แน่นอน คำพูดนี้ของเฉิงโหรวโหรวไม่ถือว่าถามหยั่งเชิงสักเท่าไหร่ เพราะเธอถามตรงเกินไปแล้ว
คุณนายเหว้ยอึ้งไปเล็กน้อย ถึงแม้เธอมองออกว่าเจ้าหญิงคนนี้ไม่มีอะไรดีสักเท่าไหร่ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าหญิงคนนี้จะถามคำถามแบบนี้ออกมาตรง ๆ
“เมื่อครู่ฉันได้แนะนำไปแล้วนี่ค่ะ ฉิงฉิงเป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลเหว้ยของพวกเรา” คุณนายเหว้ยหันไปมองเวินลั่วฉิง สีหน้าดูมีรอยยิ้มเพิ่มขึ้นมาก : “เอาเป็นว่า ฉันเห็นฉิงฉิงสำคัญกว่าแก้วตาของฉันเสียอีก”
คุณนายเหว้ยไม่รู้ว่าทำไมเจ้าหญิงคนนี้ถึงได้ถามคำถามแบบนี้ออกมา แต่คุณนายเหว้ยเห็นสายตาที่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้มองฉิงฉิงเมื่อครู่ ก็เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นมิตร
คุณนายเหว้ยเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมมาก ในเมื่อเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้จงใจถามหยั่งเชิง งั้นเธอก็ต้องพูดให้ชัดเจนมากขึ้นอีกสักหน่อย
เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของคุณนายเหว้ยก็อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เดิมทีเฉิงโหรวโหรวก็เป็นพวกผู้หญิงที่ไม่มีสมองอยู่แล้ว เธอไม่รู้จักเก็บซ่อนอารมณ์ของตัวเอง ฉะนั้นการตอบสนองของเธอจึงหลบสายตาคุณนายเหว้ยไปไม่ได้
แน่นอน เวินลั่วฉิงเองก็เห็นมันอย่างชัดเจน ที่จริงตอนที่เฉิงโหรวโหรวมองเธอครั้งแรกนั้น เวินลั่วฉิงก็รับรู้ได้ทันทีว่าเฉิงโหรวโหรวเห็นเธอเป็นศัตรู ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไมเฉิงโหรวโหรวเห็นเธอเป็นศัตรู? แต่เธอรู้ดีว่าการวินิจฉัยของเธอไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน
และคำพูดของเฉิงโหรวโหรวเมื่อครู่นี้ บวกกับการตอบสนองของเฉิงโหรวโหรวหลังจากที่ได้ยินคำพูดของคุณนายเหว้ย ทำให้เวินลั่วฉิงยิ่งมั่นใจในความคิดของเธอ
ดูท่าทาง วันนี้คนที่หาเรื่องเธอจะไม่ได้มีแค่ผู้หญิงเมื่อห้าปีก่อนคนนั้น แต่ยังมีเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้อีกด้วย
“คุณเวินมีวาสนาดีจริง ๆ ที่ได้รับความรักและการปกป้องจากคุณนายเหว้ยขนาดนี้” ในใจไป๋หยิงเคียดแค้นแทบตาย แต่ไป๋หยิงรู้สึกเสแสร้งปกปิด สีหน้าตอนนี้จึงมีรอยยิ้มเผยออกมา
“คุณไป๋พูดถูกต้องมากค่ะ ฉันเป็นคนมีวาสนาดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว” เวินลั่วฉิงมองไป๋หยิงที่ยิ้มสดใส : “ในชีวิตของฉันมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือตลอด ไม่ว่าพบเจอเรื่องร้ายอะไรก็กลายเป็นเรื่องดีได้หมด”
เวินลั่วฉิงไม่เพียงแต่ชี้ให้เห็นถึงสถานะของไป๋หยิงเท่านั้น แต่คำพูดนี้ยังแฝงความหมายที่ชัดเจนมากอีกด้วย
“คุณเวินรู้จักฉันเหรอคะ?” ไป๋หยิงอึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าคิดไม่ถึงว่าเวินลั่วฉิงจะรู้จักเธอ วันนี้เธอมาเป็นเพื่อนเฉิงโหรวโหรว และคอยแนะนำเฉิงโหรวโหรวให้เป็นที่รู้จักตลอด ส่วนชื่อของเธอนั้นเธอกลับไม่ได้เอ่ยถึงเลย
ฉะนั้นคนในงานเลี้ยงจึงไม่รู้จักเธอ และไม่รู้ชื่อของเธอ แล้วเวินลั่วฉิงรู้ได้ยังไงว่าเธอแซ่ไป๋?
เวินลั่วฉิงไปได้ยินมาจากใคร?
“คุณไป๋นี่ขี้ลืมจังเลยนะคะ พวกเราเคยเจอกันเมื่อห้าปีก่อน คุณไป๋ลืมไปแล้วเหรอคะ?” เวินลั่วฉิงดูมีรอยยิ้มบนใบหน้ามากขึ้น แต่คำพูดของเธอกลับชะงักลงทันที แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นมากะทันหันว่า : “เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกล่ะก็ ฉันกับคุณไป๋น่าจะรู้จักกันมานานแล้ว”
ต่อให้ไป๋หยิงใจเย็นแค่ไหน เสแสร้งยังไง แต่สีหน้าในตอนนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
คนอื่นไม่เข้าใจคำพูดของเวินลั่วฉิง แต่เธอกลับเข้าใจมันเป็นอย่างดี เวินลั่วฉิงรู้แล้วว่าเป็นเธอ
รู้แล้วว่าคนที่อยู่ในโรงแรมเมื่อห้าปีก่อนคือเธอ และเวินลั่วฉิงก็รู้ตัวตนที่แท้จริงของเธออีกด้วย รู้แล้วว่าเธอเป็นใคร
แต่ว่า จะเป็นไปได้ยังไง? !
เธอไม่เคยเจอกับเวินลั่วฉิงมาก่อนนี่นา ตอนอยู่ที่โรงแรมเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ปลอมตัวปกปิดมิดชิดขนาดนั้น เวินลั่วฉิงรู้ได้ยังไงว่าเป็นเธอ?
“คุณไป๋ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ เห็นคุณไป๋สบายดี ฉันก็วางใจ” เวินลั่วฉิงเห็นปฏิกิริยาของไป๋หยิง ก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ คำพูดของเธอฟังดูดี แต่กลับแฝงไปด้วยการข่มขู่อย่างชัดเจน เธอรู้ดีว่าไป๋หยิงสามารถเข้าใจความหมายนี้
แม้ว่าเฉิงโหรวโหรวไม่ค่อยฉลาด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสมองเลย เมื่อได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง เธอก็มองไป๋หยิงด้วยสีหน้าสงสัย : “นี่มันเรื่องอะไร? พวกเธอรู้จักกันเหรอ? พวกเธอเป็นอะไรกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...