ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 46

"ไทร์ ฉันจะทำมันได้จริง ๆ เหรอ?" กล่าวตามตรง วินนี่อยากจะตั้งบริษัทเครื่องแต่งกายของตัวเองขึ้นมาตั้งนานแล้ว แต่ความฝันของเธอนั้นรู้สึกอยู่ห่างไกลออกไป เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันนี้จะมาถึง! และตอนนี้มันมาถึงแล้ว วินนี่เฟรดจากที่เคยอิ่มเอมใจกลับเริ่มรู้สึกประหม่าแทน

"ตึกสูงทุกที่ต่างเริ่มต้นจากรากฐานที่ต่ำที่สุดทั้งนั้น หลังจากเธอเริ่มก้าวแรกแล้ว ทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ด้วยดี!"

"จริงเหรอ?"

"ใช่" ไทร์พยักหน้ามั่นใจไปที่วินนี่เฟรด "จงเชื่อมั่นในตัวเอง"

"ได้ เชื่อฉันได้เลย!" วินนี่เฟรดตอบเสียงดังกับตัวเอง

ไทร์กล่าว "ตอนนี้เงินก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ต่อไปคือการตั้งโรงงานและบริษัท ถึงแม้ว่าสมิธกรุ๊ปจะยินดีให้เวลากับเรามากขึ้น แต่เราก็ต้องเร่งมือหน่อย"

ไทร์เอามือลูบค้างของเขาและกล่าว "ถ้าทุกอย่างเริ่มจากศูนย์ มันจะใช้เวลานาน คงจะดีถ้าหากมันมีโรงงานที่ตั้งอยู่ก่อนแล้ว วิธีนั้นเราก็แค่ดูแลขั้นตอนและเริ่มทำงานได้เลย มันจะช่วยประหยัดเวลาเราและกำจัดความยุ่งยากได้"

มีแสงสว่างวาบขึ้นในหัวของวินนี่เฟรด "ฉันสามารถหาโรงงานที่มีอยู่แล้วและบริษัทได้!"

"จริงเหรอ?" ไทร์ประหลาดใจ เขาเคยอยากจะให้ แซคเคอรี่ช่วยแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่จำเป็นแล้ว

"ขึ้นมา และตามฉันไป!" วินนี่เฟรดตื่นเต้น

จากนั้น ณ โรงงานเครื่องแต่งกายโจเซฟ ในนอร์ทฮิลล์แพลนส์ โรงงานเครื่องแต่งกายที่ตั้งอยู่มาอย่างยาวนานของเมืองคานห์ ที่ดำเนินการมากว่าสามสิบปีครั้งหนึ่งเคยรุ่งโรจน์แต่ถึงอย่างไรในตอนนี้มันกลับดูทรุดโทรม

เมื่อไทร์และวินนี่เฟรดมาถึงที่ปากประตูทางเข้าของโรงงานเครื่องแต่งกาย พวกเขามาทันเวลาพอดีที่จะเห็นกลุ่มคนงานขนาดใหญ่กำลังมุ่งหน้าไปที่แผนกธุรการ แต่ละคนถือจดหมายลาออกอยู่ในมือ มันชัดเจนที่พวกเขาตั้งใจจะยุติบทบาทในการทำงาน

ทันใดนั้น โจเซฟร่วมกับผู้อำนวยการโรงงานของเขาเกรแฮม เดวิส และคนงานเก่าแก่ไม่กี่คนต่างเร่งรีบกันออกมา

"ทุกคน นี่พวกคุณจะลาออกกันจริง ๆ เหรอ? ท่านประธานซีได้พยายามอย่างหนักที่จะประสานงานร่วมกับบางธุรกิจ ทุกคนช่วยให้เวลากับท่านประธานซีอีกสองสามวันได้ไหม? ฉันเชื่อว่าโรงงานของเราจะกลับไปดำเนินกิจการได้ในเร็ว ๆ นี้ ทุกคนก็รู้ว่าท่านประธานซีดูแลเราดีแค่ไหนในหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้โรงงานกำลังประสบกับวิกฤต ทุกคนจะช่วยเหลือกันสักนิดไม่ได้เลยเหรอ?" ผู้อำนวยการโรงงานเกรแฮม พยายามจะให้เหตุผลกับกลุ่มคนงาน หวังว่าพวกเขาจะยังอยู่กับบริษัทเพื่อที่จะฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปให้ได้

ถ้าหากกลุ่มคนงานเหล่านี้จากไป บริษัทก็คงจะสูญสิ้นจริง ๆ!

