บทที่ 379 การสลับปริศนา (5)
มีหลายสิ่งที่เขาอยากจะพูดออกมา แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน
เขาคิดไว้แล้วว่าจะเจอเธอสักวัน เขาไม่ได้วางแผนจะวิ่งหนีไปตลอด
แต่เขาไม่ได้เตรียมคำพูดหรือข้ออ้างอะไรเอาไว้เช่นกัน
“…ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
เธอมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะพูดกับคนตรงหน้าและในที่สุดเขาก็ทักทายธรรมดาๆกับเธอ เธอมีความรู้สึกมากมายที่เธออยากจะระบายออกมา แต่ความคิดของเธอก็สั่นคลอน เธอต้องการเวลาเพื่อแยกแยะพวกมันออกจากัน
“นายพูดถูก ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
เธอมองดูผู้ชายที่เธอชอบ
– อารมณ์จากหัวใจของเธอ
– ความรักที่เธอมีต่อเขา
– คำถามของเรื่องราวต่างๆ
– ความเกลียดชัง
– ความอยากเอาชนะอันรุนแรง
เสียงจากดาบของเธอทำให้บรรยากาศที่น่าอึดอัดใจลดลงครึ่งหนึ่ง
เธอชี้ไปที่เขาด้วยดาบยาวของเธอ เธอยกดาบของเธอขึ้นมาเพื่อต่อสู้ชายผู้เคยบอกว่า ‘ดาบเหมาะกับเธอมากกว่าธนู’ ใบหน้าที่เฉยเมยของเขาถูกจารึกลงในจิตใจของเธอ และตอนนี้ใบหน้าของเขาอยู่ที่ปลายดาบของเธอ
“ฉันมี…คำถามมากมายที่อยากถาม”
เธออยากฟังคำตอบ แต่ก้อนในคอทำให้เธอไม่สามารถพูดออกมาได้
“………….”
เขามองตรงไปที่ดวงตาของเธอ มีหลายอย่างที่เขาไม่ได้บอกเธอและเขาไม่สามารถบอกเธอได้ เพราะสิ่งที่เขาไม่สามารถพูดได้ในอดีตเขาก็ไม่สามารถพูดได้ในปัจจุบัน มันอาจดูเหมือนว่าเขาขี้ขลาดแต่เขาต้องทำแบบนี้ไม่งั้นเขาจะต้องหลงทางระหว่างโลกทั้ง 2 ใบนี้
“ฉันคิดถึงมันทุกคืน”
และเพราะเธอยกดาบขึ้นมา พลังเวทมนต์ของเธอก็เกาะติดกับคมดาบ กระแสพลังเวทย์มนตร์โหมกระหน่ำทุกทิศทาง
“แน่นอนฉันไม่ใช่คนที่ฉลาดอะไร และฉันก็ยังนึกไม่ออกแม้แต่ในคืนนี้”
น้ำตาไหลอาบแก้มของเธอ
“ฉันยังไม่เข้าใจ”
เธอไม่พูดอะไรมาก ประโยคหลายพันประโยคถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียว
อารมณ์ที่ท่วมท้นถูกขังอยู่ในประโยคเดียว
“ดังนั้นบอกฉันมาในแบบที่ฉันเข้าใจ”
ความตั้งใจแน่วแน่ของเธอถูกยึดมั่นในดาบที่เธอถือ
“พูด.”
“… .”
เขาเข้าใจเธอ แต่เขารู้จากการไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งและความปวดร้าวทางจิตใจซึ่งเริ่มจากช่วงเวลาที่พวกเขาเจอกันอีกครั้งสิ่งเดียวที่เขาสามารถพูดได้ในตอนนี้คือ …
“รอก่อนนะ.” …คำพูดที่แสนขี้ขลาดนี้
“รออะไรอีก?”
เธอหัวเราะออกมา เธอมึนงงไปหมด ชีวิตของเธอช่างลำบากเหลือเกิน เธอไม่รู้สึกเหมือนมีชีวิตอยู่และเธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่เช่นกัน เธออยากใช้ชีวิตของตัวเอง แต่เธอไม่อยากรอ รอให้เขาบอกความจริงกับเธอซักวัน
“นายจะหนีไปแบบนี้อีกแล้วเหรอ”
เธอกัดฟัน ความเศร้าใจทำให้เธอปวดร้าว พ่อของเธอพร้อมที่จะละทิ้งทุกอย่างแม้แต่ แดฮยอง เพื่อเธอ ถ้าความโกรธทำให้เธอตาบอดเธอสามารถไปบอกกับ พ่อหรือว่าปู่ของเธอไม่นานเธอจะได้พบคิมฮาจินและฉีกร่างของเขาออกจากกัน แต่เธอปฏิเสธที่ทำแบบนั้นและทนทุก อย่างเอาไว้เพียงคนเดียว เธอแบกรับทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความโกรธความเศร้า ความรัก ความเกลียดชังของเธอบนไหล่ของเธอ เพียงเพื่อให้เธอสามารถ…ได้ยินเขาบอกความจริงในสักวันหนึ่ง
“ฉันไม่ได้วิ่งหนี”
เขาตอบอย่างใจเย็นด้วยเสียงที่เธอยังคงจำได้
“…ถ้างั้นเอาอาวุธของนายออกมา ฉันจะเอาชนะนายและบังคับให้นายบอกความจริงออกมา ฉันจะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอเขาหยิบปืนออกมา เธอพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“ดีมาก ทีนี้ฉันจะฆ่าแกซะ”
เสียงเย็นชาดังขึ้น เธอลดความยาวของดาบลงในแนวทแยง เปรี้ยง…พลังเวทมนต์ที่ไม่สามารถต้านทานได้พรั่งพรูออกมาจากร่างของเธอพลังเวทมนต์และคมดาบ ตอนนี้เธอพร้อมที่จะโจมตีในเวลาไม่กี่วินาที
ต่อจากนี้
“เธอไม่ควรพูด แบบนั้นนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ร่างกายของเธอก็กระโจนเข้าใส่ จิตสังหารของเธอนั้นออกมาจากจริงใจและพลังเวทมนต์ในดาบของเธอก็เปลี่ยนรูปร่าง
วูบบบบบบบบบบบบบบ…
คมดาบลุกโชนอย่างเงียบๆ ขณะที่มันเคลื่อนที่ไปทางด้านข้างของเขา แต่บาเรียของเอเธอร์ขัดขวางเส้นทางของมันเอาไว้ เอเธอร์ ที่ไม่มีรูปร่างดูดซับพลังเวทมนต์ของเธอผ่าน ‘การสกัด’ แต่เธอก็ไม่ได้ตกใจกับมัน
เธอไม่มีเวลาคิด เธอยังคงแกว่งดาบของเธอ 1 ครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง…
การโจมตีที่บ้าบิ่นเต็มไปด้วยอารมณ์ พวกมันไม่เหมาะที่จะเรียกว่าทักษะดาบ เธอกรีดเพื่อที่เขาจะได้ไม่สังเกตเห็นน้ำตาไหลบนแก้มของเธอ การโจมตีของเธอเทสาดลงมาเหมือนสายฝน
ตู้มมมมมมม,ตู้มมมมมมม,ตู้มมมมมมม,ตู้มมมมมมม….
ทันใดนั้นก็มีเสียงครวญครางก็ดังขึ้น เธอกลั้นลมหายใจและหยุดลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The Novel’s Extra