ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 165

รอยยิ้มนั้นทำให้ชายสวมถุงมือเหล็ก สมาชิกออร์เฟอุสตกใจกลัว นี่...ชายผู้นี้เป็นโรคจิตหรือเปล่า?

ในขณะที่ชายสวมถุงมือเหล็กยังคงตกใจอยู่ เจมี่ได้ยกกำปั้นขึ้นและซัดเข้าไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการได้ว่า เจมี่ยังคงสามารถชกต่อยอย่างรุนแรงได้หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บหนักได้ยังไง พลังของหมัดนี้อัดแน่นไปด้วยพลังทั้งหมดของเจมี่ มันแข็งแกร่งราวกับหินผา

ปัง!

ชายที่สวมถุงมือเหล็กได้ยินเสียงโหนกแก้มของตัวเองแตก เขาเดินโซเซกลับไปและจบลงด้วยการล้มลงกับพื้น การล้มลงนี้ไม่ต่างจากการดับชะตาของเขา ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นได้ มีคนอย่างน้อยสามคนล้อมเขาไว้และได้ช่วยซ้ำเติมให้กับความโชคร้ายของเขา

สตีเฟนเป็นคนแรกที่พุ่งเข้ามาแล้วกดต้นขาของชายสวมถุงมือเหล็กด้วยเข่าของเขา วาเนสซ่าและสมาชิกโรงเลี้ยงสุนัขอีกสองคนก็รีบเข้ามาเช่นกัน

ปัง ปัง ปัง!

ราวกับพายุฝนกระหน่ำ ชายที่อยู่บนพื้นไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นมาอีกเลย หลังจากหมัดที่กระทบเขาราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง ในเวลาเพียงแค่สิบวินาที เขาได้ถูกโจมตีอย่างน้อยร้อยครั้ง

สตีเฟนและคนอื่น ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายคนนั้นหยุดหายใจไปตั้งแต่ตอนไหน เมื่อพวกเขาหยุดจู่โจม ชายผู้นั้นก็ตายด้วยร่างอันผิดรูปไปแล้ว

ในอีกด้านหนึ่ง ร็อดดีฟันหน้าสมาชิกโรงเลี้ยงสุนัขอีกคนหนึ่งด้วยการฟันแบ็คแฮนด์ เมื่อเขาเห็นชายสวมถุงมือเหล็กถูกกระหน่ำโจมตีจนตาย จิตใจของเขาก็ระเบิดขึ้นทันที การหายใจถี่ขึ้นและเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขากำลังจะทรุดตัวลงจากความอ่อนล้า

สิ้นหวัง เป็นความรู้สึกสิ้นหวังที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนผุดขึ้นในหัวใจของเขา นี่มันเป็นเรื่องตลกหรือยังไง? มีกลุ่มคนบ้า ๆ แบบนี้อยู่บนโลกใบนี้ได้ยังไง? ความสิ้นหวังแผ่ซ่านไปทั่วร่างของร็อดดีทันที ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกมองว่าเป็นจ่าฝูงจากต่างประเทศ แต่ตอนนี้ เมื่อเทียบกับคนเหล่านี้ เขารู้สึกเหมือนเขาเป็นแค่ลูกหมา!

“ไอ้พวกบัดซบ! พวกแกทุกคนมันบ้าไปแล้ว!” เขากรีดร้อง

ขณะที่เขามองดูร่างที่เละเทะของชายสวมถุงมือเหล็ก ร็อดดีรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเสียสติ เขาไม่เคยประสบกับความสิ้นหวังเช่นนี้มาก่อน คนพวกนี้เป็นมนุษย์ประเภทไหนกัน? พวกมันเป็นปีศาจ!

เสียงหนึ่งดังก้องอยู่ในใจของร็อดดีว่า “วิ่ง…วิ่ง เร็วเข้า! หนีออกจากที่นี่ นายต้องออกจากที่นี่ทันที คนพวกนี้มันโรคจิต คนพวกนี้มันบ้าไปแล้ว!'

นี่คือบทพูดคนเดียวในใจเขา ทันใดนั้น ร็อดดีก็หันหลังและกำลังจะวิ่งออกไป

เงาปรากฏขึ้นและขวางทางของร็อดดี “คิดว่าจะหนีไปไหน?”

