“สบายใจเถอะ ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจ” หลินพูดอย่างนิ่งสงบ ไม่ว่าจะคารูหรือยู่ต๋าต่างก็เป็นคนประเภทเดียวกัน ครั้งนี้ถ้ามีโอกาสจัดการคารูได้ ก็ถือว่าลดภาระลงได้อีกเรื่อง
ถังหลินลูบหัวหลินเป้ย ไม่พูดอะไร เขามองเด็กหญิงสาวที่เชื่อฟังอยู่ใต้ฝ่ามือเขา ยิ้มสวยงาม ครั้งแรกที่ได้เจอหลินเป้ย รู้สึกว่าเธอเป็นตัวแสบ แต่ตอนนี้ดูไปแล้วเหมือนแมว บางทีก็ขี้เกียจ บางทีก็เย่อหยิ่ง แต่ขอแค่เป็นหลินเป้ย เขาชอบทั้งนั้น
วันที่สอง ยังไม่ถึงเวลานัด ยู่ต๋าก็พาแม่ของหลินเป้ยมาตรงที่นัดหมายแล้ว เรียกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างที่จะสงบนิ่ง ไม่ถามอะไรทั้งนั้น ฟังที่พวกเขาจัดการทั้งหมด ดังนั้นคนพวกนี้จึงไม่ทำเธอลำบาก
“คุณว่า ลูกชายคุณจะมาไหม?” ยู่ต๋าเอ่ยปากถามไปเรื่อย มีแม่ที่สวยอย่างนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมรูปลักษณ์เจ้าชายน้องถึงโดดเด่น
แม่ของหลินเป้ยพูดอะไร เฝ้ารอการมาของหลินเป้ย แต่ก็หวังว่าหลินเป้ยจะไม่มา ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้เธอจะเลี้ยงหลินเป้ยให้เหมือนเด็กผู้ชาย แต่ยังไงก็เป็นผู้หญิง เทียบกับคนพวกนี้แล้วจะสู้ได้ยังไง?
“แม่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันต้องมาแน่นอน” หลินเป้ยเดินเข้ามาลำพัง พวกเขาช่างกล้าที่จะนัดในที่ที่ห่างไกลอย่างนี้ รอให้ตัวเองเกิดเรื่องหรือไง? หรือว่ารอให้พวกเขาเองเกิดเรื่อง? ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีคนตายอยู่ที่นี่
“หลินเป้ย!” แม่ของหลินเป้ยตะโกนเรียกเสียงดัง เจ้าเด็กโง่คนนี้ทำไมถึงได้มาคนเดียวจริงๆ? เธอคนเดียว จะสู้คนเยอะขนาดนี้ได้ไง?
หลินเป้ยเหลือบมองแม่ของเธอ เบาหวิว อยู่ๆ คุณแม่หลินก็นิ่งสงบลง ใช่แล้ว ตัวเองกำลังกังวลอะไร? หลายปีมานี้ เธอสามารถเดินมาได้จนถึงตอนนี้ จะไม่เตรียมตัวมาเลยสักนิดได้ยังไงกัน? ที่ตัวเองต้องทำก็คือไม่ทำให้เธอเป็นห่วง
“ฉันก็มาถึงแล้ว พวกแกปล่อยแม่ฉันได้ยัง?” หลินเป้ยจ้องตรงไปที่ยู่ต๋า คนคนนี้ช่างไม่รู้จักเจียมตัวเลยสักนิด จุดจบของคารู เขาลืมไปแล้วหรือไง? ตอนนี้กล้าออกมาซึ่งๆ หน้า มีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้วสินะ
“ใช่ งั้นเจ้าชายน้อยรู้ไหมว่าทำไมพวกเราถึงให้คุณตามมาทีหลัง” ยู่ต๋าพูดและหัวเราะ เจ้าชายน้อยตอนนี้ยังไม่รับความชื่นชอบจากราชา แล้วยังไงก็ต้องมีคนไม่ชอบเขาอยู่ดี
“ที่นี่เหมาะแก่การทำลายหลักฐาน พวกแกวางแผนไว้อย่างนี้สินะ” หลินไม่พูดมาก เรื่องที่รู้แก่ใจไม่ต้องแกล้งแสดง
“เจ้าชายน้อยฉลาดจริงๆ รู้แล้ว ยังกล้ามาคนเดียว?” ยู่ต๋าถามยิ้มๆ เจ้าชายน้อยคนนี้ดูผิวพรรณดี ไม่รู้ว่าจับแล้วจะรู้สึกยังไง ยู่ต๋าคิดได้อย่างนี้อยู่ก็อยากจะลองดูหน่อย
หลินเป้ยรู้สึกได้ว่าสายตาของยู่ต๋ามีความเปลี่ยนแปลง หนาวขึ้นมาทันที “ในเมื่อฉันรู้วัตถุประสงค์ของแกแล้ว แกคิดว่าฉันจะไม่เตรียมตัวมาหรือไง?”
