ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 18

สรุปบท บทที่ 18 ไม่ใช่มหาเศรษฐี: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ

สรุปตอน บทที่ 18 ไม่ใช่มหาเศรษฐี – จากเรื่อง ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ โดย บัณฑิตติดบ้าน

ตอน บทที่ 18 ไม่ใช่มหาเศรษฐี ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ โดยนักเขียน บัณฑิตติดบ้าน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ในวันรุ่งขึ้น ที่คฤหาสน์ตระกูลซี ทั้งตระกูลซีได้จัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองใหญ่ตั้งแต่เช้า

“เร็วเข้า เธอเดินให้ไวกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ? วางของตกแต่งให้เรียบร้อย และรีบไปทำอาหารและเตรียมไวน์ให้ด้วย”

คฤหาสน์ทั้งหลังกำลังวุ่นวายเพราะจอร์จคอยกระตุ้นพวกเขา สำหรับงานเลี้ยงของครอบครัวนี้ จอร์จได้เป็นคนจัดเตรียมขึ้นมาเองด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

ทันใดนั้น ลิเลียนลูกสาวคนเล็กของเขารีบวิ่งเข้ามาจากข้างนอก “คุณพ่อคะ เร็วเข้า ไทร์และวินนี่เฟรดมาถึงแล้ว รีบออกไปต้อนรับพวกเขากันเถอะ”

“แน่นอน… แน่นอน…” จอร์จพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับกลุ่มผู้อาวุโสของตระกูลซี พวกเขารีบออกไปนอกคฤหาสน์ด้วยเช่นกัน

ด้านนอกของคฤหาสน์ ครอบครัวของไทร์กำลังเดินเข้ามา

“ไทร์ วินนี่เฟรด พวกคุณเข้ามานี่! รีบเข้ามาและเชิญนั่งลง เราเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว และเรากำลังรอพวกคุณอยู่” จอร์จต้อนรับพวกเขาอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของเขา

แบลร์มองดูผู้อาวุโสของเธออย่างหวาดกลัว ซึ่งทุกคนมีรอยยิ้มให้ พวกเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนหมาป่าตัวร้ายอยู่ตรงหน้าเธอ

นี่มันดูถูกกันชัด ๆ ก่อนหน้านี้ เมื่อใหร่ก็ตามที่ไทร์และวินนี่เฟรดมาที่นี่ ทั้งตระกูลซีปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเย็นชา ตระกูลซีคิดว่าพวกเขาเป็นคนสกปรกและทำให้ครอบครัวขายหน้า แต่ตอนนี้ ตระกูลซีกำลังรีบร้อนกันออกไปที่ประตูเพื่อต้อนรับพวกเขา ไทร์มองอย่างเฉยเมย เขามีความรู้สึกขยะแขยงอยู่ข้างในใจ

ภายใต้การต้อนรับอย่างอบอุ่นของตระกูลซี คนในครอบครัวสามคนของไทร์เข้าไปในคฤหาสน์และนั่งลงที่หัวโต๊ะหลัก ครั้งสุดท้ายที่เขาอยู่ที่นี่กับวินนี่เฟรด พวกเขาได้นั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะของคนใช้

ในช่วงเวลาที่งานเลี้ยงของตระกูลเริ่มต้นขึ้น จอร์จเป็นคนแรกที่ได้เริ่มดื่มเพื่ออวยพรให้กับพวกเขาในขณะที่ผู้อาวุโสของซีคนอื่น ๆ เริ่มรีบร้อนที่จะทำตามเช่นกัน

ในขณะที่คนอื่นบนโต๊ะ อย่างเช่นไอริสเองก็มองดูพวกเขา ด้วยความอิจฉาและความโกรธในหัวใจของเธอก็มาถึงจุดแตกหัก เธอหันไปหาทราวิส ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ และพูดด้วยความแค้นสุด ๆ ออกมาว่า “นี่เป็นความผิดของนายทั้งหมดเลย! ทำไมนายไม่ใช่นักธุรกิจใหญ่คนนั้นที่ซื้อใจกลางเมือง? เมื่อเห็นว่าวินนี่เฟรดดูหน้าด้านมาก ฉันคิดอยากจะเข้าไปตบเธอด้วยซ้ำ”

ทราวิสพูดอย่างรวดเร็วว่า “ลดเสียงลงหน่อย หากไทร์ได้ยินสิ่งนี้ เธอจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอจะตายแบบไหน”

ไอริสหุบปากทันที ตอนนี้เธอรู้ถึงตัวตนของไทร์แล้ว เธอก็ไม่กล้าที่จะทำให้เขาขุ่นเคือง

“โอ้ วินนี่เฟรด หลานสาวที่รักของฉัน ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะแต่งงานกับผู้ชายที่วิเศษอย่างไทร์ได้ ตอนนี้ฉันอายุมากแล้ว ฉันแค่คิดที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง ฉันรู้สึกว่าวินนี่เฟรด เธอเหมาะที่สุดที่จะดำรงตำแหน่งประธานของซีกรุ๊ป” หลังจากที่จอร์จพูดเช่นนี้ ตระกูลซีทั้งหมดก็ตกตะลึง พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าชายชราคนนี้พยายามสุดความสามารถเพียงเพื่อเอาใจไทร์

วินนี่เฟรดสั่นสะท้าน แน่นอน เธอต้องการที่จะให้คำอธิบายบางอย่าง “คุณปู่คะ ที่จริงแล้ว…”

อย่างไรก็ตาม จอร์จและครอบครัวไม่ได้ให้โอกาสวินนี่เฟรดได้พูดต่อเลย

“เอาล่ะ เอาล่ะ ฉันคิดว่าด้วยความสามารถที่น่าประหลาดใจของวินนี่เฟรด เธอน่าจะเหมาะสมที่สุดในฐานะประธานของซีกรุ๊ป”

“เราเชื่อว่าด้วยความสามารถของวินนี่เฟรด เธอสามารถพาเราไปสู่เป้าหมายสูงสุดได้อย่างแน่นอน”

ทั้งแจ็คสันและลิเลียนไม่ได้กระดากกับคำเยินยอของพวกเขา พวกเขาไม่สนใจว่าใครเป็นประธานของซีกรุ๊ป พวกเขาสนใจเพียงว่าไทร์สามารถนำกำไรและเงินมาสู่ครอบครัวได้มากขึ้นหรือไม่

ไทร์พูดต่อว่า “ความจริงก็คือตอนที่ผมยังเป็นขอทานในเมืองคานห์ในตอนนั้น ผมเจอเดรก ทัคเกอร์ เขาได้ประสบอุบัติเหตุและผมช่วยชีวิตเขาไว้ ในตอนนั้น เขาเคยสัญญากับผมว่าเขาจะทำตามความปรารถนาของผม ครั้งนี้ ผมกลับมาเพื่อขอความปราถนา ผมอยากจัดงานแต่งให้วินนี่เฟรด นั่นจึงทำให้ผมได้ไปหาเดรก ทัคเกอร์ หลังจากนั้น ผมบอกกับเดรกว่าความปรารถนาของผมที่เขาสามารถช่วยได้ก็คือให้เขามาเป็นเจ้าภาพจัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษครั้งนี้ สำหรับเจ้าของใจกลางเมืองที่คุณพูดถึง หลังจากได้ลงทุนกับกลุ่มผู้ค้าเรียบร้อย เขาได้ออกจากเมืองไปแล้ว และไม่มีงานแต่งงานของนักธุรกิจใหญ่อะไรทั้งนั้น มันเป็นแค่เรื่องซุบซิบและสื่อก็เพิ่มโฆษณาออกมาเอง”

เสียงพึมพำในใจ…จิตใจของสมาชิกตระกูลซีได้ระเบิดขึ้น ทุกคนมีอยากที่จะอาเจียนเป็นเลือดออกมา พวกเขาคิดว่าครอบครัวจะได้เป็นมหาเศรษฐีแล้ว และวันแห่งความสำเร็จของพวกเขาก็ใกล้เข้ามาแล้ว แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นความเข้าใจผิด ความกระตือรือร้นของทุกคนหายไปทันที ในตอนนี้กลับเหมือนถูกดูหมิ่นและสบประมาทเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้

“พวกนายไปกินข้าวเถอะ ฉันไม่หิวแล้ว งั้นฉันขอตัวไปก่อนนะ”

"ฉันด้วย ฉันรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย”

“ทำไมจู่ ๆ ถึงมีกลิ่นเหม็นและกลิ่นบูดเกิดขึ้นนะ? มันเหม็น! ฉันจะออกไปสูดอากาศ”

“เฮ้อ… มาจบงานเลี้ยงตระกูลที่นี่กันเถอะ”

สมาชิกในตระกูลซีทุกคน แม้กระทั่งชายชราอย่างจอร์จก็เปิดเผยตัวจริงของเขา งานเลี้ยงที่มีชีวิตชีวาในตอนแรกกลายเป็นเย็นชาและเงียบสงบ คนส่วนใหญ่ก็เดินจากไป

“ปะป๊า มะม๊า ทำไมพวกเขาถึงไปกันหมดเลยล่ะคะ?” ดวงตากลมโตที่สวยงามของแบลร์ กระพริบตาดูสับสน เธอมองไปที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารเต็มจานและเธอก็กลืนน้ำลายลงไป “ปะป๊าคะ หนูขอน่องเป็ดนั่นได้ไหม?”

“จะกินเหรอ? ไปกินอึนู้น! จริง ๆ แล้วเธอเหมาะที่จะกินขนมปังจากถังขยะเท่านั้น!” เสียงชั่วร้ายของไอริสพูดออกมาให้แบลร์ได้ยิน เด็กหญิงตัวเล็กตกใจจนดึงแขนที่ยื่นจะตักอาหารออกไปทันที

การแสดงออกของไทร์ดูเย็นชาเมื่อเขาจ้องมองไปที่ไอริส เขาพูดอย่างโมโห “ถ้าเธอดูถูกลูกสาวของฉันอีกครั้ง ฉันจะดึงลิ้นของเธอออกซะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