“เออ เออ เดี๋ยวกูจะรีบตามไป มึงกลับไปพักก่อนเลย”
บุรฉัตรพยักหน้าให้เพื่อนแล้วเดินเซๆกับไปที่ตัวตึกของโรงแรม เธอเดินผ่านตัวแทนหลายคนที่ยังคงสนุกสนานกับการกินดื่มเต้นกันอย่างเพลิดเพลิน
ไม่รู้คุณติณห์กลับไปหรือยัง เธอเดินผ่านศาลพระพรหมที่มาไหว้ขอพรอีกครั้ง
เหลือบตาดูก็เหมือนอุปาทานว่ามีรังสีแวววาวออกมาจากศาล บุรฉัตรยกมือขึ้นมาลูบแขนรู้สึกหนาวแปลกๆ ทั้งๆที่ไม่มีลมพัดมาสักนิด เธอยกมือไหว้ แล้วรีบเดินผ่านอย่างรวดเร็ว
บุรฉัตรเดินมึนๆไปถึงหน้าล็อบบี้ของโรงแรม มองเห็นหลังของติณห์แวบๆเดินลงไปยังชั้นใต้ดิน
เขาไปไหนของเขา
อยากจะตะโกนเรียกแต่ก็รู้สึกไม่ไหว ไม่อยากให้เขาเจอเธอในสภาพนี้ สร้างภาพว่ากินน้ำส้ม สามชั่วโมงผ่านไปเมาเหมือนหมา
กลับไปนอนได้แล้วบลู เรื่องผู้ชายเอาไว้วันหลัง
เธอเดินไปที่ลิฟต์กดลิฟต์ให้เปิดออก พอเข้าไปด้านในพยายามจะนึกว่าตัวเองอยู่ชั้นอะไรจะได้กดเลขลิฟต์ก็นึกชั้นไม่ออก
“ชั้นอะไรวะ”
นึกอยู่นานสองนานก็นึกไม่ออก เลยล้วงคีย์การ์ดที่ยัดไว้ที่หน้าอกออกมาดู อ้อชั้นสิบเก้า
บุรฉัตรกดชั้นสิบเก้าแล้วยืนพิงผนังลิฟต์มึนมากง่วงมากด้วย เธอหลับตาพิงผนังลิฟต์อยู่แบบนั้น จนเสียงติ๊งของลิฟต์ดังขึ้นประตูเปิดออกเมื่อลิฟต์มาถึงจุดหมาย
เธอเดินไปเรื่อยๆจนมาถึงหน้าห้องล้วงคีย์การ์ดออกมาดูหมายเลขห้องที่หน้าประตูกับหมายเลขในซองคีย์การ์ดว่าตรงกันไหมโอเค1916ถูกต้องไม่ผิดห้องแน่
เธอทาบคีย์การ์ดลงบนประตูเสียงสัญญาณดัง ’ตื๊ด’ พร้อมไฟสีเขียวสว่างวาบ
บุรฉัตรเลยผลักประตูเข้าไป สะบัดรองเท้าส้นสูงออกจากเท้า แอร์ถูกเปิดไว้แล้วจำได้ว่าตอนออกไป แนทตี้เสียบคีย์การ์ดสำรองไว้หนึ่งใบ เธอเดินไปจนถึงเตียงแล้วก็ล้มตัวลงนอนดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้และหลับตาลงทันที
“สาธุขอฝันถึงคุณติณห์สักคืนเถอะค่ะ คืนนี้ถ้าฝันถึงอีกที สัญญาเลยว่าจะไม่ขัดขืนเลย”
บุรฉัตรพึมพำแล้วก็ยิ้มออกมาก่อนจะนอนหลับไปอย่างเป็นสุข
“ติณห์ทางนี้”
จิรายุสโบกมือให้เพื่อนรักที่นานๆจะได้เจอกันที เพราะตอนนี้เขามาดูโรงแรมที่พัทยาเป็นหลักไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพ เลยไม่ค่อยได้เจอกันกับเพื่อนสักเท่าไหร่
“รอนานไหมมึง”
ติณห์เอ่ยทักทายเพื่อนรักที่นั่งเด่นเป็นสง่า ให้สาวๆหลายโต๊ะมองแทบจะคอเคล็ด เพื่อนเขาคนนี้มันน่าตาดีมาก หล่อรวยแต่ติดจะเย็นชาไปหน่อย
ใจอยากจะกลับห้องไปพักแล้ว แต่ติดที่ว่านัดเพื่อนไว้แล้วเลยต้องมาตามนัด แม้จะดื่มไม่ไหวแล้ว เพราะวันนี้ดื่มไปเยอะมาก ตัวแทนมาขอชนแก้วคนแล้วคนเล่า เลยต้องดื่มกับทุกคน
“ไม่หรอกก็ดื่มเรื่อยๆ มึงเอาอะไรดี”
จิรายุสเอ่ยถามเพื่อนรัก
“ไม่ดีกว่า ดื่มมาทุกอย่างแล้วคืนนี้ไม่ไหว”
จิรายุสยกมือเรียกพนักงาน
“เอาไวน์หน่อยแล้วกัน จิบนิดหน่อย”
ติณห์พยักหน้าเลยตามเลย รอไม่นานแก้วไวน์ก็มาวางตรงหน้า
“งานเป็นไงบ้างมึง”
ติณห์ถามอย่างคนที่งงกว่าเดิม
“อืมอยากให้แต่งก็แต่งๆไป แต่งแล้วก็หย่าได้”
“อะไรของมึงวะ”
ติณห์ไม่เข้าใจเพื่อน
“ก็แม่อยากให้แต่ง กูก็แต่ง”
“แล้วมึงรักเขาไหม”
มันยักไหล่แบบคนที่ไม่แคร์หรือไม่สนใจเรื่องนั้น
“มึงก็รู้ว่ากูไม่สนใจความรัก”
ติณห์ถอนหายใจ
“ไม่รักจะแต่งทำไม”
ไม่เข้าใจ
“ก็แม่เขาบอกว่ากูวัยขนาดนี้สมควรจะแต่งได้แล้ว ก็แต่งให้เขาไปงั้น”
ดูเป็นลูกที่ดีมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา