ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 163

สรุปบท บทที่ 163 ได้เวลาเริ่มเกมส์เสือสองตัวแล้ว: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ

บทที่ 163 ได้เวลาเริ่มเกมส์เสือสองตัวแล้ว – ตอนที่ต้องอ่านของ ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ

ตอนนี้ของ ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ โดย บัณฑิตติดบ้าน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 163 ได้เวลาเริ่มเกมส์เสือสองตัวแล้ว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

แมทธิว ผู้ซึ่งกำลังดึงรถบรรทุกเขาวนรอบคอกสุนัขอยู่ก็หยุดการเคลื่อนไหวของเขาทันที เสียงเห่าของสุนัขรอบ ๆ ดังขึ้นและทันใดนั้น ภายในฟาร์มก็เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง

"มีใครมาที่นี่?" แมทธิวที่ตอนนี้แข็งแกร่งราวกับขุนเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย วินาทีถัดมา เขารู้สึกเย็นวาบที่กระดูกสันหลัง “ว่ากันว่า สุนัขสามารถมองเห็นสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็น มันอาจจะเป็น…? ผีเหรอ? ฉันกลัวผี”

ในขณะนั้นเอง แม็กซ์ที่หลับใหลก็ตื่นขึ้นด้วยเสียงเห่าหอน เขาสวมเสื้อผ้าแล้วออกไปข้างนอกทันที ไม่นานหลังจากนั้น เขาเห็นรัศมีของแสงส่องมาจากระยะไม่ไกลมาก นั่นทำให้เขาขมวดคิ้วทันที

“ความอ่อนไหวของสุนัขต่อสู้ ต่อสภาพแวดล้อมนั้นเหนือกว่าผู้คนมาก นี่มันรังสีอันตราย”

แม็กซ์เองก็รู้สึกเย็นยะเยือกที่กระดูกสันหลังของเขา เขากลับไปที่ห้องของเขาทันทีเพื่อโทรศัพท์และกดโทรหาไทร์

ในระยะไกล รถแลนด์โรเวอร์สามคันกำลังเข้ามาใกล้โรงเลี้ยงสุนัข ไม่นานพวกเขาก็หยุดอยู่ที่นอกฟาร์ม ประตูเปิดออกและคนมากกว่าสิบคนกระโดดลงมาจากรถ ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องของชาร์ล็อท ฟิชเชอร์ แต่ละคนถือดาบอยู่ในมือ สองคนเป็นสมาชิกออร์เฟอุสที่พลูโตส่งมา คนหนึ่งคือ ร็อดดี ส่วนอีกคนเป็นชายที่สวมถุงมือเหล็ก

“คุณผู้ชายทั้งหลาย ที่นี่แหละ ตรงที่มีไฟเปิดอยู่คือโรงเลี้ยงสุนัข”

"เข้าใจแล้ว"

ร็อดดีและคู่หูของเขาเดินตรงไปที่โรงเลี้ยงสุนัข

ในขณะนั้น แมทธิวที่ตัวสั่นในขณะเขาซ่อนตัวอยู่ข้างรถบรรทุก “แม่งเอ๊ย เห่าดังกว่าเดิมอีก มีผีกี่ตัววะเนี่ย? นี่มันน่าขนลุก น่าขนลุกโคตร!”

แมทธิวทำได้เพียงซ่อนตัวอยู่โดยลำพัง เมื่อเผชิญหน้ากับความกลัวอันไร้ขอบเขตนี้ เขาไม่กล้ากลับไปที่โรงเลี้ยงสุนัข เพราะถ้าสตีเฟนและพวกผู้ชายเห็นเขาตกใจ พวกเขาจะหัวเราะเยาะเขาไปตลอดชีวิต เป็นเรื่องแปลกมากสำหรับชายผู้นี้ ที่ไม่เกรงกลัวต่อพระเจ้าและกล้าท้าทายสิงโตหรือกระทั่งเสือ แต่กลับกลัวผีและสิ่งเหนือธรรมชาติมากถึงเพียงนี้

หลังจากเสียงเอี๊ยด ประตูโรงเลี้ยงสุนัขก็ถูกผลักเปิดออก สมาชิกออร์เฟอุสสองคนเข้าไปในโรงเลี้ยงสุนัขพร้อมกับลูกน้องของชาร์ล็อท

