ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน นิยาย บท 1622

สรุปบท บทที่ 1622 วันวิเศษ: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

สรุปเนื้อหา บทที่ 1622 วันวิเศษ – ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน โดย โม่เสี้ยโยวจู๋

บท บทที่ 1622 วันวิเศษ ของ ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย โม่เสี้ยโยวจู๋ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

วินลั่วฉิงสารภาพรักกับเย่ซือเฉินไปแล้ว! เรื่องนี้มันทำให้หลิวหยิงทั้งประหลาดใจและดีใจ! เธอจำไม่ได้แล้วว่าเวินลั่วฉิงกำลังเป็นกังวลอยู่ แล้วก็ถามในทันทีว่า “เธอสารภาพรักกับเย่ซือเฉินแล้ว แล้วเขามีท่าทียังไงบ้าง? วันนั้นเธอตื่นไหวไหม? ”หลิวหยิงรู้สึกว่า จากการที่เธอรู้จักเย่ซือเฉินมา เมื่อคืนเวินลั่วฉิงต้องถูกจัดหนักอย่างแน่นอน แต่ว่าวันนี้เวินลั่วฉิงดูท่าทางไม่แย่เลยนิ? ไม่เหมือนกับถูกจัดหนักมาเลย เธอรู้สึกสงสัยนิดหน่อย

“……”เวินลั่วฉิงอยากจะเขกหัวหลิวหยิงจริงๆ เลย ว่าด้านในหัวของเธอมีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง!เรื่องนี้มันสำคัญรึยังไงกัน? เรื่องสำคัญคือจะจัดการเรื่องของหัวหน้าน้อยยังไงไม่ใข่เหรอ? ถ้าไม่ไปเจอมันก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก แต่ว่าถ้าไปเย่ซือเฉินก็ต้องโกรธแน่นอน นี่เป็นเรื่องที่ยากไปซะทุกด้านเลย แค่เธอไม่ออกความเห็นก็แย่แล้ว แต่นี่เธอ……เวินลั่วฉิงคิดแล้วก็หน้าแดงขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด……ตอนเช้าเย่ซือเฉินส่งผลกระทบต่อเธอค่อนข้างหนัก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเป็นธุระสำคัญเธอก็คงไม่ลุกออกมาหรอก เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าทุกวันเธอจะนึกย้อนไปถึงความอ่อนโยนและน่ารักของเย่ซือเฉินเมื่อตอนเช้า

หลิวหยิงรู้สึกว่าโลกใบนี้มันเหมือนมีเวทมนตร์ เวินลั่วฉิงสารภาพรักกับเย่ซือเฉิน และเวินลั่วฉิงก็หน้าแดงด้วย!ไม่มีท่าทางไหนของเวินลั่วฉิงที่หลิวหยิงไม่เคยเห็น แต่ว่าเวินลั่วฉิงหน้าแดงแบบนี้มันช่างหายากจริงๆ! ประเด็นสำคัญก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับฟองอากาศสีชมพูที่ดูเหมือนจะโผล่ออกมาจากร่างกายของเธอ?

มันเป็นเวทมนตร์แห่งความรักหรือไม่? ไม่ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเวินลั่วฉิงเขินอายมาก่อน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอเป็นแบบนี้เลย เธอดูเขินอายและเต็มไปด้วยความคาดหวัง ดังนั้เวินลั่วฉิงฉิงไปทำอะไรมา หรือคืนนั้น เย่ซือเฉินทำอะไร! หลิวหยิงรู้สึกเหมือนแมวข่วนหัวใจตลอดเวลา มันจักจี้มาก เหมือนเธอรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น! อยากรู้จังเลย!

“ฉิง……ฉิงฉิง?”หลิวหยิงพูดติดอ่าง เธอรู้สึกว่าเธอไม่เคยรู้จักเวินลั่วฉิง นี่มันช่างพิเศษจริงๆ ...

