อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 28

“แบบนี้โอเคไหมคะ” พอพิมพ์เสร็จก็ส่งไปให้เจ้าชายสุดหล่อดู

แม่ทัพอ่านเสร็จ ก็พยักหน้ารับเบาๆ อย่างชอบใจ “โอเคครับ พี่ให้เมธีลงโปรโมชันต่างๆ ในเฟซบุ๊ก เพจ และไอจีเอาไว้แล้ว”

“เยี่ยมเลยค่ะ” ช่อเอื้องตอบก่อนจะกดเผยแพร่โพสต์ จากนั้นก็เข้าไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับอีกฝ่าย

“อ่อ! พี่จะเปิดบุฟเฟต์ปิ้งย่างของทะเลวันศุกร์หน้านะครับ น้องเอื้องชวนเพื่อนๆ มาทานนะ” แม่ทัพขยับเก้าอี้เข้าไปนั่งตาม พร้อมกับส่งเครื่องดื่มเย็นๆ ไปให้

“เอ่อ...แล้วจะไม่มีปัญหาเหรอคะ” ช่อเอื้องถามอย่างไม่มั่นใจ

“ไม่มีครับ เพราะเราใช้ทางเข้าออกในรีสอร์ตแบบส่วนตัว พนักงานในรีสอร์ตไม่มีใครรู้ว่าน้องเอื้องอยู่กับพี่” แม่ทัพบอกให้สาวเจ้าคลายกังวล

“ค่ะ พี่ทัพน่าจะทำโปรเพิ่มนะคะ หากลูกค้าโต๊ะไหนเขียนรีวิวหน้าเพจก็จัดเมนูพิเศษหรือของน่ารักๆ ให้ แบบนี้เอื้องว่าทุกคนที่มาทานจะต้องเขียนรีวิวให้ทุกโต๊ะอย่างแน่นอนค่ะ” ช่อเอื้องแนะนำเพิ่ม

“เข้าท่าครับ พี่จะให้เมธีจัดการต่อ” แม่ทัพยิ้มรับอย่างเห็นด้วย

“อืม...ถ้าทำบัตรสะสมแต้มหรือบัตรส่วนลดก็จะดีในระยะยาวนะคะ สำหรับคนที่มาทานบุฟเฟต์ครบ10ครั้ง ครั้งที่11 ทานฟรี หรือมา11 ท่าน จ่ายแค่ 10 ท่าน เพิ่มความพิเศษคือทุกยอดบิลที่มีการจ่ายเกิน 5,000 บาท / 10,000 หมื่นบาท จะได้รับของแถมเช่น...แก้วกาแฟที่มีโลโก้ของรีสอร์ต หรือเป็นสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ อะไรก็ได้ที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจและอยากจะมาใช้บริการหรือมาทานที่นี่อีกครั้งค่ะ” คนที่ได้ที ก็เผลอออกความเห็นเพลินอย่างลืมตัว

“ว้าว! ทำไมเมธีถึงไม่เคยจุดประกายความคิดนี้กับพี่นะ” แม่ทัพบอกยิ้มๆ พร้อมกับจ้องมองสาวตรงหน้าอย่างรู้ทึ่ง

“ขะ...ขอโทษนะคะที่เอื้องล้ำเส้นไปหน่อย” ช่อเอื้องรีบบอก เมื่อคิดได้ว่าตัวเองเข้าไปก้าวก่ายธุรกิจของอีกฝ่ายเกินงาม

“ไม่หรอกครับ พี่ชอบฟังความเห็นของหนูนะ แล้วที่เปิดขายจาจัง มยอนกับเนื้อย่างสไตล์เกาหลีก็เพราะไอเดียของหนูเลย” แม่ทัพฉีกยิ้มหวานส่งให้นางฟ้าคนสวยที่ทำหน้าเจื่อนๆ อย่างเอ็นดู

ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ สายเรียกเข้าที่ดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้แม่ทัพก้มดูที่มือถือ พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของผู้จัดการรีสอร์ตจึงรีบกดรับสาย

[ว่าไงคุณเมธี?]

[บอสครับ ลูกค้าแห่กันมาจากไหนไม่รู้ เต็มร้านไปหมดเลยครับ แถมออเดอร์ที่สั่งกลับบ้านก็เยอะจนเชฟใหญ่สามคนกับผู้ช่วยเชฟอีกเจ็ดคน หัวหมุนกันจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้วครับ] ปลายสายบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

[ขนาดนั้นเลยเหรอ?] แม่ทัพขมวดคิ้วถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

[ใช่ครับ ไม่ทราบว่าคุณทัพได้ยิงโฆษณาในเพจหรือเปล่า?]

