ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 970

บทที่ 970 เจตจำนงในสมัยโบราณ

“อาจารย์ ผมพร้อมแล้ว!” เฉินเกอตะโกนบอก

“เริ่มทำพิธี!” ปรมาจารย์หยุนคงถอยหลังไปหลายก้าว ดวงตาเบิกกว้าง จากนั้นได้ใช้คลื่นพลังฝ่ามือวงกลม ปรมาจารย์ทั้งสี่ก็ทุ่มพลังไปทั้งหมด ผลักพลังทิพย์ไปยังอาจารย์สวีหมี

แสงที่แข็งแกร่งได้ถูกส่องมาจากบนหอ จากนั้นนาฬิกาดาวก็หมุน ผนึกสวนหลิงลอยขึ้นเปล่งแสง หอทั้งหอจึงสว่างไสวขึ้นมา รอบด้านของเฉินเกอเต็มไปด้วยดวงดาว กลุ่มดาวเปล่งประกายระยิบระยับ แต่งแต้มอยู่บนท้องฟ้าสีน้ำเงินที่ว่างเปล่า

“สวยมาก มันคือดาวซิงหยวนใช่มั้ย?” เฉินเกอถอนหายใจในใจ ถึงแม้ว่าเป็นผู้ฝึกตน คนจำนวนน้อยที่จะสามารถเห็นภาพแบบนี้ได้

“ลูกเอ๊ย มันก็คือที่มาของพลังของนาย อยู่ที่ซิงหยวน จะได้รับความสงบสุขไม่รู้จบสิ้น ยังสามารถรับพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุด” เสียงที่ไร้ตัวตนของสวีหมีได้ส่งเข้าไปในหูของเฉินเกอ

“เตรียมตัวให้ดี ฉันจะให้นายเห็นตัวตนที่แท้จริงของนาย” สวีหมีพูดจบ สองมือได้ตั้งกระบวนท่า จากนั้นก็ใช้แรงดัน ในเวลาเดียวกันก็ได้เงยหน้ามองไปทางตำแหน่งของเฉินเกอ ทันใดนั้นแสงหลายแสงก็ได้พุ่งออกมาจากดวงตาและปากของสวีหมี พลังทิพย์ได้ถูกถ่ายทอดไปยังร่างกายของเฉินเกออย่างต่อเนื่อง เฉินเกอมองมือของตัวเองที่กำกระบี่ซิงหยวนไว้ ใบมีดได้เรียงรายด้วยดาวเจ็ดดวง กำลังดูดซับพลังแห่งดวงดาวอย่างต่อเนื่อง

ผ่านไปหลายนาที ร่างกายของเฉินเกอได้สลายไปแล้ว รูปร่างของเขาในตอนนี้ เสมือนวิญญาณออกจากร่างแล้วกลายเป็นแปรเทพ และขนบนร่างกายของเปลี่ยนเป็นสีบรอนซ์ทั้งหมด ล่องลอยไปพร้อมกับพลังทิพย์ของเขา หน้าผากได้มีตาทิพย์เพิ่มขึ้นมาหนึ่งดวง ลูกตาก็คือผนึกสวนหลิงขนาดย่อ

พลังกระบี่ซิงหยวนในมือ ไม่ได้โอ่อ่าเหมือนเมื่อก่อน แต่ด้วยจิตวิญญาณ ราวกับว่าไม่มีสิ่งไหนที่มันจะตัดไม่ขาด

“อาจารย์ ฉันรู้สึกว่าตอนนี้พลังของฉัน สามารถที่กลืนภูเขาลำธาร สามารถที่คว้าเดือนคว้าดาว มันช่างแข็งแกร่งมาก” เฉินเกอดีดนิ้วชี้เพียงเบาๆ หนึ่งในดวงดาวที่อยู่ในซิงหยวนก็บินไปออกไปไกลแสนไกล วาดเป็นเส้นทางดาวตก

“อันนี้ก็คือเจตจำนงของนายในสมัยโบราณ จำความรู้สึกตอนนี้ไว้ เทพเจ้าโบราณเป็นผู้สร้างที่นำชีวิตมาสู่โลกของเรา และมีเพียงบุตรของเทพเจ้าเท่านั้นที่สามารถสัมผัสมันได้ ยืมพลังของมันมาใช้

อาจารย์ได้ถ่ายทอดเทคนิคที่แข็งแกร่ง-วิชาสยบสรรพสิ่งของกระบี่ให้กับนาย ความหมายของวิชาสยบสรรพสิ่งก็คือ สามารถทำลายล้างแม้แต่ความว่างเปล่า ยังไม่ทันที่เฉินเกอจะตอบสนอง กระบวนท่าของกระบี่ซิงหยวนที่พลิ้วไหวดั่งเมฆและสายน้ำก็ได้สลักลงที่ความทรงจำของเขา

“ลูกเอ๊ย ต่อจากนี้ ก็อยู่ที่ตัวนายแล้ว............” น้ำเสียงของสวีหมียิ่งอยู่ยิ่งแผ่วลง สุดท้ายก็หายไปจนไม่สามารถมองเห็น

แสงที่ปกคลุมเหมือนเกราะป้องกันที่อยู่โดยรอบหอผงาดเวหาได้ค่อยๆ หายไป ดวงดาวที่อยู่รอบตัวเฉินเกอก็ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาในสภาพที่ปกติ กลับมายังภาพเดิมของยอดหอ สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ เฉินเกอที่สวมใส่ชุดสีขาวทั้งชุด ผมและคิ้วได้กลายเป็นสีบรอนไปแล้ว ด้ามกระบี่ซิงหยวนมีดวงดาวเพิ่มมาเจ็ดดวง พลังทิพย์ที่ยังไม่ทันได้เข้าสู่ภายในร่างกายกลับมีเสียงแตกพรึบๆ พรับๆ บนผิวหนังของเขา

“อาจารย์! ฉันสำเร็จชั้นที่เก้าของขอบเขตเจินเสินแล้ว!” เฉินเกอบินลงมาจากยอดหออย่างดีใจ กลับเห็นสวีหมีที่นอนอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!