"ผู้อำนวยการเดวิส หยุดสร้างวิมานบนเมฆได้แล้ว! ใครกันบ้างที่ไม่รู้ว่าบริษัทนั้นไม่เหลือกิจการอะไรอีกต่อไปแล้ว? เราก็อยากจะอยู่และร่วมแบ่งเบาความทุกข์ของบริษัท แต่ภาระของชีวิตมันไม่เอื้อให้กับเรา ไปกันเถอะ โรงงานนี้เจ๊งแน่นอน!"

เกรแฮมหน้าบึ้งใส่คนที่พูด "เจอราร์ด วิลสัน ไม่กี่ปีก่อนตอนที่แกเสียเงินเป็นหมื่น ๆ ให้กับการพนัน และเมียกับลูกของแกขู่ว่าจะทิ้งแกไป ใครกันที่จ่ายเงินเดือนล่วงหน้าให้แกไปก่อนถึงหกเดือนเพื่อช่วยให้แกผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้? ตอนนี้โรงงานกำลังประสบกับวิกฤต แกกลับลืมที่จะแบ่งเบาความทุกข์ยากกับเรา แกมาปากพล่อยแบบนี้ได้ยังไง? คนงานอย่างแกมันไร้ความรับผิดชอบมากเกินไป"

อารมณ์ของเจอราร์ดเดือดขึ้น "เกรแฮม นายยังคิดว่านายเป็นผู้อำนวยการของโรงงานอยู่รึยังไง? นายจะมาประจานเรื่องนั้นเพื่ออะไร? สิ่งที่ฉันกำลังบอกมันคือความจริงที่โจ่งแจ้ง โรงงานนี้คงอยู่ไม่รอดถึงครึ่งเดือน เราทุกคนต่างก็ต้องทำมาหากิน ใครกันบ้างจะอยู่ที่นี่และตายพร้อมกับพวกนาย? จริงไหมทุก ๆ คน?"

กลุ่มคนงานที่อยู่ด้านหลังของเจอราร์ดส่งเสียเย้ยเข้ามา "เจอราร์ดพูดถูก โรงงานใกล้จะปิดตัวลงแล้ว การจะมาพูดว่าให้ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ร้อนนี่มันจะมีประโยชน์อะไร?"

"ทำไมเราไม่เอาเวลาที่เหลืออยู่ไปหาโรงใหม่ทำกัน?"

ภายใต้ความปลุกปั่นของเจอราร์ด กลุ่มคนงานต่างพากันมุ่งหน้าไปที่แผนกธุรการเพื่อลาออก

เกรแฮมกระวนกระวาย เขาไหว้วานให้คนงานเก่าแก่ช่วยห้ามปรามพวกเขา แต่พวกเขานั้นมีมากเกินไป เกรแฮมและคนของเขาไม่กี่คนก็ห้ามพวกเขาไว้ไม่ได้

"ท่านประธานซี กล่าวอะไรกับพวกเขาหน่อยสิ" หน้าผากของเกรแฮมปกคลุมไปด้วยเหงื่อไคล จากความวิตกกังวลของเขา ขณะเขากล่าวกับโจเซฟ ผู้ซึ่งเงียบงันมาโดยตลอด

"ช่างมันเถอะเดวิส ปล่อยพวกเขาไป" เมื่อเขากล่าวสิ่งนี้ โจเซฟรู้สึกว่าพลังงานของเขาถูกดูดออกไปจากร่างกาย โรงงานแห่งนี้คือความอุตสาหะทั้งชีวิตของเขา เขาอยากจะกอบกู้มัน แต่เขาก็ไม่อำนาจมากพอที่จะทำต่อไปแล้ว!

"ท่านประธานซี..."