ชายผู้นั้นคือ มาร์ติน เจคแมน เขาเคยถูกเรียกว่าแฟรงค์ เจคแมน เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาหรือบุคลิกของเขา เขาเป็นคนซื่อสัตย์มาตลอด อย่างไรก็ตาม มาร์คิน เจคแมนคนปัจจุบันดูเหมือนผู้พิทักษ์อย่างแท้จริง ผู้พิทักษ์เช่นเดียวกับชื่อของเขา การแสดงออกของเขาดุร้ายน่ากลัวและกระหายเลือด ...

“อ๊าก!!!” ร็อดดีรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะบ้า

เขาอยากยอมแพ้ในการพยายามโจมตีมาร์ตินและกำลังจะรีบตรงไปที่ประตู แต่มาร์ตินจะปล่อยให้เขาหนีไปอย่างนั้นเหรอ? เขาอยู่ใกล้กับร็อดดีมากในเวลานี้และดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้านเลยด้วยซ้ำ หากต้องสู้กันตัวต่อตัว

มาร์ตินเป็นเหมือนผู้พิทักษ์อย่างแท้จริงเมื่อเขายืนเฝ้าอยู่ที่ประตู ชายผู้นี้ ร็อดดี ฆ่าเพื่อนของเขาหลายคนในโรงเลี้ยงสุนัข เขาจะไม่ปล่อยให้ร็อดดี้หนีไปแน่นอน ไม่เช่นนั้น สหายที่ล่วงลับของเขาในโรงเลี้ยงสุนัขจะไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบสุข

“ไปให้พ้น!” ร็อดดีตะโกนในขณะที่เขาใช้มีดสั้นฟันไปที่มาร์ติน

มาร์ตินหลบใบมีดอันว่องไวของร็อดดีไม่พ้น มาร์ตินจึงได้รับบาดเจ็บจากการโดนฟันที่หน้าอกของเขา อย่างไรก็ตาม มาร์ตินก็ไม่ยอมถอย เขายกกำปั้นขึ้นแล้วจู่โจมไปที่ร็อดดี

“ไสหัวไป!”

ร็อดดีเสียสติไปหมดแล้ว เขาชกมาร์ตินเข้าที่แขน กระดูกแขนของมาร์ตินแตกออก ถึงอย่างไร มาร์ตินก็ยังคงยืนเฝ้าอยู่ที่ประตูโดยไม่ขยับเขยื้อน

“ไอ้บ้าเอ้ย!”

ดวงตาของร็อดดีแดงก่ำในขณะที่เขาใช้มีดสั้นแทงเข้าที่ใต้รักแร้ของมาร์ตินอีก ใบมีดนั้นคมมากและสามารถเจาะเหล็กได้เหมือนเจาะโคลน

สวบ!

ทันใดนั้น แขนของมาร์ตินก็ถูกตัดด้วยใบมีดของร็อดดี เช่นเดียวกับที่ ก๋วยพู้ได้ตัดแขนของหยางกั๋ว ในเรื่อง เหล่าวีรชนในตำนานแห่งคอนดอร์

เสียงตะโกนด้วยความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วโรงเก็บของ “อ๊าก!!”

มาร์ตินเกือบจะหมดสติจากความเจ็บปวด แต่เขายังคงยึดมั่นที่จะยืนเฝ้าประตูอยู่ เขาเป็นผู้พิทักษ์ที่แท้จริง ตราบใดที่เขายังหายใจอยู่เขาจะปิดกั้นประตูนี้และขังร็อดดีเอาไว้ เสียแขนแล้วยังไง? ถึงตายแล้วยังไง? นี่คือโรงเลี้ยงสุนัขที่มีศักดิ์ศรีและเกียรติยศ

ในขณะที่คนกลุ่มนี้ใช้เวลาทุกคืนเพื่อฝึกฝนการต่อสู้ในสถานที่แห่งนี้ แม้ต้องการที่จะบดขยี้กันและกันให้จมดิน แต่ก็ยังมีความผูกพันที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่างพวกเขา และสายสัมพันธ์นี้เกินความเป็นและความตาย! ถ้าผู้ชายคนนี้ต้องการจะฆ่าพี่น้องของเขาในโรงเลี้ยงสุนัขแล้วหนีออกไป เขาจะต้องได้รับอนุญาตจากมาร์ตินก่อน!

