“นั่นเป็นเรื่องของพวกนาย ถ้านายมีความสามารถให้อะฉือยอมแต่งงานกับนายได้ล่ะก็ พวกเราก็ไม่ค้านอยู่แล้ว” โม่จื่อปากก็พูดไปอย่างนี้ ในใจก็คิดว่าวิธีการของมู่เฉิงใช้ได้เลย
เรื่ององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขาไม่อยากจะเข้าไปแทรกแซงมากมาย ถ้ามู่เฉิงสามารถออกจากองค์กรโกสต์ซิตี้ได้ อย่างนั้นแล้วสำหรับเขาแล้วก็มีแต่ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
อีกอย่างอันที่จริงคำแนะนำของพวกเขา หลินฉือเองก็ไม่เอาไปใส่ใจอยู่แล้ว สิ่งที่หลินฉือสนใจ และต้องการนั้น แต่ไหนแต่ไรมาก็ชัดเจนมามาโดยตลอด ไม่ต้องให้ใครมาพูดให้มากมาย
มู่เฉิงเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปให้มากมายเช่นกัน หลินฉือก็ดี โม่จื่อเองก็ดี หลินฉือเป็นคนที่เขาเลือกแล้ว แน่นอนว่าจะไม่มีวันทอดทิ้งไปเป็นอันขาด ไม่ว่าใครจะมาขวางอยู่ตรงหน้ามันก็เหมือนกัน
ฉิงถิงที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก ความตั้งระวังของเขานั้นสูงมากมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะเป็นตอนนี้ ก็ไม่อาจจะนอนสนิทไปได้เลย คำพูดเมื่อกี้ของมู่เฉิงกับโม่จื่อ ถูกเขาได้ยินมันทั้งหมด แต่ว่าตอนนี้ ถ้าเขากล้าลืมตาออกไป พูดกับพวกเขา จะต้องไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยสักนิดเดียวอย่างแน่นอน ไม่สู้แสร้งทำเป็นหลับไปไม่ดีกว่า
กลุ่มของพวกเขาได้แยกกันเป็นสองทาง คนที่ตามโม่จื่อไปได้กลับตระกูลโม่ไปแล้ว เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงก็ได้ตรงกลับตระกูลถังกันไปเลย ทั้งสองฝ่ายก็บอกกันไปว่าได้มาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็ยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเองกัน
“ยินดีต้องรับสู่ตระกูลโม่” หลินฉือพูดออกมาโต้ง ๆ ตอนนี้ที่ตระกูลโม่โม่จื่อเป็นผู้รับผิดชอบ ตอนนี้เจ้าตัวเดินตามอยู่ที่ข้างหลัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม
คนที่มาตระกูลโม่น้อยมาก ครั้งนี้ นับว่าเป็นข้อยกเว้น ผู้อาวุโสหลายคนที่ตามมาได้ถูกจัดลงไปแล้ว หลินฉือพาอะหลิงไปเจอญาติผู้ใหญ่ มู่เฉิงตามหลินฉือไป ถังจื่อโม่ตามอยู่กับอะหลิง
หลินฉือกลับมาน้อยครั้งมาก ผู้ใหญ่ที่บ้านชอบเธอมาก ตอนนี้เห็นหลินฉือ ดีใจจนยิ้มไม่หุบกันออกมาเลย
“อะฉือเอ๋ย กลับมาครั้งนี้ก็อยู่หลาย ๆ วันหน่อย ครั้งที่แล้ว อยู่แค่ไม่กี่วันก็ไปเสียแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรถึงได้รีบร้อนเสียขนาดนั้น”โม่เฉิน ท่านตาโม่ ผู้ที่กุมอำนาจในตระกูลโม่รุ่นก่อน คุณลุงของหลินฉือ
“ได้เลยค่ะ ครั้งนี้จะอยู่ที่นี่หลาย ๆ วันเลย” หลินฉือไม่ได้ปฏิเสธ พอดีเลย อะหลิงกลับบ้านมาก็จำเป็นต้องกลับไปรายงานตัวกับบรรพบุรุษให้รับทราบด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกของลูกพี่ลูกน้อง แต่ลูกพี่ลูกน้องได้จากโลกนี้ไปหลายปีแล้ว เลี้ยงดูอยู่ที่นี่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ได้ด้วยเหมือนกัน
