กลุ่มองค์กรใหญ่อย่างนี้ มาปรากฏตัวที่นี่ เขากลับไม่มีการป้องกันเลยแม้แต่น้อย
“มีคนใช้ฉือเย่ฉางมาอำพราง พาตัวคนออกไป” เวินลั่วฉิงพูดเสริม ฉือเย่ฉางจัดงานที่นี่ ความเกี่ยวข้องมากมายได้รับการเตรียมตัวเอาไว้ก่อนแล้ว เดิมทีเป็นเพียงเรื่องธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้ ถ้าเป็นเพราะว่าสิ่งนี้ ถังจื่อโม่ถึงได้ไร้ร่องรอยไปจริงๆ เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าที่นี่อาจมีการล้างไพ่ครั้งใหญ่
“ฉันจะไปฉือเย่ฉางสักครั้ง” เย่ซือเฉินเม้มปาก เขาไม่เคยคบค้าสมาคมกับคนจากฉือเย่ฉางมาก่อน ครั้งนี้เขาคงต้องลองดูแล้วว่าฉือเย่ฉางมีอะไรพิเศษ
“พอดีเลย ฉันจะรออยู่ที่นี่ ดูว่าถังไป๋เชียนมีเป้าหมายอื่นอะไรไหม” เวินลั่วฉิงพยักหน้า ในเมื่อมาแล้ว ย่อมไม่อาจจากไปโดยไว แต่ทางฝั่งฉือเย่ฉางไม่อาจไม่ป้องกัน แยกเป็นสองทางก็ไม่มีปัญหา
“ได้ เดี๋ยวฉิงถิงก็มาถึงแล้ว ปกป้องตัวเองดีๆละ” เย่ซือเฉินเอื้อมมือไปกอดเวินลั่วฉิงเล็กน้อย เขาต้องไปจับตามองฉือเย่ฉาง กลุ่มองค์กรที่ไม่เคยคบค้าสมาคมมาก่อนนี้ จะชะล่าใจไม่ได้ อีกอย่างคนของฉือเย่ฉาง พวกเขาไม่เข้าใจแม้แต่น้อย และไม่รู้ว่าควรจะเตรียมป้องกันอย่างไร นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด
เย่ซือเฉินในเวลานี้สงสัย ฉือเย่ฉางจัดงานที่นี่หมายถึงอะไร หรือว่า ก่อนหน้าจะวางแผนเอาไว้แล้ว? ตระกูลถัง? ตระกูลเย่? ไม่ถูก หลังจากที่พวกเขามาก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพียงตั้งใจจัดงานประมูล
ถ้าไม่ใช่ว่าถังจื่อโม่ถูกลักพาตัวไป ก็ไม่มีใครจับตามองฉือเย่ฉาง
เป็นเพียงความบังเอิญ? หรือว่าฉือเย่ฉางถูกใช้ประโยชน์? บนเส้นทางไปยังฉือเย่ฉาง เย่ซือเฉินอดคิดไม่ได้
สถานที่ของฉือเย่ฉาง ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ตอนที่เย่ซือเฉินเข้าไปได้ถูกคนขวางเอาไว้ เขาขมวดคิ้วมุ่น ตอนนี้ไม่อาจก่อความวุ่นวายต่อฉือเย่ฉางอย่างรุนแรงเกินไป ไม่รู้ว่าฉือเย่ฉางมากันกี่คน วุ่นวายนัก
“คุณชายสามเย่?” เสียงมู่เฉิงดังขึ้นด้านหลัง เย่ซือเฉินอึ้งไป ทำไมมู่เฉิงถึงมาอยู่ที่นี่
“พวกนายออกไปก่อนเถอะ” มู่เฉิงโบกมือ คนที่อยู่ด้านข้างหมดคำจะพูด อะไรกัน เห็นว่าที่นี่คือองค์กรโกสต์ซิตี้ของตนไปแล้วหรือ? ถึงกับออกคำสั่งกับพวกเขา
ทว่าคนคนนี้นับเป็นแขก พวกเขาจึงเชื่อฟังอย่างตามใจ อย่างไรเสียหากเกิดเรื่องพวกเขาก็ไม่ต้องรับผิดชอบ คุณชายสามเย่มาไม่ดีเห็นๆ พวกเขาไม่อยากล่วงเกินอยู่พอดี มีหัวหน้าน้อยแห่งองกรค์โกสต์ซิตี้แบกรับ ไม่ดีหรือ? อีกอย่าง ถึงจะมีเรื่องอะไรจริงๆ คุณหนูหลินก็อยู่ กลัวอะไรกัน!