ทันใดนั้น โรงเลี้ยงสุนัขที่มีชีวิตชีวาก็เงียบลง ทุกคนมองไปทางประตูพร้อมกัน

แม้ต้องเผชิญกับการจ้องมองของคนเหล่านี้ แต่สมาชิกออร์เฟอุสสองคนก็ดูไม่สะทกสะท้าน แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ลูกน้องของชาร์ล็อทที่ถือมีดอยู่ในมือกลับตัวสั่นแทน ความตื่นตระหนกเพิ่มขึ้นในหัวของพวกเขา ทำไมคนพวกนี้ถึงดูเหมือนสัตว์ร้ายขนาดนี้?

“น่าสนใจ” รอยยิ้มที่ตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของสมาชิกออร์เฟอุสที่สวมถุงมือเหล็ก “ใครจะรู้ว่าสถานที่ที่น่าสนใจเช่นนี้มีอยู่จริง? ดูเหมือนคืนนี้เราจะได้สนุกกันแล้วสิ” เขากล่าวพร้อมกับก้าวไปข้างหน้า

บรู๊วววว!!!

เมื่อได้กลิ่นของมนุษย์ สุนัขต่อสู้ที่ดุร้ายสองสามตัวก็เริ่มตื่นตระหนก พวกมันอ้าปากกว้าง แยกเขี้ยวอันแหลมคมในขณะที่พวกมันกระโจนเข้าหาพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง สุนัขเหล่านี้ก็กระหายเลือดเช่นกัน หลังจากถูกสตีเฟนและคนอื่น ๆ ทรมานในเพิงทั้งคืน พวกมันต้องการระบายความคับข้องใจกับผู้มาใหม่เหล่านี้

เปรี้ยง!

หมัดถูกปล่อยออกไป ถุงมือโลหะที่แข็งแรงและทรงพลังนั้นกระแทกเข้าที่หัวของสุนัขต่อสู้อย่างหนัก หัวของมันถูกทุบและสมองครึ่งหนึ่งกลายเป็นข้าวต้ม

ก่อนหน้านั้น สมาชิกโรงเลี้ยงสุนัขต่างก็ต้องตะลึงกับความแข็งแกร่งของสมาชิกออร์เฟอุส ตอนนี้พวกเขาโกรธมาก

รอยยิ้มที่ดุร้ายและตื่นเต้นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของสตีเฟนเช่นกัน เมื่อก้าวขึ้นมา เขาหลบมีดมาเชเต้ที่ถือโดยลูกน้องคนหนึ่งของชาร์ล็อทไปในทิศทางของเขา ด้วยการคว้าแบ็คแฮนด์และความเร็วราวสายฟ้าฟาด สตีเฟนคว้ามีดของชายคนนั้นออกมาจากมือของเขา

สวบ! สตีเฟนแทงคอของชายผู้นั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นในลมหายใจเดียว ราวกับสายฟ้าฟาด!

หลังจากนั้น สตีเฟนก็รูดนิ้วไปที่ดาบก่อนจะกระแทกใบมีดเข้ากับเข่าของเขาอย่างกะทันหัน

แคร็ก!

ใบมีดของมีดมาเชเต้ถูกหักเป็นสองท่อน จากนั้นเขาก็โยนอาวุธที่หักออกไป เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น

“นานแล้วที่โรงเลี้ยงสุนัขแห่งนี้ไม่มีความท้าทายเกิดขึ้นเลย เราคิดว่าจะขอให้มิสเตอร์ชีเวอร์หาหมาป่าหรือทิเบตัน แมสทิฟฟ์มาให้เราเล่นด้วย แต่ใครจะไปรู้ว่าแทนที่จะเป็นหมาป่า ดันมีเสือสองตัวโผล่มา ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผ่านมาครึ่งเดือนในที่สุดเราก็ได้สนุกกันสักที!”

ขณะที่เขาพูด สตีเฟนยกกำปั้นขึ้น หมัดที่ดุร้ายของเขาส่งลูกน้องของชาร์ล็อทอีกคนบินออกไปสองสามเมตร

“เหล่าพี่น้องของฉัน! ได้เวลาเล่นสนุกกันแล้ว อาละวาดกันหน่อย!!!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