“คุณพ่อ ที่ไทร์ ซัมเมอร์ ชนะเพราะว่าเขามีคนมากกว่า แลร์รี่ เฮนดริกตกหลุมพรางของพวกเขา เมื่อตระกูลฟิชเชอร์ออกคำสั่ง เมื่อเมืองคานห์ถูกทำลายล้าง มันก็จะกลายเป็นแค่เศษผง” ชาร๋ล็อทตั้งใจแน่วแน่ที่จะล้มไทร์
“ไร้สาระ! ใครบอกเธอว่าแลร์รี่แพ้พวกเพราะเขามีคนมากกว่า? แลร์รี่ไปกับผู้ชายอีกแปดคน สามคนเสียชีวิตในขณะที่อีกหกคนที่เหลือได้รับบาดเจ็บสาหัส ในขณะเดียวกัน ฝ่ายตรงข้ามเพียงแค่สองคนเท่านั้น”
ชาร์ล็อทตกตะลึงกับสิ่งที่เธอได้ยิน “คุณพ่อ มันเป็นไปได้ยังไง?”
“แลร์รี่บอกฉันด้วยตัวเอง เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องโกหกหรือยังไง? ไทร์สั่งให้แลร์รี่ส่งข้อความถึงตระกูลฟิชเชอร์แห่งเมืองไพร์ม เขาระบุว่า เมืองคานห์จะเป็นที่รู้จักในนามของ ดินแดนต้องห้ามของพระเจ้า และต่อจากนี้ไปถ้าหากผู้ใดล่วงละเมิด มันผู้นั้นจะต้องตาย! ชาร์ล็อท คราวนี้เธอยุ่งผิดคนแล้ว” แกรี่คำราม
ชาร์ล็อทขมวดคิ้วแน่น เธอไม่เคยเห็นพ่อของเธอจริงจังขนาดนี้มาก่อน
“คุณพ่อ แม้ว่าพวกมันจะมีนักสู้ที่เชี่ยวชาญ แต่เราก็มีคนของเราจำนวนไม่น้อยในตระกูลฟิชเชอร์ ทำไมเราจะกำจัดพวกมันไม่ได้? คุณกลัวเหรอ ไทร์ ซัมเมอร์เป็นใคร? เขาทำผิดและยังกล้าคุกคามต่อตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองไพร์ม”
แกรี่สูดหายใจเข้า “เมืองคานห์ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรือไม่เพียงใด ก็ไม่สามารถต่อสู้กับตระกูลฟิชเชอร์ของเราได้ แต่ตอนนี้เราอยู่ในช่วงวิกฤติ เนื่องจากเราไม่สามารถทำให้บุคคลนี้ล้มลงได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น เราควรปล่อยให้เขาไปก่อน”
ชาร์ล็อตต์ขมวดคิ้วอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจกับการตัดสินใจของพ่อ
“คุณพ่อ ฉันปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้”
“เธอไม่เชื่อฟังฉันเหรอ?” แกรี่จ้องไปที่ชาร์ล็อท “ฉันไม่ได้บอกว่าเธอไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ แต่มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม กำลังจะมีเหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นในเมืองไพร์ม ดังนั้น เธอต้องไม่ประมาทเลินเล่อ ฉันจะยกโทษให้เธอสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแลร์รี่ เฮนดริกในวันนี้ แต่ถ้ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ฉันจะลงโทษเธอ กลับไปนอนซะ”
แกรี่เดินไปอย่างอารมณ์เสียหลังจากจบประโยค
ชาร์ล็อทยังคงยืนนิ่งอยู่เป็นเวลานาน
“เหตุการณ์สะเทือนขวัญในเมืองไพร์ม แผนนั้นจะเกิดขึ้นในที่สุด? เราเตรียมตัวกันมาหลายปีแล้ว” เมื่อชาร์ล็อทนึกถึงสิ่งนี้ แววตาที่ตื่นตระหนกก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ
ในวันต่อ ๆ ไป ชาร์ล็อททำตามที่แกรี่สั่งและไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่ไทร์และวินนี่เฟรดอีก เธอพักอยู่แต่ในเมืองไพร์มและไม่เคยเหยียบย่ำไปยังเมืองคานห์อีกเลย มันเหมือนทุกอย่างจบลงแล้ว
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ไทร์ยืนอยู่ที่หน้าต่างภายในร้านกาแฟ เขามองออกไปที่ผืนดินที่มีการก่อสร้างชิ้นใหญ่
ชายสองคนยืนอยู่ข้างหลังเขา หนึ่งในนั้นคือเดรก ทัคเกอร์ ในขณะที่อีกคนเป็นผู้ชายมีเครา ชื่อว่าโดนัลด์ ลูอิส เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาวิลล่าระดับไฮเอนด์ในเมืองคานห์ ตำแหน่งของเขาในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เป็นอันดับสองรองจากคาร์ล ฮิลล์
โดนัลด์ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกในทีมของเดรกอีกด้วย ในงานแต่งงานที่จัดขึ้นในเมืองคานห์ที่ปราสาทท้องฟ้า โดนัลด์และเดรกก็ได้อยู่ที่นั่นด้วยกัน
แม้ว่าดวงอาทิตย์จะส่องแสงเจิดจ้า แต่ไทร์ ก็ยังมองดูมันเป็นเวลานาน เขาสนุกกับการจ้องมองดวงอาทิตย์โดยไม่กระพริบตา มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังท้าทายกฎแห่งธรรมชาติ
“ในอดีต โดนัลด์ ลูอิส แห่งตระกูลลูอิสและตระกูลฮิลล์เคยแบ่งปันส่วนแบ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองคานห์อย่างเท่าเทียมกัน ถึงเวลาแล้วที่คุณจะเข้ายึดครองตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองคานห์โดยสิ้นเชิง”
ทันทีที่ไทร์พูดอย่างนั้น โดนัลด์ก็ดูตื่นเต้นมากทันที
การครองตำแหน่งสูงสุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองคานห์ เป็นความใผ่ฝันของโดนัลด์ แต่เนื่องด้วยในอดีต เนื่องจากคารีม แซครี จากตระกูลฮิลล์ และภูมิหลังของตระกูลฟิชเชอร์แห่งเมืองไพร์ม เขาจึงถูกกดดันอย่างหนักในแข่งขันกับพวกเขา
อันที่จริง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตระกูลฮิลล์ได้เข้ายึดอาคารส่วนใหญ่ของเมือง โดนัลด์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหันความสนใจไปที่วิลล่าเพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันที่ดุเดือด
อย่างไรก็ตาม เมื่อคารีม แซครีเสียชีวิต และตระกูลฮิลล์ก็ได้สูญเสียภมิหลังเช่นตระกูลฟิชเชอร์แห่งเมืองไพร์มไป ดังนั้น นี่จึงเป็นการสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากไทร์ ที่จะทำให้โดนัลด์ต่อสู้กับพวกเขาได้ง่ายขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ
รอๆๆๆฟ...
ไม่อัพเดสเลย...
ไม่มีต่อแล้วหรือครับ...พอดีรอมา 2 วันแล้วครับ...