เวินลั่วฉิงถลึงตาใส่หลิวหยิง โตแล้วสินะ!กล้ามาแหย่เธอด้วย!เวินลั่วฉิงเหมือนกับว่าลืมไป ว่าหลิวหยิงยังไม่ทันจะทำอะไรเลย แค่ถามเพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้นเอง เวินลั่วฉิงก็นึกถึงเย่ซือเฉินเมื่อตอนเช้าในทันที และเย่ซือเฉินในตอนเช้านั้น ช่างพูดง่ายเหลือเกิน เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปถึงมัน

โอเค ฉันจะไม่ถามแล้ว”หลิวหยิงงยกมือยอมแพ้ เวินลั่วฉิงเขินอายจนเริ่มโกรธแล้ว!อยากรู้แค่ไหน ก็ไม่ควรจะไล่ถามแบบนี้…… แต่หลิวหยิงก็รู้อยู่ดี ว่าเดี๋ยววันหนึ่งเวินลั่วฉิงก็ต้องพูด ให้ผ่านช่วงเวลาที่น่าเขินอายพวกนี้ไปก่อนแล้วกัน

เวินลั่วฉิงไม่คิดอย่างนั้นอีกแล้ว จะมาล้อเลียนฉันจริงๆ เหรอ? น่าเสียดาย วันนี้ไม่มีอะไรให้ล้อหรอก เธอจัดเสื้อผ้าและนั่งตัวตรง: “เสียดายที่ทำให้เธอผิดหวัง ฉันมีช่วงเวลาที่ดี เช้านี้ฉันตื่นนอนและกินข้าวเช้าอาหารเช้า และไปหาไป๋ยี่รุ่ยตอนบ่าย แล้วฉันก็มาหาเธอเลย เธอคิดว่าวันนี้ฉันจะออกไปไม่ได้เหรอ? ”

“ฉันคิดแบบนี้จริงๆ ”หลิวหยิงคิดในใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป ถ้าเกิดว่าเธอกล้าตอบแบบนั้น เวินลั่วฉิงจะต้องเขินอายและกลายเป็นความโกรธอย่างแน่นอน พร้อมกับจ้องมองเธอด้วยความโกรธ แต่ว่าตอนนี้หลิวหยิงหิวจะตายอยู่แล้ว ไม่อยากจะหาเรื่องให้ตัวเอง ก็เลยยอมตามเวินลั่วฉิงไป “ฉันคิดมากไปเองแหละ ไม่คิดเลยว่าคุณชายสามเย่จะมีความอดทนขนาดนั้น”

“……”เวินลั่วฉิงพูดไม่ออก ทำไมมันฟังดูเคอะเขินจัง? เย่ซือเฉิน忍มีความอดทนดี หมายความว่าตัวเธอเองมีเสน่ห์ไม่พองั้นเหรอ? ทำไมมันรู้สึกแปลกๆ แต่เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้ไปโต้เถียงอะไร ถ้าเกิดว่าเถียงไป แล้วจะตอบคำถามนี้ยังไงดีล่ะ! เวินลั่วฉิงเสียใจนิดหน่อย จะพูดมากทำไมกันเนี่ย! เธอแค่อยากจะถามวิธีที่ทำให้เย่ซือเฉินไม่โกรธ! แน่นอน ความจริงแล้วคำถามนี้ไม่ได้จำเป็นต้องถามหลิวหยิงเลย เพราะคนที่รู้ดีที่สุดคือตัวของเธอเอง เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเธอพูดกับหลิวหยิงอ้อมค้อมเกินไป เป็นผลพวงจากเมื่อวานรึเปล่านะ? หรือว่าติดกับดักของเย่ซือเฉินเมื่อเช้านี้? เวินลั่วฉิงโมโหจริงๆ

จู่ๆ มือถือก็ดังขึ้น เวินลั่วฉิงก็นึกว่าอาหารมาถึงแล้ว แต่ว่าพอรับสายกลับเป็นสายจากหัวหน้าน้อย น้ำเสียงของหัวหน้าน้อยดูเย็นชามาก ไม่มีอารมณ์ปนอยู่ในนั้นเลย เวินลั่วฉิงรู้สึกสั่นในทันที สุดท้ายแล้วคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ ก็ต่างเป็นคนที่ไม่ธรรมดา ตอนที่เย็นชานั้นให้ความรู้สึกเหมือนจะฆ่าคนได้เลย

“คุณถังใช่ไหมครับ? ”ทั้งๆ ที่เป็นคำถามง่ายๆ และการสนทนาก่อนหน้านี้ถือว่าน่าพอใจ แต่ประโยคนี้ทำให้เวินลั่วฉิงรู้สึกหนาวเหน็บ เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“ใช่ค่ะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ? ”เสียงของเวินลั่วฉิงเย็นลง