“คุณลุงสวัสดีครับ” มู่เฉิงที่อยู่ทางด้านหลังได้ยิ้มเสียดูอ่อนโยนออกมา สีหน้าบนใบหน้ามีความจริงจังออกมา
“นี่คือ...” โม่เฉินมองมู่เฉิง ถามออกไปอย่างเป็นกันเอง ตามอะฉือเข้ามา อีกทั้งสายตาก็ยังอยู่ที่ร่างของอะฉืออยู่ตลอด คงจะเป็นคนที่กำลังตามจีบอะฉืออยู่ล่ะมั้ง โม่เฉินคิด
“คุณลุง นี่เป็นแฟนของฉัน มู่เฉิงค่ะ” หลินฉืออธิบายออกไป ตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่เหมาะเจาะพอดีเลยเหมือนกัน สำหรับมู่เฉิงนั้น เป็นคนที่เธอชอบ อยู่ร่วมกันมาหลายปี ความชอบที่เธอมีต่อมู่เฉิงนั้นมันไม่น้อยลงแต่กลับเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ มาเจอหน้ากันเร็วหน่อย มันก็ดีเหมือนกัน
“ในขณะเดียวกันก็เป็นหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ด้วยเหมือนกันค่ะ” หลินฉือไม่อยากจะปิดบัง ตระกูลโม่ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบองค์กรโกสต์ซิตี้ แต่ก็ไม่ใช่พวกที่หนีออกจากสิ่งที่เป็นภัยด้วยเหมือนกัน ดังนั้นแล้วจึงไม่จำเป็นเลย อธิบายออกไปเลยมันจะลดปัญหาวุ่นวายลงไปเยอะเลย
โม่เฉินเองก็ไม่ได้ยินคำว่าองค์กรโกสต์ซิตี้ออกมาอย่างตรงไปตรงมาอย่างนี้มานานแล้วเหมือนกัน จู่ ๆ ก็ถูกหลินฉือเอ่ยถึงขึ้นมา นึกไม่ถึงว่ามันจะเกิดความรู้สึกที่เกิดมาจากความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บางอย่างขึ้นมาเลย
เขามองหลินฉือ แล้วก็หันไปมองมู่เฉิงอีกที บนหน้าของหลินฉือได้เผยรอยยิ้มออกบาง ๆ ความอ่อนโยนในดวงตาของมู่เฉิงมันล้วนแล้วแต่มองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งนั้น พวกเขา มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกันจริง ๆ
“อืม มาตระกูลโม่ ก็เป็นแขกกันทั้งนั้น” โม่เฉินพูดออกมาอย่างใจเย็น
มู่เฉิงรู้ นี่หมายความว่ายังไม่ได้ยอมรับเขานั่นเอง แขกของตระกูลโม่ตั้งเท่าไหร่กัน เพียงแค่วันนี้คนจากเกาะซื่อหลีที่มามันก็ไม่น้อยแล้ว บอกเพียงแค่ว่าแขก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้พิเศษเลยสักนิด
หลินฉือไม่ได้ไปวุ่นอยู่กับปัญหานี้ เธอชอบมู่เฉิง แน่นอนว่ามันมีวิธีทำให้คนตระกูลโม่ยอมรับมู่เฉิงอยู่แล้ว ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ามันมีเรื่องที่สำคัญกว่า
“คุณลุง คนนี้คืออะหลิง เป็นลูกสาวของพี่โม่ตี๋” หลินฉือพาอะหลิงเดินเข้าไปข้างหน้า อะหลิงมีความกระวนกระวายใจอยู่บ้าง แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยจะออกจากเกาะซื่อหลีมาก่อนเลย ไม่มีความรู้ความเข้าใจต่อเรื่องภายนอกเลย ดังนั้นแล้ว พวกเขาจะไม่ชอบตนกันหรือเปล่า?