“นายรู้จักคนของฉือเย่ฉางด้วย?” เย่ซือเฉินถามอย่างเคร่งขรึม ไม่ใช่บอกว่าฉือเย่ฉางลึกลับมาก ไม่มีกลุ่มองค์กรไหนมีการติดต่อกับพวกเขาจริงๆ แล้วทำไมมู่เฉิงถึงได้รู้จัก
“ฉันไม่รู้จักหรอก หลินฉือรู้จักน่ะ” มู่เฉิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ ถ้าหากเขาจะรู้จักคนของฉือเย่ฉาง...ก็รู้จักอยู่นะ
เย่ซือเฉินจนปัญญา การกระทำคุ้นเคยเมื่อครู่ของมู่เฉิง ทำเขาเกือบนึกว่ามู่เฉิงมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับฉือเย่ฉางเป็นอย่างมากเสียแล้ว สรุป? หลินฉือ? สายตาของเย่ซือเฉินเคลื่อนไปยังร่างมู่เฉิงเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
มู่เฉิงยอมรับอย่างไม่หวาดหวั่น ทั้งยังไม่อธิบาย พาเย่ซือเฉินเข้าไปอย่างคุ้นเคยดี จิ่นฉือเย่อิงซบอยู่บนตัวโม่ฉี หลินฉือนอนอยู่บนโซฟาอีกตัว เห็นมู่เฉิงเข้ามา ก็ตบที่ข้างๆ
มู่เฉิงนั่งลงไป เย่ซือเฉินกระอักกระอ่วนอยู่เล็กน้อย ก่อนนั่งลงด้านข้างโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“คุณชายสามเย่มาได้อย่างไรคะ?” หลินฉือเอ่ยปากถาม จิ่นฉือเย่กับโม่ฉีมองเย่ซือเฉิน คิดถึงคนผู้นี้ รู้สึกว่าพวกเขาจะไม่ได้คลุกคลีกัน ดังนั้นจึงไม่พูดอะไร
“ฉันอยากมาถามอะไรบางอย่างกับฉือเย่ฉาง” เย่ซือเฉินพูด สายตามองไปที่จิ่นฉือเย่กับโม่ฉี น่าจะเป็นสองคนนี้กระมัง? ดูอายุน้อยมาก
จิ่นฉือเย่เอียงศีรษะมุดเข้าไปในอกโม่ฉี “ฉันคือจิ่นฉือเย่ มีอะไรถามฉันได้เลย”
เย่ซือเฉินหยิบรูปหลินฉีออกมา ดันไปให้จิ่นฉือเย่ “คนคนนี้ พวกคุณรู้จักไหม?”
“ฉันต้องกลับบ้านตระกูลโม่สักครั้ง ฉันรู้สึกว่าตระกูลโม่ จะมีข่าวคราวของจื่อโม่” เวลาชั่วพริบตาเมื่อครู่นี้ เธอรู้สึกได้ว่ามีอะไรกำลังเรียกหาเธออยู่ ไม่ใช่คนเป็นรูปธรรม แต่เป็นสิ่งของซึ่งเป็นนามธรรมไม่ชัดเจนอย่างหนึ่ง แต่ว่า จะเป็นไปได้อย่างไร ? คนคนหนึ่งจะถูกของสิ่งหนึ่งเรียกหาได้อย่างไร? อีกทั้งชั่วเวลานั้น ข้างหน้าเธอยังปรากฏร่างของถังจื่อโม่ขึ้นมาด้วย แต่ว่าเธอกับถังจื่อโม่ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกัน ถ้าจะมี ก็เป็นกับจื่อซี
เย่ซือเฉินไม่เข้าใจ กลับบ้านตระกูลโม่ จะมีตำแหน่งที่อยู่ของจื่อโม่? นี่มันหลักการอะไรกัน
“ฉันจะกลับไปตอนนี้!” หลินฉืนยืนกรานอย่างเหนือความคาดหมาย มู่เฉิงไม่เข้าใจสิ่งนี้ ไถ่ถามว่าต้องการให้เขาตามเธอไปไหม? ท่าทางของหลินฉือในเวลานี้ แปลกเกินไป เธอไปคนเดียวเขาไม่วางใจเท่าไร
“ไม่ต้อง เมื่อครู่ฉันรู้สึกได้ว่าถังจื่อโม่อยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง บนเกาะที่แปลกประหลาดมาก แต่ว่าไม่เป็นไร เขาปลอดภัยดีชั่วคราว” ดูเหมือนเพื่อทำให้เย่ซือเฉินเชื่อ หลินฉือจึงได้พูดไป เย่ซือเฉินแทบจะนิ่งงันอยู่กับที่ คำพูดนี้กลับเหมือนกันกับที่จื่อซีพูดไม่มีผิด จื่อซีก็บอกว่าจื่อโม่อยู่บนเกาะ การตอบสนองทางจิตใจของฝาแฝด เขาเข้าใจดี แต่กับหลินฉือมันหมายถึงอะไร?
หลินฉือไม่ได้พูดอะไรมาก ต่อสายโทรศัพท์แล้วออกไปจากที่นี่ สายตาของเย่ซือเฉินมองดูหลินฉืออย่างเคร่งขรึม ตระกูลโม่ ค่อนข้างลึกลับมาแต่ไหนแต่ไร หรือว่า จะลึกลับถึงขั้นมีความสามารถในการหยั่งรู้?
บางที อาจจะเป็นคำสาป? สิ่งที่เรียกว่าความสามารถนี้ เมื่อไหร่จะสิ้นสุดลงเสียที? หลินฉือขับรถไปสนามบิน รู้สึกปวดหัว ทุกครั้งจะทำให้เธอรู้สึกได้ถึงเรื่องราวบางอย่าง อาจเป็นเรื่องที่ไม่ดีเอามากๆ บางครั้งเป็นตัวเอง บางครั้งเป็นคนอื่น ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไร
หลินฉือคิดถึงตอนที่ตนรู้สึกได้ถึงเรื่องราวบางอย่างเป็นครั้งแรก คือเธอรู้สึกได้ว่าคุณแม่อยู่ที่องค์กรโกสต์ซิตี้ แต่ว่า ที่กลับมาคือร่างศพของแม่ ยังมีอีกครั้ง เธอรู้สึกได้ว่าลูกพี่ลูกน้องของตนอยู่ในที่ที่ห่างไกลมากแห่งหนึ่ง เธอยังไม่ทันตั้งใจมองให้ชัด ก็สูญเสียหลานสาวตัวน้อยไปแล้ว ต่อมา เธอรู้สึกได้ว่า ตนจะต้องเจอกับหลานสาวตัวน้อยคนนั้นอีกครั้ง จากนั้นเธอก็ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยถึงสองปี ช่วงหนึ่งปีมานี้เพิ่งออกมา
นานมากแล้ว เธอไม่กล้าให้ตัวเองคิดถึงเรื่องราวบางอย่างโดยละเอียด แต่ว่าตอนนี้...เธอรู้สึกได้ว่าถังจื่อโม่อยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง จะสูญเสียอะไรไหม?
หลินฉือไม่กล้าคิดมากนัก แต่เธออยากกลับไปบ้านตระกูลโม่ เพราะอยู่ที่บ้านตระกูลโม่ ประสาทสัมผัสของเธอจะชัดเจนขึ้น อีกทั้งเกาะที่จื่อโม่อยู่ มักจะทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคย แล้วก็เกาะแห่งนั้น มีแรงดึงดูดที่อธิบายไม่ถูกบางอย่างกับเธอ ทำให้เธอมีความปรารถนาแรงกล้าอย่างหนึ่ง จะต้องไปเยี่ยมดูที่เกาะนั่นให้ได้ ต้องไปให้ได้
ความรู้สึกเช่นนี้ ในหัวปรากฏภาพถังจื่อโม่ตัวสั่นระริกอย่างบ้าคลั่งในชั่วพริบตานั้น แม้แต่ตอนนี้ก็ระงับไว้ไม่ได้ หลินฉือรู้สึกว่า ตนใกล้จะควบคุมไม่อยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...