"ขอบคุณนะเดวิส และขอบคุณเหล่าพี่น้องสหายเก่าแก่ สำหรับการยินยอมที่จะอยู่ต่อและคอยสนับสนุนฉันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ แค่ปล่อยมันไปซะ ไปร่วมลาออกกับพวกเขาเสียเถอะ"

"ท่านประธานซี ตราบใดที่ยังมีแสงแห่งความหวัง พวกเราก็จะไม่มีทางหนีไปไหน" เกรแฮมกล่าวหนักแน่น คนงานเก่าแก่ไม่กี่คนด้านหลังเขาก็ดูเด็ดเดี่ยวเช่นกัน

มนุษย์ไม่ควรจะลืมกำพืดของตัวเอง พวกเขาควรจะเป็นคนกตัญญู! ก่อนหน้านี้ทุกคนที่นี่ต่างได้รับความเมตตาจากโจเซฟ แต่ช่างน่าเสียดาย หลายคนได้กลายเป็นคนไม่รู้จักสำนึกในบุญคุญ สิ่งนี้คือธรรมชาติของมนุษย์!

"หยุดประจบประแจงสักทีเกรแฮม นายมันเป็นคนชอบเลียแข้งเลียขามาโดยตลอด ไม่อย่างงั้นนายจะได้ขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการได้ยังไง? แต่ตอนนี้คำหวานของนายใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว" เจอราร์ดเยาะเย้ยอย่างยากที่จะเข้าใจ

"ไสหัวไปอย่างมาขวางทาง ประธานซีก็บอกเองแล้ว ฉะนั้นพวกแกเป็นใครถึงมาขวางทางเรา?" เจอราร์ดผลักเกรแฮมออกไปด้านข้างอย่างรุนแรงเพื่อนำกลุ่มคนงานไปที่แผนกธุรการ เพื่อขออนุมัติการลาออกของเขา

"ฉันได้ยินมาว่า ซีกรุ๊ปของวินนี่เฟรดเพิ่งจะเซ็นสัญญาธุรกิจครั้งใหญ่กับสมิธกรุ๊ป ในอีกไม่กี่วันวินนี่เฟรด ซี กู้เงินเป็นร้อยล้านเหรียญจากธนาคารโบตั๋นทองคำเพื่อมาเริ่มตั้งบริษัทใหม่ ฉันได้ใช้เส้นสายไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเราลาออกจากที่นี่ เราจะย้ายไปที่บริษัทของวินนี่เฟรด ด้วยทักษะของเราในการช่วยเธอตั้งตัว เราอาจจะได้รับข้อเสนอให้ไปอยู่ในตำแหน่งอาวุโสก็ได้ มีเพียงแค่คนโง่เท่านั้นที่จะยังอยู่ที่นี่และเฝ้ารอความตาม"

คำพูดของเจอราร์ด ได้กระตุ้นคนงานรอบ ๆ ตัวเขา

"ใช่แล้ว การย้ายไปอยู่บริษัทของวินนี่เฟรดและได้เข้าประจำในตำแหน่งอาวุโสย่อมดีกว่ายินยอมที่จะอยู่ที่นี่และตายไป"

"ใช่! รีบไปลาออกกันเร็ว ๆ ฉันไม่อยากจะอยู่ที่อีกต่อไปแล้วแม้แต่วินาทีเดียว"

ถึงอย่างไรก็ตามในเวลานั้นก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า "คนอย่างพวกคุณที่ทับถมคนอื่นในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดของพวกเขา จะไม่มีวันถูกจ้างเข้ามาในบริษัทของวินนี่เฟรด"

สถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบสงัดทันที ทุกคนชายตามองตรงไปที่ประตูทางเข้าของโรงงาน ซึ่งมีชายหนุ่มและหญิงสาวเดินมา

เจอราร์ดกรอกตามองไปที่วินนี่เฟรดและเห่าหอน "นังหน้าโง่นี่มาจากไหน? แกกล้าดียังไงถึงมาพูดจาไร้สาระที่นี่? ทุกคนที่นี่ต่างมีทักษะและเชี่ยวชาญ ถ้าเราย้ายไปหาวินนี่เฟรด เธอจะปฏิบัติกับเราราวกับสมบัติล้ำค่า! แต่เธอก็ยังหน้าด้านมาพูดจาไร้สาระ เธอไม่กลัวว่าฉันจะฉีกปากของเธอทิ้งรึยังไง?"

วินนี่เฟรดขบขันเล็กน้อย "ไม่ว่านายจะทักษะสูงแค่ไหน ฉันก็ไม่มีทางจะรับเข้าทำงาน เพราะบุคลิกภาพของนายมันน่าขยะแขยง!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