ติณห์ดันขาของเธอกางออก แล้วสำรวจใกล้ๆ บุรฉัตรสังเกตว่าติณห์ไม่ได้มีปัญหาในตอนที่ถอดแว่น เขาไม่ได้มีท่าทีว่าจะมีปัญหาเรื่องของการมองเห็น
“คุณติณห์มองเห็นชัดเหรอคะ”
เธอถามอย่างแปลกใจ ติณห์ส่งยิ้มให้
“ทำไมกลัวผมจะมองของบลูไม่ชัดเหรอ”
บุรฉัตรหน้าแดงเมื่อได้ยินคำถาม
“เปล่าค่ะ แค่บลูสงสัยว่าเวลาคุณติณห์ถอดแว่นก็ดูปกติดี”
เขาจ้องที่กลางกายของเธอ และสัมผัสมันเบาๆ จนเธอเผลอเกร็งตัว
“มันบวมนิดหน่อย”
เขาบอกกับเธอและมองสบตาใสแจ๋วที่มองกลับมาอดยิ้มออกมาไม่ได้ ที่เห็นเธอทำหน้าคล้ายสงสัย
“ผมมองเห็นชัดครับ ทำเลสิคมาสองปีแล้ว”
ติณห์เฉลยสิ่งที่เธอสงสัย
“อ้าว”
แล้วใส่แว่นทำไม
“ผมชินกับการใส่แว่น ไม่ใส่แล้วมันแปลกๆก็เลยยังใส่อยู่ จริงๆมันเป็นเลนส์ธรรมดา”
อีกอย่างก็เพื่อเสริมบุคลิกให้ดูน่าเชื่อถือเท่านั้นเอง
“งั้นคุณติณห์ก็มองเห็นชัดเลยน่ะสิคะ”
บุรฉัตรถามเสียงสูง ติณห์ยิ้ม
“ชัดครับ”
คำตอบของเขาทำให้บุรฉัตรรีบหุบขาอย่างไว ตอนแรกก็ปลอบใจตัวเองว่า เขาคงมองไม่ชัดหรอก เลยข่มความอายไว้ได้ แต่นี่เขาบอกว่ามองเห็นชัด
ตายแล้วอีบลู
ติณห์หัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางของเธอ
“อายอะไรกันบลูผมดูมาหลายรอบแล้ว”
บ้าสิใครจะไม่อาย
“ก็คุณติณห์เห็นชัด”
“บลูสวยออกไม่มีอะไรต้องอายเลย”
บุรฉัตรหน้าแดงให้กับคำชมของเขา
“แต่...”
“บลูควรทำตัวให้ชินนะ เพราะบลูคงต้องให้ผมดูไปอีกหลายครั้งเลยไม่ต้องอายหรอกนะ”
ติณห์ส่งยิ้มหล่อละมุนมาให้ บุรฉัตรพยักหน้าไม่อายก็ไม่อาย ทำหน้าหนาๆเข้าไว้อีบลู
ติณห์ก้มลงไปมองที่เดิมอีกครั้ง
“ผมว่ามันบวมขึ้นอีกแล้ว เราควรต้องพักก่อนสักสี่ห้าวันนะ เอาไว้ให้บลูหายดีจริงๆ ตอนนั้นก็คงพอดีกับยาคุมออกฤทธิ์ ตอนนั้นผมคงอึ๊บบลูได้แบบไม่ต้องใส่ถุง”
ติณห์ทำหน้าเป็นยิ้มตาใสใส่หน้าเธอ
“คุณติณห์ พูดอะไรมันดูไม่เข้ากับคุณติณห์เลยสักนิด”
ติณห์หัวเราะร่าไม่ได้ดูมีท่าทีจะสนใจกับคำต่อว่าของเธอเลย
“บางทีเราก็มีบางมุมที่เราเก็บเอาไว้นะบลู มุมที่เราไม่เคยเปิดเผยให้ใครได้เห็น”
ติณห์ยกแขนของตัวเองขึ้นไปด้านบนแล้วนอนหนุนแขนของตัวเอง
“บลูโอเคไหมล่ะ ที่จะเห็นมุมนั้นของผม เป็นคนเดียวที่ผมจะอนุญาตให้เห็น”
“มึงก็รู้ว่ากูมีความรัก”
ก็มีความรักไง รักคุณติณห์รักจนจะบ้าตายอยู่แล้ว หลังจากวันที่ครบกำหนดที่ยาคุมออกฤทธิ์แล้วเธอกับคุณติณห์สามารถมีอะไรกันได้โดยที่ไม่ต้องมีอะไรมาขวางกั้น
คุณติณห์ก็ขยันมาหาเธอทุกวัน มีอะไรกับเธอทุกคืน บางวันก็ไม่ยอมกลับห้องตัวเอง กระซิบบอกเธอตลอดว่าการได้มีอะไรกับเธอโดยที่ไม่ต้องใส่ถุงมันดีแค่ไหน
แม้แต่เมื่อคืนเขาก็เรียกร้องจากเธอหนักมาก แต่เธอชอบจัง ยิ่งได้ยินเสียงหอบหายใจครวญครางในตอนที่เขาเสร็จสมและกอดรัดเธอแน่น ซบหน้าลงกับซอกคอของเธอ เธอมีความสุขมาก
แม้แต่ตอนนี้เธอยังรู้สึกถึงน้ำรักของเขาที่ฝากไว้ในตัวเธอ มันหยาดเยิ้มอยู่ภายใน ซึ่งเธอรู้สึกดีมาก เพราะเหมือนกับว่าเธอกับเขาคือคนที่ใกล้ชิดกันมากๆ
“อีบลู มึงใจลอยไปไหน”
แนทตี้ที่เรียกบุรฉัตรหลายรอบว่าจะกินอะไร แต่อีเพื่อนสาวก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้ยิน เหมือนจมจ่อมอยู่กับฝันหวานของตัวเองเพราะแก้มแดงและยิ้มอยู่ตลอดเวลา
“อะไรก็ได้มึง แต่ปลาร้าไม่เอานะ”
บุรฉัตรบอกกับเพื่อน แนทตี้ถึงกับเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“ทำไมล่ะ มึงชอบกินตำปูปลาร้าออก”
เวลาที่มากินส้มตำด้วยกันแบบนี้ อีบลูชอบสั่งตำปูปลาร้าเผ็ดๆจะตายไป เวลามากินแต่ละทีต้องสั่งสองครกเพราะกินกันคนละครกถึงจะอิ่ม
“ไม่อ่ะเดี๋ยวกลิ่นมันออกตามตัว ติดปากด้วย”
“หืม”
แนทตี้เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“เออน่า มึงอยากสั่งมึงสั่งเลย กูกินตำไทย”
บุรฉัตรคร้านจะบอกกับเพื่อนว่า ติณห์ชอบชมว่าเธอตัวหอม และเขาก็จะซุกซบเธออยู่ตลอดเธอกลัวว่าถ้ากลิ่นปลาร้าหรืออาหารรสจัดกลิ่นมันจะออกมาตามรูขุมขน
อีกอย่างเธอไปอ่านเจอว่า อาหารหมักดองจะทำให้ตรงนั้นของผู้หญิงมีกลิ่น เธอเลยอยากหลีกเลี่ยง และหันมากินอาหารที่จะทำให้ตัวหอมแทน
“มึงแปลกไปมากเลยอีบลู”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา