บทที่ 969 ผนึกสวนหลิง
หินก้อนนี้แสดงคลื่นพลังอย่างต่อเนื่อง ไม่เสียทีที่เป็นหินสมัยโบราณ เฉินเกออดไม่ได้ที่ถอนหายใจแล้วกล่าว
“หลังจากที่ควันดำถูกเล๋ยเล่ดูดไปแล้ว บนหินนี้ยังมีฮู้อยู่อีกชั้นหนึ่ง เหมือนมันถูกปิดผนึกเอาไว้ ฉันแนะนำให้พวกนายไปถามคณบดีสวีหมี ของสถานศึกษาหลิงคง” ท่านฟ่านถึงแม้จะมีความรู้ความสามารถ แต่ว่าพละกำลังของเขาได้เอาไปทุ่มให้กับการศึกษาเรื่องของเผ่าผีหมดแล้ว สำหรับเรื่องฮู้นั้นเขาก็รู้แค่งูๆ ปลาๆ
“อาจารย์ จู่ๆ ท่านฟ่านก็เอ่ยถึงสวีหมี ทำให้เฉินเกอคิดถึงเขาแล้ว สวีหมีช่วยเหลือเฉินเกอโดยไม่หวังผลตอบแทน และได้ช่วยเหลือเฉินเกออย่างลับๆ ไว้หลายครั้ง เฉินเกอก็เห็นท่านเป็นเหมือนคนในครอบครัว ไม่รู้ว่าตาเฒ่าคนนี้ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เพียงแต่เวลานี้เขาต้องการพบใครอีกคนมากกว่า
“ผมรู้ว่าผมจะไปไหนแล้ว ปรมาจารย์ฮู้เวทย์ของวิหารฮู้เหอเฉิงก็เป็นอาจารย์ของผม” เฉินเกอยกมือคารวะ ในเวลาเดียวกันก็ได้แสดงความคิดของตัวเองกับท่านฟ่าน
เฉินเกอหยิบฮู้หายตัวออกมา พริบตาเดียว เฉินเกอกับเล๋ยเล่ก็ได้ปรากฏตัวอยู่ในเขตแดนของวิหารฮู้ หลังจากคนไปรายงาน เหอเฉิงได้มองแล้วยิ้มทางเฉินเกอ แล้วพูดยกยอ: “เฉินเกอ ไม่เจอกันเสียนาน นายเปลี่ยนไปตั้งเยอะ นายไปแผ่นดินหลิงคงไม่นาน ก็สามารถสำเร็จติดต่อกันไปหลายขอบเขต ฉันมองนายไม่ผิดจริงๆ ลูกศิษย์ฉันโคตรเทพจริงๆ เลย”
“อาจารย์ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคำสั่งสอนแนะนำของท่าน ศิษย์รู้สึกขอบคุณมาก ที่ผมมาในครั้งนี้มีเรื่องให้ท่านช่วย ไม่ทราบว่าอาจารย์เคยเห็นฮู้นี้มั้ย?”
มันเป็นเรื่องใหญ่ เฉินเกอทักทายเหอเฉิงสั้นๆ ก็เข้าประเด็นทันที หยิบผนึกสวนหลิงที่ที่ถูกปิดผนึกออกมา
“มันคือฮู้ของสมัยโบราณแล้ว ก็ไม่แปลกที่นายจะไม่รู้จัก มันคือผนึกโลหิตชนิดหนึ่ง มีเพียงเจ้าของโลหิตและทายาทของเขาถึงจะแก้ผนึกได้” เหอเฉิงตอบ
เวลานี้เฉินเกอก็คิดในใจ หากหินก้อนนี้ไม่ใช่หินที่คนสมัยก่อนหลงเหลือไว้ สิ่งที่ตัวเองทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่าใช่มั้ย?
“หินก้อนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ สวยมาก” เหอเฉิงมองผนึกสวนหลิงอย่างหลงใหล พอดีเลยฉันเคยเห็นวิธีปลดผนึกในหนังสือโบราณที่อยู่ในวิหารฮู้ มาๆๆ ฉันจะถ่ายทอดให้นาย เหอเฉิงใช้นิ้วมือวาดไปที่กลางอากาศวาดสัตว์ดุร้ายที่เหมือนมังกรแต่ไม่ใช่มังกร จากนั้นก็ใช้แรงผลักแจกันที่อยู่บนโต๊ะ แสงสีทองก็ไปส่องอยู่ที่แจกัน ตัวอักษรบนแจกันกับผนึกสวนหลิงมีความคล้ายคลึงกัน
“หากนายจะปลดผนึก ก็ต้องใช้เลือดของตัวเองมาวาดฮู้ และหาก นายไม่ใช่ทายาทของหินก้อนนี้ ก็จะถูกฮู้กัด หากเบาก็พักรักษาตัวสิบวันหรือครึ่งเดือน หนักคือเอ็นขาดกระดูกเคลื่อน” เหอเฉิงกล่าวเตือน
“ผมไม่มีทางเลือก มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่มีทางถอยแล้ว” เฉินเกอกัดนิ้วชี้จนเลือดออก แล้ววาดรูปสัตว์ดุร้ายที่เหมือนมังกรแต่ไม่ใช่มังกรลงบนผนึกสวนหลิง จากนั้นค่อยๆ ถ่ายทอดพลังเข้าไป คนรอบข้างต่างกลั้นหายใจ เริ่มแรกก้อนหินไม่มีปฏิกิริยาเลยแม้แต่นิดเดียว ในขณะที่สีหน้าของเล๋ยเล่และเหอเฉิงปรากฏด้วยความผิดหวังนั้น รอยเลือดรูปสัตว์ดุร้ายค่อยๆ ถูกดูดเข้าไปแล้ว จากนั้นฮู้ที่อยู่รอบๆ ก้อนหินพริบตาเดียวก็ได้สลายกลายเป็นแสงสีทอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!