"ไปลงนรกซะ!" ร็อดดีตะโกนด้วยความสิ้นหวังอย่างยิ่ง

มาร์ตินซึ่งในตอนแรกไม่สามารถต้านรับการโจมตีจากร็อดดีได้แม้แต่น้อย ตอนนี้เขาดูเหมือนภูผาแข็งแกร่งที่ไม่สั่นคลอนเพื่อกักขังศัตรูของเขา ร็อดดี้โบกมีดสั้นในมืออย่างบ้าคลั่งก่อนจะเล็งตรงไปยังหัวใจของมาร์ติน

ตั้งแต่การเผชิญหน้าของร็อดดี้กับมาร์ติน ไปจนถึงการที่เขาตัดแขนมาร์ตินทิ้งไป จนกระทั่งช่วงเวลาแห่งการล่มสลายของจิตใจและต้องการปลิดชีพมาร์ติน ทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ในไม่กี่วินาทีนี้ สตีเฟนและคนอื่น ๆ ยังไม่ฟื้นคืนสติหลังจากที่พวกเขาฆ่าชายสวมถุงมือเหล็กแล้ว เมื่อพวกเขามาถึง มาร์ตินก็ได้สูญเสียแขนไปแล้ว

สตีเฟนและเจมี่รีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ ลำดับความสำคัญของพวกเขาไม่ใช่การฆ่าร็อดดี แต่เพื่อช่วยมาร์ติน โดยที่สตีเฟนเป็นผู้นำและเจมี่ตามมาที่ด้านหลัง ชายทั้งสองจึงวิ่งไปหามาร์ติน ในขณะที่ร็อดดีกำลังจะแทงเข้าที่หน้าอกของมาร์ติน สตีเฟนก็ดึงมาร์ตินออกไป

ใบมีดของร็อดดีจบลงด้วยการแทงอากาศ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ผิดหวังเลย ตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นที่ในที่สุดผู้พิทักษ์ก็ถูกดึงออกไป ร็อดดีจึงมองเห็นแสงจันทร์ส่องผ่านช่องประตูที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งเมตร ในขณะนั้นมันเหมือนกับว่าประตูสวรรค์กำลังเปิดให้เขา เขายังรู้สึกว่าแสงจันทร์ที่อ่อนโยนเป็นเหมือนแสงศักดิ์สิทธิ์ที่จะกลืนเขาในไม่ช้า

'ในที่สุด! ในที่สุดฉันก็สามารถผ่านไอ้โรคจิตเหล่านี้ไปได้! ถ้าฉันออกจากที่นี่และวิ่งออกไป ฉันจะรอด'

จิตใจของร็อดดีเต็มไปด้วยความเชื่อนี้ในขณะที่เขาวิ่งออกไปที่ประตูราวกับการวิ่งร้อยเมตร ความเร็วในการหลบหนีของเขาเร็วมากจนเจมี่และสตีเฟนจับเขาไม่ทัน

ในที่สุด ร็อดดีก็หนีออกมาจากโรงเลี้ยงสุนัขได้ หลังจากพุ่งทะลุประตูออกมา เขารู้สึกเหมือนได้รับโอกาสครั้งที่สองในชีวิต สูดอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก ร็อดดีคิดว่าโลกนี้สวยงามเพียงใด ในที่สุดรอยยิ้มที่โล่งใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

รอยยิ้มที่ปรากฏนั้นเป็นเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีก่อนที่สีหน้าของเขาจะหยุดนิ่งในทันที

ข้างหน้าของเขามีชายร่างใหญ่และกำยำ ซึ่งทั้งตัวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออันทรงพลัง ชายผู้นั้นลากรถบรรทุกที่อยู่ข้างหลังด้วยโซ่เหล็ก และเข้ามาขวางทางร็อดดีเอาไว้

"คุณเป็นใคร? คุณมาที่นี่ทำไม?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