“แล้วตอนนี้เกาะซื่อหลี?” โม่เฉินพูดออกมาด้วยความเกลียดชัง นานเกินไปแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยมีใครมาล่วงเกินตระกูลโม่มาก่อนเลย เรื่องของโม่ตี๋ เขายิ่งไม่อาจยอมรับมันได้เลย!
“เกาะซื่อหลีได้ถูกระเบิดไปเรียบร้อยแล้ว อีกสองสามวันจะส่งคนไปตรวจดูอีกที คนบนเกาะถึงแม้ว่าจะมีชีวิตรอดไป ก็จะต้องพิการไปแล้ว” โม่จื่อได้พูดอยู่ที่ข้าง ๆ สิ่งที่เขารู้ต่อเกาะซื่อหลีมันไม่ได้เยอะ แต่หลินฉือบอกว่าอยากจะทำลายเกาะซื่อหลีไปเสีย บนเกาะซื่อหลีเองก็ไม่ได้มีใครอยู่มากมายแล้ว ทำลายก็ทำลายไปเสียเถอะ พวกเขาเองก็ไม่มีทางจะสงสารกันอยู่แล้ว
“งั้นก็ดี” ถึงแม้ว่าตระกูลโม่กับเกาะซื่อหลีเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะมีความเกี่ยวพันกันอยู่บ้าง แต่ก็ผ่านไปหลายปีมากแล้ว มันก็ไม่เหลือความรู้สึกผูกพันต่อกันไปตั้งนานแล้ว
“คุณลุง แล้วสถานะของอะหลิง...” พ่อและแม่ของโม่ตี๋ ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถจนเสียชีวิตกันไปหมดแล้ว โม่ตี๋ก็เป็นคนที่เลี้ยงดูอยู่ข้างกายโม่เฉินมาตลอด นับว่าเป็นกึ่ง ๆ ลูกชายคนนึงของเขาเลยทีเดียว ตอนนี้อะหลิงกลับมา ไม่มีความคุ้นเคยต่อตระกูลโม่เลยสักนิด จะใช้สถานะแบบไหนมันถึงจะเหมาะสมกัน?
“บอกไปตามความจริงก็ได้ เด็กของตระกูลโม่ ไม่จำเป็นต้องไปสนใจอะไรมากมายขนาดนั้น” โม่เฉินพูดออกมาอย่างสงบนิ่ง อีกอย่างโม่ตี๋ก็ดี คนอื่นก็ดี ต่างก็เป็นคนของตระกูลโม่ด้วยกันทั้งนั้น
โม่เฉินกวาดสายตามองโม่จื่อไปนิ่ง ๆ ถ้าโม่จื่อแต่งงานแล้ว อะหลิงก็จะสามารถรับมาอุปถัมภ์นามของเขาได้ แต่ผลสุดท้าย เขาไม่มีแม้แต่แฟนสาวเลยสักคนเดียว อะหลิงจึงไม่อาจมาอยู่ในนามของเขาได้เลย
แต่ทว่า ไม่ว่าจะอยู่ในนามของใครก็ล้วนแล้วแต่จะเป็นคนของตระกูลโม่ทั้งนั้น ไม่มีใครรังแกได้
หลินฉือพยักหน้าตอบรับออกไป ขอเพียงแค่เป็นคนตระกูลโม่ ก็โอเคแล้ว พอดีเลย ช่วงนี้เธอต้องอยู่ที่ตระกูลโม่ไปอีกสักระยะนึง จะได้สามารถทำความคุ้นเคยกับอะหลิงได้
“เธอยังคิดจะชื่อหลิงชื่อนี้อยู่อีกหรือเปล่า?” โม่เฉินได้ถามออกไปอย่างอ่อนโยน
อะหลิงคิด ๆ ไปเล็กน้อย จากนั้นก็ได้พยักหน้าออกมา เธอรักชื่อนี้ไปแล้ว ชื่ออะหลิงก็ดี เธอชอบมันมาก และก็หวังด้วยว่าคนใกล้ชิดจะสามารถเรียกเธอมาอย่างนี้ได้เหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...