“เพื่อนที่คุณถังพูดถึงก่อนหน้านี้ คือไป๋ยี่รุ่ยรึเปล่า? ไป๋ยี่รุ่ยแห่งบริษัทฉิงรุ่ยกรุ๊ป คนที่ถูกคุมขังในคดีฆาตกรรม”เห็นได้ชัดว่าเป็นน้ำเสียงของการสอบถาม แต่หัวหน้าน้อยกลับพูดออกมาอย่างแน่วแน่มาก เวินลั่วฉิงก็เข้าใจในทันทีว่า ต้องเกิดปัญหาขึ้นกับเจิ้งฉงอย่างแน่นอน

“หัวหน้าน้อยโทรมา บอกว่าเรื่องของไป๋ยี่รุ่ย ไม่ใช่ฝีมือของเจิ้งฉง ถ้ายังงั้นมันจะเป็นฝีมือของใครกัน? ”เวินลั่วฉิงคิดแล้วก็พูด

“ไม่ใช่เจิ้งฉงเหรอ? ถ้ายังงั้น? ”หลิวหยิงก็ตะลึงไปเหมือนกัน เวินลั่วฉิงแทบไม่มีข้อผิดพลาดในการตัดสินเลย แต่ว่าคราวนี้……

เวินลั่วฉิงไม่ตอบหลิวหยิง เธอวิเคราะห์โดยตรงว่า “เธอจำได้ไหม ว่าจู่ๆ เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยก็ถูกเปิดโปงออกมา? ตำรวจก็ไม่มีทางออกมาพูดก่อนอยู่แล้ว แต่ว่า ใครรู้ข่าวเร็วขนาดนั้น ถึงได้ปล่อยข่าวในทันทีที่ไป๋ยี่รุ่ยเข้ามอบตัว? ” เวินลั่วฉิงเปลี่ยนความคิดในทันที เธอไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป้าหมายคือใคร แต่ว่าต้องมีปีศาจอย่างแน่นอน ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนมานานแล้ว ข่าวสารไม่มีทางไวแบบนั้น แน่นอนว่าต้องมีคนชักใยอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน ปกติไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่ค่อยได้มีศัตรู ถ้าเกิดว่าเป็นการแข่งขันทางธุรกิจ แม้ว่านี่จะถือเป็นโอกาสหนึ่ง แต่ว่าไป๋ยี่รุ่ยก็ร่วมงานกับคนตั้งมากมาย ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะไม่แตะต้องคนหรือสิ่งที่ไม่ควรแตะ เว้นแต่จะรับประกันได้ว่าจะไม่เกี่ยวข้อง ถ้าเกิดว่าอยากจะโจมตีบริษัทฉิงรุ่ยกรุ๊ปจริงๆ พอไป๋ยี่รุ่ยถูกจับไปแล้ว ฝูงมังกรไม่มีหัว ก็แค่สะดุดล้ม ไม่จำเป็นต้องกระตือรือร้นมาก ราวกับไม่มีเวลาคิดเรื่องระหว่างกลางเลย

เวินลั่วฉิงรู้สึกอธิบายอย่างไม่ถูกว่าเรื่องนี้ถูกไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าหรือแม้กระทั่งมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน แต่ตอนนี้ไม่มีหลักฐานและไม่มีข่าวคราวของผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำให้เวินลั่วฉิสงสัยว่าตัวเองคิดมากไปรึเปล่า ความจริงเรื่องนี้มันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ

เวินลั่วฉิงเป็นคนรอบคอบ จะไม่ปล่อยให้ข้อสงสัยใดๆ ผ่านไป ตอนนี้เธอตัดสินผิดพลาดไปแล้ว Lหลิวหยิงก็อยู่ตรงหน้าอีก เธออยากจะถามว่าก่อนหน้านี้ไป๋ยี่รุ่ยผิดปกติอะไรบ้างรึเปล่า เขาได้ไปเจอคนอื่นมาบ้างไหม เรื่องนี้มันมีเรื่องอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยรึเปล่า หรือบางที……คนที่ไม่ควรจะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

หลิวหยิงมองไปที่เวินลั่วฉิง สีหน้าของเธอเริ่มจริงจังโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก หลิวหยิงยังจำได้ดีว่าเดิมทีเรื่องนี้มีแผนจะจัดการแบบเรียบๆ แต่ไม่คิดว่าจะโดนเปิดโปงอย่างกะทันหัน อดีตเพื่อนยังมีท่าทีเหมือนคิดไม่ถึงอีก เรื่องนี้ มันต้องมีคนคอยดันอยู่แน่ๆ

ถ้าไม่ใช่เจิ้งฉง งั้นคนที่สามารถเป็นไปได้ก็คือ……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน