อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 10

ด้านช่อเอื้องที่นั่งมึนงงอยู่ถึงกับสะดุ้งเบาๆ เมื่อถูกมือหนาสะกิดที่ต้นแขน

“แม่คืนแม่ฉันคุยเรื่องอะไรกับเธอบ้าง?” แม่ทัพเลิกคิ้วถามอย่างอยากรู้

“เอ่อ...หลายเรื่องค่ะ” ช่อเอื้องหันไปส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้คนที่ถูกมารดาเผา ซะจนแทบจะไม่เหลือชิ้นดี

“เช่น?” แม่ทัพถามอย่างรู้สึกหวั่นใจ

“คุณเจ้าชู้” ช่อเอื้องบอกยิ้มๆ

“ไม่จริง!” แม่ทัพหันมามองสาวเจ้าอย่างไม่เชื่อ

“จริงค่ะ แล้วท่านก็บอกว่า...”

“อะไร?”

“ท่านจะส่งให้หนูเรียนต่อปริญญาค่ะ” ช่อเอื้องบอกเรื่องสำคัญที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่า...ชีวิตได้มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาอีกครั้ง

“อะไรนะ?” แม่ทัพถามอย่างตกใจ

“ท่านจะส่งหนูเรียนต่อค่ะ” ช่อเอื้องเอ่ยย้ำพร้อมกับสังเกตท่าทีของอีกฝ่าย ที่เหมือนจะไม่ยินดีเท่าไหร่

แม่ทัพถึงกับนิ่งเงียบไปทันใด ‘นี่แม่คิดอะไรอยู่วะ ถึงจะส่งเอื้องเรียนต่อ มหาลัย’

“เอ่อ...พรุ่งนี้หนูจะบอกท่านว่าหนูไม่อยากเรียนค่ะ” คนที่ดีใจได้ครู่หนึ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ อย่างเจียมตัว

“เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ต้องส่งพ่อของเธอ เรื่องอื่นพักเอาไว้ก่อน เอ่อ...แล้วเมื่อคืนเธอหลับสบายดีไหม?” แม่ทัพเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“ค่ะ” ช่อเอื้องขานรับอย่างรู้สึกว้าวุ่นใจ แต่การได้เรียนต่อในระดับมหา’ลัย นั้น ถือเป็นความปรารถนาอันสูงสุดของเธอ

“เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับเลย” แม่ทัพเปลี่ยนมาคุยเรื่องที่ทำให้เขาแทบจะเป็นบ้า แม้จะรู้สึกแปลกๆ ที่เพิ่งจะเจอกับสาวเจ้า แต่กลับแคร์และหวงจนไม่อยากจะแยกห่างจากเธอแม้แต่วินาทีเดียว

“ทำไมคะ” ช่อเอื้องหันกลับไปถามอย่างเต็มไปด้วยความสงสัย

“ฉันคิดถึงเธอ...คืนนี้เรากลับไปนอนที่เพนต์เฮาส์กันนะ” คนเจ้าเล่ห์เอ่ยชวนเสียงหวาน

“เอ่อ...หนูขอกลับไปนอนที่บ้านของหนูได้ไหมคะ ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องหนูยังไม่ได้กลับบ้านเลย” ช่อเอื้องบอกความต้องการ เพราะคิดถึงทั้งพ่อและบ้านหลังน้อยที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายเกี่ยวกับบิดา

“โอเค! ได้ตามที่ขอ” แม่ทัพพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

“จริงๆ นะคะ” ช่อเอื้องถามอย่างดีใจที่จะได้กลับไปนอนบ้านสักที

“ก็จริงนะสิ ว่าแต่...เธอรู้ใช่ไหมว่าต่อไปนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว ยังมีฉันและแม่ของฉันอยู่ข้างๆ” แม่ทัพยิ้มอย่างเอ็นดูกับท่าทางซื่อๆ ของสาวเจ้า

“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่คุณเมตตาหนู” ช่อเอื้องส่งยิ้มบางๆ ไปให้อย่างรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ แม้วันแรกที่พบกัน...เขาจะเป็นเหมือนกับฝันร้ายก็ตาม

“ยินดีครับ” แม่ทัพตอบก่อนจะเลี้ยวเข้าไปจอดเยื้องๆ กับศาลา จากนั้นก็พาสาวเจ้าเดินเข้าไปในงาน ที่มีผู้คนเริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว

เวลา 16:05 น. หลังวางดอกไม้จันทน์และบอกลาบิดาเป็นครั้งสุดท้าย ทุกวินาทีก็คืบคลานผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว ช่อเอื้องยืนกอดรูปของบิดา จ้องมองควันที่โพยพุ่งออกจากปล่องของไฟของเมรุ ในขณะที่หยดน้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทางอย่างไม่ขาดสาย แม่ทัพเข้าไปกอดปลอบและเช็ดน้ำตาให้หญิงสาว กระทั่งแขกที่มาร่วมงานต่างพากันเริ่มทยอยกลับไปจนหมดแล้ว จึงเอ่ยชวนช่อเอื้องเดินทางกลับเพนต์เฮาส์ โดยให้สัญญาว่าพรุ่งนี้จะพาเธอไปบ้านที่ชุมชน พร้อมกับพูดคุยและขอบคุณคงศักดิ์กับภรรยาที่ช่วยกันจัดงานต่างๆ จนผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

เวลา 17:38 น. แม่ทัพขับรถมาถึงที่พัก ก็หันไปมองคนที่หลับไป แต่ในมือยังคงกอดรูปของบิดา ชายหนุ่มจึงเรียกบอดี้การ์ดให้มาถือรูปขึ้นไปส่งที่ห้องพัก จากนั้นก็ช้อนอุ้มสาวเจ้าเดินตามไปเข้าในลิฟต์

พอถึงห้องพักก็รีบตรงดิ่งไปที่ห้องนอนใหญ่ แล้ววางสาวเจ้าลงบนเตียงอย่างเบามือ

“อื้อ...หนูหลับไปเหรอคะ” คนที่สะดุ้งตื่นถามอย่างมึนๆ

“ใช่ นอนพักเถอะ ฉันจะออกไปสั่งงานอีกเดี๋ยวจะกลับมา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)