ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 1

“นายท่าน ท่านจะกลับไปจริง ๆ ใช่ไหม?”

ณ เกาะขนาดใหญ่ในใจกลางมหาสมุทร เป็นที่ประทับตั้งตระหง่านของพระราชวัง สถานที่แห่งนี้เป็นของอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาลที่สุด ตำหนักราชันย์

ในเวลานี้ ห้ากษัตริย์และเหล่านายพลทั้งสิบแปดคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง ขณะที่พวกเขาให้ความสนใจไปที่ชายหนุ่มผู้ซึ่งอยู่เบื้องหน้าพวกเขา ชายหนุ่มผู้นี้มีนามว่า ไทร์ ซัมเมอร์ เจ้าของที่แท้จริงของตำหนักราชันย์

“ใช่” ไทร์กล่าวหนักแน่น “เมื่อหกปีก่อน ฉันถูกไล่ออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลซัมเมอร์ ถูกปล่อยให้เดินเตร่อยู่กลางถนนในเมืองคานห์ ถูกวางยาโดยใครบางคนและจบลงที่ฉันมีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ กับเธอคนนนั้น”

“หลังจากนั้นฉันก็ได้พบกับผู้ช่วยชีวิต ผู้ซึ่งพาฉันมาที่แห่งนี้ และด้วยสองมือของฉัน ฉันสร้างตำหนักราชันย์ขึ้นมา ถึงอย่างไรตอนนี้ฉันก็มีอำนาจสูงสุดในโลกนี้ ร่วมกับสถานะและความร่ำรวยของฉันที่เคยได้ให้สัญญากับเธอไว้ ว่าฉันจะรับผิดชอบเธอและกลับไปเพื่อแต่งงานกับเธอ” ไทร์มองไปที่รูปภาพในมือของเขาขณะสายตาอ่อนโยนลง

หญิงสาวในรูปภาพนั้นอยู่ในช่วงอายุก่อนจะย่างเข้ายี่สิบ ดวงตาของเธอสีสดราวกับภาพวาด จมูกของเธอยาวงุ้ม และริมฝีปากของเธออ่อนนุ่มและอวบอิ่ม เธอนั้นสวยงดงามเป็นที่สุด เขาสงสัยว่าเธอจะเป็นอย่างไรบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

“หลังจากฉันไปแล้ว ตำหนักแห่งนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของนายชั่วคราว” ไทร์กลับมารักษาท่าทีของเขาและกล่าวกับชายที่มีภูมิฐานดี

ชายผู้นั้นมีนามว่า คลิฟฟอร์ด ฮานน์ ผู้นำของห้ากษัตริย์

“ก็ได้ครับ” คลิฟฟอร์ดกล่าวตอบอย่างช่วยไม่ได้ “ในเมื่อท่านยืนยันที่จะกลับไป เราก็จะไม่ห้ามท่าน ผมได้จัดการกับสถานการณ์ในเมืองคานห์แห่งจักรวรรดิเซเลสเชียลให้ท่านเรียบร้อย ผมได้ซื้อศูนย์การค้าระหว่างประเทศไว้ในใจกลางเมือง และชายผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองคานห์ เดรก ทัคเกอร์ ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ติดตามของผม เมื่อท่านไปถึงเขาจะเป็นผู้รับใช้ท่าน”

“คลิฟฟอร์ด ฉันจะกลับไปหาภรรยาของฉันเพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข นายจะซื้อศูนย์การค้าระหว่างประเทศไปทำไม?” ไทร์รู้สึกหงุดหงิดที่น้ำเสียงของเขาดูเต็มไปด้วยความโกรธ

คลิฟฟอร์ดมอบรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับเขา “นายท่าน ท่านบอกเองว่าท่านอยากจะให้พระราชวังราชันย์กลับคืนไปสู่ที่ดั่งเดิมของมัน และกลับไปจักรวรรดิเซเลสเชียล ในเมื่อตอนนี้ที่ท่านจะกลับไป มันจะไม่สะดวกกว่าหรือ ที่จะตั้งฐานสาขาของตำหนักในระว่างที่ท่านอยู่ที่นั่น?”

“เ-ี่ย!” ไทร์เตะคลิฟฟอร์ด เพราะแบบนี้เอง เขาแค่จะใช้ให้นายท่านให้ทำงานหนัก

“ฉันไปล่ะ อย่าคิดถึงฉันกันให้มากนักล่ะเด็ก ๆ!”

ด้านหลังเขาเหล่าห้ากษัตริย์และนายผลทั้งสิปแปดคนทำท่าตะเบ๊ะไทร์พร้อมทั้งน้ำตาในขณะที่มองรถ Jeep ค่อย ๆ เลือนหายไปในระยะทาง

วันต่อมา ในเมืองคานห์แห่งจักรวรรดิเซเลสเชียล

“นี่แหละ” ไทร์ยืนอยู่หน้าประตูของคฤหาสน์ตระกูลซี ขณะที่เขาคร่ำครวญ หลังจากคืนนั้น ไทร์ได้บอกกับหญิงสาวไว้ว่าเมื่อเขาทำสำเร็จเขาจะกลับมาหาเธออย่างแน่นอน

“วินนี่เฟรด ฉันกลับมาหาเธอแล้ว” ไทร์สูดลมหายใจเข้า เขารู้สึกประหม่าอย่างไม่คาดคิด

ในระหว่างที่เขาตื่นเต้นว่าเขาจะเข้าคฤหาสน์อย่างไร ทันใดประตูก็เปิดออก มีหญิงอ้วนท้วมอายุราวสี่สิบเดินออกมาพร้อมกับถาดขนมปังที่เธอกำลังจะนำไปทิ้งที่ถังขยะด้านนอกของประตู นี่จะต้องเป็นแม่บ้านของตระกูลซีแน่

ตามหลังเธอมาคือเด็กหญิงอายุราวหกขวบ เด็กน้อยดูซีดเสียวและผอมเพรียว ดูขาดสารอาหารอย่างชัดเจน แต่ถึงอย่างไรคุณลักษณะของเธอก็ดูมีภูมิฐาน โดยเฉพาะดวงตาที่เปล่งประกายราวกับดวงดาวของเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงแค่เด็ก แต่เธอก็มีลักษณะของหญิงสาวที่สวยงาม

“คุณ… คุณยายคอลลินส์ คุณช่วยแบ่งขนมปังสักชิ้นหนึ่งให้แบลร์ได้ไหม? แบลร์... หิวมาก” สาวน้อยมองไปที่ขนมปังในมือของหญิงอ้วนท้วม บางทีเพราะความหิวกระหายมาก สาวน้อยเอาแต่กลืนน้ำลายของเธอ เธอดูน่าสงสาร

หญิงอ้วนท้วมยิ้มแฉ่ง ทว่ากลับมีเล่ห์เหลี่ยมคมกริบฉายบนใบหน้าของเธอ “เจ้าหนูน้อยแบลร์อยากจะกินขนมปังสักหน่อยงั้นรึ?”

“ใช่” สาวน้อยพยักหน้าหนักแน่นด้วยความกระตือรือร้นในดวงตา

“ขนมปังธรรมดาคงจะรสจัดไม่พอ เดี๋ยวฉันจะปรุงให้เธอเพิ่มอีกสักนิดนึง” หญิงอ้วนท้วมคนนั้นฉีกเศษขนมปังออกมา เดินไปที่ถังขยะและเช็ดเศษขนมปังข้างในถังขยะก่อนจะยื่นให้สาวน้อย “เอานี่ แบลร์ ขนมปังสำหรับเธอ มันอร่อยมาก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