ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน นิยาย บท 1204

ตอนนี้ควรทำยังไงดี?!พี่สามควรทำยังไงดี?!

คุณชายห้าฉิงรู้ดีว่าพี่สามเพิ่งจะได้เจอกับลูก และคุณชายห้าฉิงก็รู้ดีว่าพี่สามให้ความสำคัญเรื่องลูกมากแค่ไหน คืนวันนั้นที่พี่สามได้รู้เรื่องลูกแล้วดีใจมากแค่ไหน เขารู้จักกับพี่สามมานานหลายปี น้อยครั้งนักที่จะเห็นพี่สามมีความสุขแบบนี้ และเห็นพี่สามให้ความสำคัญกับลูกรักทั้งสองคนมาก

ตอนนี้คุณปู่เย่ใช้ลูกมาข่มขู่พี่สาม พี่สามไม่ร้อนใจก็แปลกแล้ว

“คุณชายสามเย่ คุณปู่เย่เห็นคุณตัดขาดกับตระกูลเย่ ก็ย่อมต้องเศร้าใจ และเสียใจมาก ในฐานะที่เป็นลูกหลาน พวกเราก็ควรจะคำนึงถึงความรู้สึกของคนแก่บ้าง และควรที่จะดูแลห่วงใยคนแก่ด้วย” แม้ว่ามือของนักข่าวหลู่จะไม่ได้ยื่นมาทางเย่ซือเฉินแล้ว แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงขยับถอยหลังไปอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นท่าทีของเย่ซือเฉินเมื่อครู่ทำเขาหวาดกลัวอยู่มาก เขาก็ยิ่งต้องรีบถอยร่นออกไป จึงไม่ได้ยินในสิ่งที่คุณปู่เย่พูดออกมา

แต่ว่า นักข่าวหลู่ได้ยินที่คุณปู่เย่ตามให้เย่ซือเฉินกลับไป เหตุผลที่ให้เย่ซือเฉินกลับไปนั้น คุณปู่เย่ก็ได้พูดในสายไปแล้วหลายครั้ง

นักข่าวหลู่คิดว่าที่คุณปู่เย่อยากให้เย่ซือเฉินกลับไป สำหรับความรู้สึกของคนแก่ ณ ตอนนี้ นักข่าวหลู่คิดว่ามันก็พอจะเข้าใจได้

หากเย่ซือเฉินไม่กลับไปในตอนนี้ก็ดูจะเป็นคนแล้งน้ำใจมาก !!

การตัดสินตามหลักจริยธรรมของนักข่าวหลู่ก็อาจเกิดเป็นประเด็นผลักให้เย่ซือเฉินต้องกลายเป็นหัวข้อสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง อีกทั้งยังมีแรงจูงใจให้เกิดข้อสงสัยขึ้นด้วย

“หุบปากคุณซะ ไม่รู้เรื่องอะไร มีสิทธิ์อะไรมาพูดจาเหลวไหลแบบนี้ ”คุณชายห้าฉิงมีอารมณ์โมโหขึ้นมาทันที ตอนนี้คุณปู่เย่ใช้ลูกของพี่สามมาข่มขู่พี่สาม ยังบอกอีกว่าหากพี่สามไม่กลับไป จะไม่ให้พี่สามได้เจอหน้าลูกอีก

นี่เป็นสิ่งที่ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งควรทำงั้นเหรอ ? เด็กคนนั้นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลเย่นะ

ยิ่งไปกว่านั้น คุณชายห้าฉิงรู้สึกว่าคุณปู่เย่ในตอนนี้แค่ต้องการอยากที่จะคบค้าสมาคมกับองค์กรโกสต์ซิตี้ที่มีสถานะสูงกว่าเท่านั้น ดังนั้นต่อให้พี่สามจะรีบกลับไปที่ตระกูลเย่ ไม่แน่ว่าคุณปู่เย่ก็จะยังคงขับไล่ไสส่งเด็กน้อยนั้นไปอยู่ดี

เรื่องแบบนี้คุณปู่เย่ทำมันลงแน่ๆ

นักข่าวคนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย สักแต่จะพูดไปเรื่อย อีกทั้งเห็นชัดว่านักข่าวคนนี้ก็โอนเอนเข้าข้างคุณปู่เย่ด้วย พอเป็นแบบนี้แล้วก็จึงตั้งคำถามและไม่พอใจในตัวพี่สามขึ้นมา

คนพวกนี้มีสิทธิ์อะไรที่จะมาตั้งคำถามกับพี่สาม ? แล้วคนพวกนี้มีสิทธิ์อะไรที่จะไม่พอใจในตัวพี่สาม ?

คุณชายห้าฉิงอดไม่ได้ที่อยากจะไล่คนพวกนี้ไปให้พ้นๆ

“ผมไม่รู้รายละเอียดอะไรมาก และผมก็ไม่รู้ว่าทำไมคุณชายสามเย่ถึงคิดที่จะตัดขาดกับตระกูลเย่ แต่คุณปู่เย่ก็อายุมากแล้ว หากเพราะเรื่องนี้ทำให้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา เรื่องมันก็อาจไม่ดีแน่ไม่ใช่เหรอ ? เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงในสายคุณปู่เย่นั้นเสียใจมาก อีกทั้งน้ำเสียงของคุณปู่เย่ก็ไม่ปรกติเท่าไร คงไม่ล้มป่วยไปแล้วหรอกมั้ง? ” อันที่จริงแล้วนักข่าวหลู่ไม่ได้ยินเสียงของคุณปู่เย่เมื่อครู่เลย เพราะนักข่าวหลู่ค่อยเฝ้าสังเกตอาการของเย่ซือเฉินอย่างเดียว เขายื่นโทรศัพท์ไปที่ข้างหูของเย่ซือเฉิน ในใจของเขาก็ยังหวั่นๆกลัวว่าเย่ซือเฉินจะทำอะไรกับเขาไปด้วย

เพราะความสนใจจับจ้องมองแต่เย่ซือเฉิน ดังนั้นคำพูดของคุณปู่เย่ เขาก็แทบจะไม่ได้ยินมันเลย แต่เขาได้ยินเสียงคำรามของคุณปู่เย่ ได้ยินเสียงเรียกของคุณปู่เย่ที่ให้เย่ซือเฉินกลับไป

น้ำเสียงของคุณปู่เย่นั้นฟังดูดังก้องกังวานมาก ดังนั้นนักข่าวหลู่ในตอนนี้ก็จึงกุเรื่องปั้นน้ำเป็นตัว

คำพูดของนักข่าวหลู่ประโยคนี้ทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก คุณปู่เย่คงต้องกังวลใจมาก อายุก็มากขนาดนั้น หากเกิดเป็นอะไรขึ้นมาก็มีความเป็นไปได้อยู่”

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงขนาดต้องตัดขาดกับตระกูลเย่ ?”

“หรือคุณปู่เย่จะทำอะไรที่เกินกว่าเหตุกับคุณชายสามเย่ ?”

“คนแก่ต่อให้จะทำอะไรผิดไป คนเป็นลูกหลานก็ย่อมต้องทำความเข้าใจสักนิด ทำไมถึงขั้นต้องตัดขาดกับครอบครัวด้วย ? นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ก็ล้วนต้องคิดคำนึงถึงอนาคตของลูกหลานอยู่แล้ว ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน