หางคิ้วของถังหยุนเฉิงนั้นเลิกขึ้นทันที เขามองใบหน้าของเด็กน้อย ดวงตาคู่นั้นค่อยๆ เคร่งเครียดขึ้น เด็กคนนี้งั้นเหรอ?
เด็กคนเดียว จะเป็นชายหรือหญิงก็ดูไม่ต่างกัน
แต่การที่เด็กมาโผล่อยู่ตรงนี้คนเดียวมันไม่ปกติเลย
เด็กผู้หญิงคนนี้ดูแล้วอายุน่าจะราวๆ สิบเอ็ดสิบสองขวบ เสื้อผ้ามีดินโคลนเลอะเทอะมากมาย จนไม่เห็นสีเสื้อจริงๆ แล้ว
เมื่อเช็ดหน้าจนสะอาดแล้วใบหน้านั้นขาวเป็นพิเศษเลยล่ะ
แต่ก็ไม่ได้ซีดขาวเหมือนป่วยจนซีดเผือด ใบหน้าของเด็กหญิงคนนั้นยังมีรอยสีแดงที่ดูไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่
ถังหยุนเฉิงหรี่ดวงเย็นชาลง มือเขาทาบไปที่หน้าผากของเด็กคนนั้น ก็พบว่ามีไข้เล็กน้อย เหมือนเด็กหญิงคนนั้นกำลังเป็นไข้หวัดอยู่
“ประธานถัง ตอนนี้พวกเราเอาอย่างไรดี?” เสี่ยวอู๋มองเด็กที่ยังสลบไม่ได้สติ ก็ยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่
เมื่อครู่ประธานถังกะจะไปที่เมือง แต่มาเจอเด็กหญิงที่นอนไม่ได้สติแบบนี้เนี่ยนะ?
หรือว่าจะต้องเอาเด็กคนนี้เข้าไปในเมืองด้วยงั้นเหรอ?
ถังหยุนเฉิงเบ้ปากเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาจัดการกับดินโคลนที่อยู่บนตัวเด็กน้อย จากนั้นก็หยิบเสื้อโค้ตที่เอาไว้เผื่อใช้ใส่ให้กับเด็กหญิงคนนั้น
เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้ว ถังหยุนเฉิงเงยหน้าขึ้นมองไปทางด้านหน้า: “หลับไปในเมือง”
เด็กผู้หญิงคนนี้สลบไม่ได้สติ ถึงแม้ว่าเนื้อตัวภายนอกจะดูไม่ได้บาดเจ็บอะไร การหายใจก็เป็นปกติ แต่ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ เมื่อครู่หมู่บ้านเล็กๆ ที่เขาเพิ่งไปมานั้นเหมือนจะไม่มีแม้แต่คลินิกด้วยซ้ำ
ถังหยุนเฉิงรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้มาโผล่ตรงนี้แบบไม่ปกติเท่าไหร่ ตอนนี้เขากังวลว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะมาเกิดเรื่องอะไรในมือของเขา จากนั้นคนพวกนั้นก็จะใช้โอกาสนี้ในการทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่
ดังนั้น เขาไม่สามารถทำให้เด็กผู้หญิงคนนี้เกิดเรื่องได้ และแน่นอน ว่าถึงจะไม่มีเหตุผลเหล่านี้ เขาก็ไม่มีทางเห็นเด็กผู้หญิงเกิดเรื่องอะไรขึ้นแบบไม่ทำอะไรได้
“ประธานถัง ให้ฉันอุ้มดีกว่า” เสี่ยวอู๋เข้าใจดีว่าประธานถังอยากจะเอาเด็กผู้หญิงคนนี้กลับเมืองไปด้วย ในสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่าจะให้ประธานถังอุ้มคนเดียวไม่ได้ ถึงเด็กผู้หญิงจะยังเด็กยังเล็ก แต่น่าจะหนักราวๆ สามสิบกว่ากิโลได้ อุ้มแบบนี้ราวสองชั่วโมงเพื่อเดินบนถนนในภูเขานั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
เสี่ยวอู๋อุ้มเด็กผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา ก่อนจะขึ้นรถไปกับถังหยุนเฉิง เสี่ยวอู๋นั้นร่างกายแข็งแรงดี การอุ้มเด็กผู้หญิงเลยไม่ได้มีปัญหากับความเร็วในการเดินเท่าไหร่
แต่เมื่อพวกเขาเดินไปได้ราวๆ ยี่สิบนาที เมื่อเห็นว่าทางด้านหน้ามันไปต่อไม่ได้ ก็งงเป็นไก่ตาแตก
ดินถล่มในครั้งนี้มันหนักกว่าเมื่อครู่ไม่น้อยเลย ถนนที่เล็กอยู่แล้วมันถูกดินถล่มลงมาบังทางจนหมด กองหินนั้นมันก็สูงมาก น่าจะสูงราวๆ สองสามเมตรได้
แน่นอนว่าความสูงขนาดนั้น จะให้ถังหยุนเฉิงกับเสี่ยวอู๋ปีนขึ้นไปนั้นมันไม่ได้ยากเลย แต่สิ่งสำคัญก็คือหินพวกนั้นมันเพิ่งถล่มลงมา เลยไม่มั่นคงเท่าไหร่ ถ้าปีนขึ้นไป ก็อาจจะทำให้ไหลหรือถล่มลงมาได้ง่าย
อีกทางก็เป็นหน้าผา ถ้าเกิดว่าหินภูเขามันสั่นไหวมากเกินไป ไม่แน่พวกเขาอาจจะตกหน้าผาก็ได้
หินภูเขาด้านล่างนั้น ถ้าเกิดทำให้เกิดดินถล่มอีก คงเกิดผลที่ไม่คาดฝันขึ้นได้เลยล่ะ
แสงไฟของไฟฉายของถังหยุนเฉิงนั้นส่องไปด้านบน ก็พบว่ายังมีหินภูเขาอยู่มากมายบนกองนั้น ดังนั้น ถ้าเกิดหินภูเขาเกิดขยับขึ้นมา หินด้านบนจะต้องถล่มลงมาไม่หยุดแน่นอน
ดังนั้น ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าพวกเขาอยากจะปีนข้ามไป เป็นตายก็เท่ากัน
ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้พวกเขายังต้องอุ้มเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปอีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...