้อหยาบสีน้ำเงินเข้ม นางเป็นคนที่นั่งยอง ๆ อยู่ตรงมุมเมื่อหรงลี่เข้ามาเลือกผัก ในตอนแรกหรงลี่ไม่ได้สนใจนางมากนัก เมื่อนางทุบครัว หรงลี่ก็พบสิ่งที่น่าสนใจ
ทุกคนอยู่ในกลุ่มต่างก็พยายามขวางเสี่ยวเถาหรือไม่ก็รีบออกไปรายงาน มีเพียงนางเท่านั้นที่ยืนอยู่ตรงมุมอย่างเงียบ ๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่ถูกขว้างไปมา นางมิได้ช่วยเสี่ยวเถา นางไม่ได้ช่วยผู้ใดทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีผู้ใดคิดช่วยหรือร้องขอให้นางช่วย
เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้อยู่กับกลุ่มสาวใช้ เมื่อทุกคนล้มลงกับพื้นและร้องออกมา นางก็คุกเข่าลงข้างๆ อย่างเงียบๆ ถ้าหรงลี่ไม่สังเกตเห็นนางล่วงหน้า นางก็อาจมองผ่านไป
เหล่าคนรับใช้ชราที่คุกเข่าอยู่บนพื้นมองย้อนกลับไปตามนิ้วของหรงลี่ เมื่อเห็นว่าหรงลี่ถามนาง พวกเขาก็อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นนางก็รีบคำนับแล้วตอบว่า "ข้าน้อยแซ่กู่ นามเยว่เจ้าค่ะ"
ท่าทีของนางไม่สูงส่งไม่ต่ำต้อย ดูจากภูมิหลังเสื้อผ้าของนางแล้ว นางมิได้ดูมั่งมีนัก หรงลี่พยักหน้าและพูดว่า "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าเป็นหัวหน้าห้องเครื่อง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเป็นพระชายา
รอทุกวันนนน...
รอดูคนทุบครัวหลักให้เละไปเลนค่ะ...
มาแล้วๆๆ ขอบคถณค่าาาา...
มาอัพต่อทีนะคะ เนื้อหาสนุกน่าติดตามค่ะ...
ไม่อัพเดทบทใหม่แล้วหรือคะ...