“โอ้? คุณเตรียมอะไร อย่าลืมสิ แม่ของคุณยังอยู่ในมือฉันนะ” ยู่ต๋าให้คนดันแม่ของหลินเป้ยออกมา ไม่ได้นอนดีทั้งคืน ขอบตาของแม่จึงดำขึ้นมา หลินเป้ยมองยู่ต๋า ดีมาก ไม่เลว เดิมทีเข้าใจว่าเขาโง่ ว่าจะปล่อยเขาไป คิดไม่ถึงว่าคนคนนี้จะหาที่ตายเอง
“ปล่อยแม่ฉันไป แกอยากจะทำอะไร ฉันจะยืนนิ่งไม่ขยับ” หลินเป้ยยืนอยู่ตรงนั้น พูดอย่างไม่เกรงกลัว ถ้าเธอไม่ตั้งครรภ์ ก็ยังจะต่อสู้กับคนพวกนั้นได้ แต่ตอนนี้เธอตั้งครรภ์ มีหลายอย่างที่ทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้ ดังนั้นจึงทำได้แค่ยื้อเวลาไว้รอให้พี่ชายมา อีกอย่าง หลินเป้ยรู้ ถังหลินอยู่ละแวกนี้ เขาจะปกป้องเธอเอง จึงไม่เกรงกลัว
“คุณปลดอาวุธบนตัวทั้งหมดออก” ยู่ต๋าไม่ไว้ใจ เจ้าชายน้อยเป็นคนที่มีความสามารถ ฝีมือกลอุบายไม่เลว เขาไม่อยากจะเก็บความอันตรายที่ซ่อนอยู่ไว้
เจ้าชายน้อยกลอกตาใส่เขา “แกดูบนตัวฉัน มีตรงไหนที่จะซ่อนของได้?”
ยู่ต๋าอึดอัดนิดหน่อย เขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าชายน้อยจะจิตใจเยือกเย็นขนาดนี้ ทั้งที่รู้ว่าที่นี่เพราะอะไร แต่ไม่เอาอาวุธมาเลยหรือไง? ดูถูกพวกเขาเกินไปแล้วสินะ
ยู่ต๋ารู้สึกว่ามีแผนร้าย แต่ถังหลินก็ไปแล้ว วันนี้องค์ชายใหญ่ก็มีคนกีดขวางไว้ปลีกตัวออกมาไม่ได้ แล้วยังมีใครช่วยเขาได้อีก? ยู่ต๋าคิดสักครู่ รู้ว่าไม่มีปัญหา โล่งใจ “เจ้าชายน้อยช่างกล้าจริงๆ”
หลินเป้ยไม่ยอมแพ้ : “ฉันสู้แกไม่ได้หรอก คารูเพิ่งจะตายได้ไม่นาน แกก็ไม่รู้จักเจียมตัว ช่างไม่กลัวมีจุดจบเหมือนคารูเสียจริง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...