บทที่ 10 เป็นคนยากจนชั่วข้ามคืน
“ฮึ เป็นไปได้อย่างไร ถนนการค้าจินหลิง นอกจากพี่ฝาน ยังมีใครที่มีอำนาจมากขนาดนี้อีก? หยางฮุย นายจะบอกว่านายหรอ? ”
ตอนนี้สวี่ตงยิ้มอย่างเย็นชา
หยางฮุยอดกลั้นความโมโหแล้วพูดว่า : “ผมไม่ได้บอกว่าเป็นผม ผมแค่พูดความสงสัยของผมออกมา เมื่อครู่นี้เสี่ยวหนานยีฟาน และเพื่อนหอพักของยีฟานต่างก็โทรศัพท์ติดต่อเพื่อน ความหมายของผมก็คือว่า เกิดมีเพื่อนให้ความช่วยเหลือพวกเราละ พวกเรากลับไม่รู้ว่าจะขอบคุณได้อย่างไร?”
“มีเหตุผล!”
ตอนนี้แววตาของจ้าวยีฟานมีความสงสัยอย่างมาก
“ฉันว่าเอาอย่างนี้แล้วกัน ทุกคนตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่โทรออกไปเมื่อครู่นี้อีกครั้ง ลองดูสิว่าตกลงพี่ฝานช่วยพวกเรา หรือเพื่อนๆของทุกคน?”
จ้าวยีฟานเริ่มเรียกพี่ฝานอย่างสนิทสนม
พูดจบ ทุกคนต่างก็เริ่มยุ่งอยู่กับการโทรศัพท์ไปเช็กกับเพื่อน
เฉินเกอยืนอยู่ข้างๆมองดูด้วยความรู้สึกเก้ๆกังๆ
จะพูดความจริงออกมาดีไหมนะ?
ถือโอกาสช่วงที่เฉินเกอยืนนิ่ง ทุกคนต่างก็ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว
นั่นก็คือ เพื่อนๆของพวกเขาต่างก็ไม่มีความสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้
“ฮึ ฉันก็บอกแล้วไง ไม่ใช่คนอื่นแน่นอน อำนาจของพี่หนิงฝาน พวกนายไม่สามารถคาดคิดได้หรอก!”
สวี่ตงจ้องมองไปที่กลุ่มหยางฮุยด้วยความเย็นชา
“โอเค ฉันว่าทุกคนไม่ต้องทายกันแล้ว ตอนนี้พี่ฝานน่าจะรอพวกเราอยู่ที่หน้าประตูแล้ว อย่าให้เขารอนานเลย!”
จ้าวยีฟานมองไปที่หยางฮุยรวมไปถึงกลุ่มเฉินเกอแวบหนึ่ง
ในใจรู้สึกดูถูกเล็กน้อย
ดูท่าแล้ว พวกเราอิจฉาหนิงฝานที่สามารถจัดการธุระได้ ดังนั้นจึงพูดแบบนั้น
กลุ่มคนหนึ่งเดินมาถึงหน้าประตู
เป็นอย่างที่คิดจริง
หนิงฝานกับเพื่อนสองสามคนของเขา จอดรถหรูสองสามคันรออยู่ข้างหน้าประตูแล้ว
“เสี่ยวหนาน ตกลงเธอจะไปหรือเปล่า?” จ้าวยีฟานดึงมือของหม่าเสี่ยวหนานเอาไว้
“ยีฟาน ฉันไม่อยากไปแล้วจริงๆ เอาไว้ต่อไปมีโอกาสแล้วกัน!”
