“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ช่อเอื้องถามอย่างทำตัวไม่ถูก ที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็ทำตัวแปลกๆ ทั้งที่กำลังเจียวไข่อยู่
“เปล่า แค่อยากกอดเธอเท่านั้น” แม่ทัพคลายอ้อมแขนออกแล้ว ตักไข่เจียวใส่ลงจานใบใหญ่ จากนั้นก็รีบเดินไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่ใกล้ๆ แก้เขิน
“นี่ค่ะ” ช่อเอื้องหันไปหยิบช้อนกับส้อม แล้วส่งให้กับอีกฝ่ายก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม
“ขอบคุณครับ” แม่ทัพรีบตักไข่เจียวใส่เนื้อปูวางลงในจานของสาวเจ้าอย่างเอาใจ
“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องยิ้มก่อนจะหยิบช้อนกลาง ตักแกงเขียวหวานที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนลงในจานข้าวของตัวเอง แล้วตักขึ้นมาทานพร้อมกับไข่เจียวที่มี เนื้อปูเป็นก้อนๆ
“เป็นไงบ้าง?” แม่ทัพถามยิ้มๆ
“เป็นไข่เจียวและแกงเขียวหวานที่อร่อยที่สุดเลยค่ะ” ช่อเอื้องบอกพร้อมกับยกนิ้วให้พ่อครัวสุดหล่อ
“อร่อยก็ทานเยอะๆ นะ” แม่ทัพบอกก่อนจะตักกับข้าวขึ้นมาทานอย่างอารมณ์ดี ที่เห็นสาวเจ้าสดใสขึ้นกว่าเมื่อวาน
“ค่ะ” ช่อเอื้องยิ้มก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานต่อ เพราะรู้สึกเขินกับสายตาหวานเยิ้มของพ่อครัวหน้าโหดที่ขยันส่งมาให้ทุกๆ สิบวินาที
สองชั่วโมงต่อมา...แม่ทัพพาช่อเอื้องเดินทางไปยังศาลาที่ตั้งบำเพ็ญศพของบิดา ทันทีที่จอดรถเสร็จก็รีบหันไปเอ่ยกับสาวเจ้า หลังเห็นรถตู้ของมารดาแล่นเข้ามาจอดข้างๆ
“แม่ฉันมาพอดี! ท่านเป็นโรคหัวใจ ไม่สามารถรับเรื่องที่สะเทือนความรู้สึกได้ เธออย่า...”
“ค่ะ หนูจะไม่พูดว่าคุณให้หนูเล่นละครหลอกท่าน” ช่อเอื้องบอกอย่างเข้าใจในความหมาย
“...” แม่ทัพได้ฟังคำตอบที่แสนซื่อก็ถึงกับสตั๊นไปชั่วขณะ พอตั้งสติได้ก็รีบพาสาวเจ้าลงจากรถ แล้วเดินไปหามารดาของตนที่กำลังก้าวออกมาจากรถตู้
“สวัสดีครับแม่” แม่ทัพเอ่ยทักทายมารดาด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“สวัสดีค่ะ” ช่อเอื้องยกมือไหว้อย่างรู้สึกเขินอายที่ต้องเล่นบทคนรักของพ่อเทพบุตรสุดเถื่อน
“เอื้อง...แม่เสียใจด้วยนะลูก” มาลีนบอกพร้อมกับดึงเด็กสาวเข้ามากอดปลอบอย่างรู้สึกสงสารและตื้อไปทั้งหัวใจ ที่ยังไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับครอบครัวของว่าที่ลูกสะใภ้อย่างเป็นทางการ บิดาของอีกฝ่ายก็มาด่วนจากไปเสียก่อน
“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องรู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“หนูเอื้อง ฉันเสียใจด้วยนะ” วินัย เสี่ยใหญ่วัย 57 ปี รูปร่างสูงท้วมนิดๆ เอ่ยแสดงความเสียใจกับเด็กสาวที่ตนหมายตามาได้สองปี
ทันทีที่ทราบข่าวว่าบิดาของอีกฝ่ายเสีย เขาก็ตั้งใจจะยื่นข้อเสนอส่งเสียเลี้ยงดูให้เป็นบ้านเล็ก แต่พอมาถึงงานก็ต้องตกใจที่เห็นเด็กสาวก้าวลงมาจากรถหรูพร้อมกับชายหนุ่มที่หน้าตาดีและรูปร่างดูภูมิฐานซะจน...เห็นแล้วรู้สึกหงุดหงิดหัวใจสุดๆ
“ขอบคุณค่ะคุณวินัย เชิญด้านในค่ะ” ช่อเอื้องยกมือไหว้เจ้าของบ้านเช่า ขในชุมชนที่เธออยู่อย่างซึ้งใจ ที่อีกฝ่ายมาร่วมงานศพของบิดา
แม่ทัพยืนจ้องมองเสี่ยใหญ่ที่ทราบจากคงศักดิ์มาว่า...อีกฝ่ายเคยเข้าไปทาบทามและยื่นข้อเสนอเรื่องขอเลี้ยงดูช่อเอื้องตั้งแต่ตอนที่บิดาของสาวเจ้าป่วยเป็นอัมพฤกษ์
“แล้วนี่ใครเหรอหนูเอื้อง?” วินัยหน้าตึงขึ้นมานิดๆ เมื่อเห็นสายตาที่ชายหนุ่มมองมายังตน
“ผมแม่ทัพ อินธิรากรณ์ เป็นคนรักของน้องเอื้องครับ” แม่ทัพเอ่ยแนะนำตัว
“ไม่จริง! ก่อนหน้านี้ทำไมผมถึงไม่เห็นคุณมาก่อน” วินัยใจหายวูบ! ตั้งใจจะมาเล่นบทพระเอกปลอบใจนางเอกที่สูญเสียบิดา แต่พอมาถึงกลับมีคนแย่งบทนั้นไปเล่นก่อนแล้ว
“ก่อนหน้าไม่เห็น...แต่ตอนนี้ก็เห็นแล้วนี่ครับ” แม่ทัพบอกพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากขึ้นนิดๆ อย่างรู้สึกสมเพชชายรุ่นพ่อที่คิดจะฟาดเด็กสาวเอ๊าะๆ
“เอ่อ...เสี่ยครับไปนั่งฟังพระสวดทางนั้นดีกว่าครับ” คงศักดิ์รีบเข้ามาเชิญ ก่อนจะเกิดมวยข้ามรุ่นขึ้นในงานศพ
“ขอตัวก่อนนะครับ” วินัยบอกก่อนจะเดินเข้าไปในงานกับคงศักดิ์และลูกน้องอีกสองคนด้วยสีหน้าตึงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)