“คุณโทรไปหาฉิงถิงตอนนี้เลย แล้วให้เย่ซือเฉินรับสาย คุณบอกเขาว่าเวินลั่วฉิงกับเด็กหญิงตัวน้อยอยู่ที่บ้านของตระกูลเย่ ให้เขากลับมา ขอแค่เขากลับมา เรื่องนี้ก็จะเปลี่ยนได้ ขอแค่เขากลับมา ที่เขาพูดมาก่อนหน้านั้นก็เท่ากับโมฆะ เรื่องทั้งหมดก็จะเป็นแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้น”
“นี่คุณหมายถึงหลอกให้เย่ซือเฉินกลับมาเหรอ?” คุณปู่เย่เข้าใจความหมายของคุณย่าเย่ในทันที ดวงตาของเขาไหววูบ “แต่ตอนนี้เรายังหาตัวเวินลั่วฉิงกับเด็กตัวน้อยไม่พบเลยนะ เย่ซือเฉินกลับมาแล้วไม่เจอตัว ก็จะยิ่งวิตกกังวล ถึงตอนนั้นจะยิ่งหมางใจกันมากขึ้นไปอีกหรือเปล่า ?”
“หลอกเขากลับมาให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน ขอแค่เขากลับมาที่ตระกูลเย่ได้ คำแถลงที่เขาพูดก่อนหน้า และใบรับรองต่างๆก็จะไม่มีความน่าเชื่อถืออะไรอีก ขอแค่เขากลับมาในครั้งนี้ ต่อไปต่อให้เขาจะพูดแถลงอะไรอีก ก็จะไม่มีคนเชื่อเขา”เห็นชัดว่าแผนการของคุณย่าเย่นั้นดีเยี่ยมมาก
“แต่เราหาตัวเวินลั่วฉิงไม่พบ หากเย่ซือเฉินติดต่อกับเวินลั่วฉิง ก็จะรู้ว่าเราโกหก ถึงตอนนั้นหากเขารู้ว่าโกหก ก็จะไม่มีทางกลับมาเด็ดขาด” คุณปู่เย่มองไปยังคุณย่าเย่ คิ้วขมวดกันแน่น เห็นชัดว่าคุณปู่เย่ไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้ของคุณย่าเย่
“คุณวางใจเถอะ ฉันมีวิธี”คุณย่าเย่ได้ยินที่คุณปู่เย่พูด มุมปากก็ยกยิ้มออกมาเล็กน้อย “ครั้งที่แล้วตอนที่ฉันอยู่ที่บริษัทได้บันทึกเสียงของเด็กน้อยนั่นเอาไว้ ฉันตัดต่อคลิปเสียงนิดหนึ่ง รอให้ทางเย่ซือเฉินรับสาย ฉันก็เอาคลิปเสียงที่ตัดต่อมาเปิดให้เย่ซือเฉินได้ยิน หากเขาได้ยินเสียงของเด็กน้อย ไม่มีทางสงสัยแน่ และจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน”
“จริงเหรอ ? คุณบันทึกเสียงของเด็กน้อยคนนั้นไว้ด้วยเหรอ?”ใบหน้าของคุณปู่เย่มีความประหลาดใจอยู่ไม่น้อย“งั้นคุณก็รีบๆเลย รีบตัดต่อคลิปเสียงนั้น แล้วผมจะได้โทรไปหาเย่ซือเฉิน ”
เมื่อคุณปู่เย่ได้ยินวิธีของคุณย่าเย่ก็เห็นด้วยขึ้นมาทันที
หากเป็นอย่างว่าจริงๆ เรื่องนี้ก็จะจัดการได้ง่าย
คุณย่าเย่ค้นหาคลิปเสียง แล้วตัดต่อ จากนั้นก็ให้เหลือเพียงเสียงเรียกพ่อของถังจื่อซี นั้นเป็นเสียงเรียกของถังจื่อซีในตอนที่อยู่ในบริษัท แน่นอนว่าคุณย่าเย่นั้นลบเสียงอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องออกหมด
“ฟังดูแล้วก็ไม่เลวนะ และในตอนนี้ที่ตรงนั้นก็น่าจะเสียงดังอื้ออึงไม่น้อย เย่ซือเฉินจับพิรุธไม่ได้แน่ ”
เมื่อคุณปู่เย่ได้ยินคลิปเสียงที่ตัดต่อเสร็จก็พอใจเป็นอย่างมาก“ผมจะโทรหาฉิงถิงเดี๋ยวนี้ ”
“อืม โทรเลย ใช้โอกาสที่เย่ซือเฉินยังอยู่ในงาน มีเพียงตอนที่เย่ซือเฉินออกจากงานแล้วมุ่งตรงกลับตระกูลเย่ ถึงจะถือว่าได้ผลดีที่สุด ”คุณย่าเย่เชี่ยวชาญในการวางแผนมาทั้งชีวิต และเตรียมการทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว
คุณปู่เย่เองก็ไม่อยากที่จะเตะถ่วงเวลาอีกต่อไป รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาฉิงถิง
เย่ซือเฉินในตอนนี้ยังไม่ได้ออกไปจากที่แถลงข่าว เพราะในตอนนี้นักข่าวต่างก็ห้อมล้อมเย่ซือเฉินเอาไว้ นักข่าวต่างก็ไล่ถามคำถาม เย่ซือเฉินเองก็แทบปลีกตัวออกมาไม่ได้
คุณชายห้าฉิงได้ติดตามอยู่ข้างๆเย่ซือเฉินตลอด ดังนั้นในตอนนี้เองก็ถูกนักข่าวห้อมล้อมเอาไว้ด้วยเหมือนกัน
ในตอนนี้มีนักข่าวไล่ถามคำถามอยู่อีกมากมาย เพราะฉะนั้นในที่เกิดเหตุจึงเสียงดังมาก แต่คุณชายห้าฉิงก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือตัวเอง
คุณชายห้าฉิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เห็นสายผู้ที่โทรเข้ามา ริมฝีปากของเขาก็อดที่จะกระตุกไม่ได้ คุณปู่เย่โทรหาเขาในตอนนี้ต้องการจะทำอะไรกัน ?
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พี่สามก็ได้พูดทุกอย่างชัดเจนอย่างนี้แล้ว คุณปู่เย่โทรหาเขาตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เขาคิดแทนทำแทนพี่สามไม่ได้แน่
แต่คุณชายห้าฉิงก็ยื่นโทรศัพท์มือถือไปตรงหน้าของเย่ซือเฉิน ให้เย่ซือเฉินได้เห็นสายที่โทรเข้ามา
เย่ซือเฉินเหลือบมองอย่างเย็นชาไปแวบหนึ่ง และไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ สีหน้าท่าทีก็ไม่เปลี่ยน แม้แต่หางคิ้วก็ยังไม่กระดิก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลเย่กับเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันอีก และคนของตระกูลเย่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาด้วยเช่นกัน
“ฉันควรรับหรือไม่รับดี ?” หลังจากที่คุณชายห้าฉิงเห็นปฏิกิริยาของเย่ซือเฉิน ก็ตัดสินใจไม่ได้ไปชั่วขณะ ในเวลาแบบนี้เขาควรรับสายหรือไม่รับสายดี ?
รับแล้ว ไม่รู้จะพูดอะไร หากไม่รับ ก็เหมือนจะไม่เคารพผู้ใหญ่ยังไงอย่างงั้น ในเมื่อพี่สามไม่ยอมรับคนของตระกูลเย่แล้ว เขาก็คงไม่ต้องนับคุณปู่เย่เป็นผู้ใหญ่อีกแล้วละมั้ง ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...