หม่าเสี่ยวหนานชอบความตรงไปตรงมา เธอรู้สึกว่าหนิงฝานมีความเสแสร้งเล็กน้อย ไม่ชอบเป็นอย่างมาก
ส่วนจ้าวยีฟานไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของเธอได้ จึงทำได้เพียงพูดว่าตัวเองไปกับเพื่อนๆของเธอก่อน
จากนั้น ก็แยกจากกันที่ประตูของตี้หวางKTV
หลังจากที่พวกเธอไปแล้ว เฉินเกอมองไปที่หม่าเสี่ยวหนานกับกลุ่มหยางฮุยแวบหนึ่ง
สีหน้าผิดหวังเล็กน้อย
มองออกว่า พวกเราต่างก็อยากไปเปิดหูเปิดตาที่วิลล่าเวินฉวน
แต่เมื่อครู่นี้กลุ่มหยางฮุยเนื่องจากสาเหตุของตัวเอง จึงถูกหนิงฝานตะคอกใส่สองสามประโยค
ทำให้อารมณ์แย่ถึงที่สุด!
เฉินเกอจดจำเรื่องนี้อย่างเงียบๆ เอาไว้หาเวลาดีๆ พาทุกคนไปเปิดหูเปิดตาที่วิลล่าเวินฉวนด้วยกัน......
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง
รถคันใหญ่เล็กของหนิงฝานจอดอยู่ที่ประตูวิลล่าเวินฉวนเรียบร้อยแล้ว
จ้าวยีฟานพวกเธอลงรถตามๆกันมา
“หยุดไว้ พวกคุณห้ามเข้า!”
คาดไม่ถึงว่ายังไปไม่ถึงห้องโถงเลย ก็ถูกผู้รักษาความปลอดภัยสองสามคนที่สวมชุดดำ ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีดักเอาไว้
“โอ้! พี่หลี่ ผมคือเสี่ยวฝานนะ แม้แต่ผมพี่ก็ไม่รู้จักแล้วหรอ? พ่อผมชื่อหนิงเฉียง! วันนี้ผมพาเพื่อนๆมาเที่ยว......”
หนิงฝานสอดมือหนึ่งเข้าไปในกระเป๋า ยิ้มเล็กน้อย มองดูแล้วมีลักษณะที่จัดการเรื่องราวได้ดีมาก
“เหอะ เหอะ คุณชายหนิง หัวใจนายช่างกว้างจริงๆ ที่บ้านนายเกิดเหตุใหญ่ขนาดนี้ ยังมีอารมณ์ออกมาเที่ยวอีก? อย่าว่าแต่วันนี้วิลล่าไม่ให้นายเข้าไปเลย เกรงว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แม้จะให้นายเข้าไป นายก็ไม่กล้าเข้าไปหรอก! ”
บอดี้การ์ดสองสามคนยิ้มอย่างเย็นชา
มองดูหนิงฝานที่ทำเป็นโอ้อวด ด้วยสีหน้าที่ดูถูก
จนกระทั่งเห็นใจ
กลุ่มจ้าวยีฟานพวกเธอมองหน้ากันด้วยความงุนงง
ส่วนสวี่ตงเป็นครั้งแรกที่โดนคนอื่นดูถูก อีกทั้งยังเป็นบอดี้การ์ดสองสามคน
ทันใดนั้นพูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา : “นี่คือหนิงฝานคุณชายหนิง! ภัตตาคารหมิงหวางที่อยู่ถนนการค้าเป็นของครอบครัวคุณชายหนิง!”
“ฮาฮา ผมรู้ แต่ว่าควรเติมคำว่าเคยเป็น คุณชายหนิง เกรงว่านายจะยังไม่รู้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปภัตตาคารหมิงหวางครอบครัวพวกคุณจะไม่ได้ดูแลอีกต่อไปแล้ว และกิจการอื่นๆของครอบครัวคุณ วันนี้ล้มละลายไปพร้อมกัน หนิงเฉียงพ่อของคุณตอนนี้น่าจะรับมือกับตำรวจ สำนักการพาณิชย์ แล้วก็คนในธนาคารแทบเป็นบ้า!”
ผู้รักษาความปลอดภัยสองสามคนจับไหล่ พูดด้วยรอยยิ้ม
หนิงฝานกลืนน้ำลายลงไป : “เป็นไปไม่ได้ พวกนายโกหก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!