[เปล่าครับ ไม่ได้ทำอะไรเลย เอ่อ...แค่นี้ก่อนนะครับ] แม่ทัพบอกจบก็รีบกดวางสาย แล้วหันไปเอ่ยกับนางฟ้าคนสวย

“พี่ขอดูที่ไอจีของหนูหน่อยสิครับ”

“มีอะไรเหรอคะ?” ช่อเอื้องส่งมือถือไปให้อีกฝ่ายอย่างมึนงง

“พระเจ้า! หนูมีคนกดติดตามตั้งห้าพันกว่าคน ตอนนี้มีคนกดไลก์โพสต์ไปสี่พันกว่าคน คอมเมนต์อีกสามพันกว่าคอมเมนต์” แม่ทัพมองโพสต์ล่าสุดอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ไม่คิดว่านางฟ้าคนสวยของตนจะมีอิทธิพลต่อคนที่กดติดตามมากมายขนาดนี้

“มีคนติดตามหนูเพิ่มเป็นห้าพันคนแล้วเหรอคะ?” คนที่ไม่ค่อยได้สนใจโลกโซเชียลถามกลับอย่างตกใจ

“โธ่! ยัยเด็กซื่อบื้อ” แม่ทัพหัวเราะขึ้นขำๆ กับท่าทีของสาวตรงหน้า

“ก็เอื้องมัวแต่อ่านหนังสือนี่คะเลยไม่ค่อยได้สนใจในไอจีเท่าไหร่”

“นี่เมียพี่จะเป็นเน็ตไอดอลหรือเปล่าเนี่ย?”

“บ้า! ไม่เป็นหรอกค่ะ เป็นคนธรรมดาๆ สบายใจกว่าเยอะ” ช่อเอื้องบอกพลางส่ายหน้าอย่างไม่เอาด้วย เพราะเห็นดรีมแล้ว เธอรู้สึกเหนื่อยแทนที่ต้องพยายามทำตัวให้เป็นที่สนใจอยู่ตลอดเวลา แถมยังต้องคอยแอบแข่งขันกับเน็ตไอดอลคนอื่นๆ อีก ซึ่งเธออยากจะโฟกัสไปที่เรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว แม้ว่าแฮปปี้กับเอ็นจอยจะคอยยุอยู่ตลอดเวลาว่า...เธอเป็นได้มากกว่าเน็ตไอดอลก็ตาม

“จริงครับ! เป็นแค่เมียพี่ก็พอแล้วเนาะ” แม่ทัพรีบตีเนียนสมทบตามอย่างเข้าทาง

“ชิ!” ช่อเอื้องมองค้อนก่อนจะลงมือทาน จาจัง มยอนกับเนื้อย่างนุ่มๆ อย่างเอร็ดอร่อย

แม่ทัพอมยิ้มอย่างรู้สึกภูมิใจที่นางฟ้าคนสวยเป็นคนไม่ทะเยอทะยาน หากเป็นสาวคนอื่น คงจะรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้แล้ว เพราะการเป็นเน็ตไอดอลนั้น มีโอกาสปูทางไปสู่วงการบันเทิงเป็นอย่างมาก และด้วยหน้าตาที่สะสวยชนิดที่นางเอกเบอร์ต้นๆ ของประเทศยังสู้ไม่ได้ เขาคิดว่า...ช่อเอื้องสามารถเดินเฉิดฉายบนทางสายนี้ได้อย่างสบายๆ

เช้าวันต่อมา...แม่ทัพกับช่อเอื้องตื่นมาเข้าครัวทำอาหารช่วยกันอย่างหวานชื่น ขณะที่กำลังช่วยกันยกกับข้าวที่ทำเสร็จมาจัดวางลงบนโต๊ะ ก็มีเสียงเคาะประตูที่หน้าบ้านดังขึ้น

“ใครมาแต่เช้านะ” แม่ทัพหันไปมองอย่างแปลกใจ

“คุณแม่หรือเปล่าคะ เดี๋ยวหนูไปเปิดประตูเองค่ะ” ช่อเอื้องบอกก่อนจะรีบเดินไปที่ประตูบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่พอเปิดออกไป กลับพบว่าไม่ใช่คุณมาลีน

“เอ่อ...สวัสดีครับ ผมมาหาคุณทัพครับ” เมธียืนมองนางฟ้าคนสวยที่จำได้แม่นว่าเป็นคนเดียวกับที่ผู้เป็นนายคุยด้วยในร้านหมูกระทะเมื่อหลายวันก่อน ‘อะไรกัน! นี่บอสพานักศึกษามาคั่วที่บ้านพักเหรอเนี่ย?’

“สะ...สวัสดีค่ะ” ช่อเอื้องหุบยิ้มแล้วยกมือไหว้อีกฝ่ายด้วยสีหน้าเจื่อนๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)