“เจ๊พราวบอกว่าไม่น่าจะจริง เพราะไม่เคยมีใครเห็นคุณติณห์ไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนไหนสักที และอีกอย่างผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าลาออกจากสยามพาณิชย์แล้วนะ หายไปเลยไม่รู้ไปไหน”
บุรฉัตรครุ่นคิด จะว่าไปสามอาทิตย์ที่ผ่านมาติณห์มาหาเธอเกือบทุกวันหลังเลิกงาน เขาก็ไม่น่าจะมีเวลาไปหาใครนะ
“กูเคยถามเขา แต่เขาบอกว่ายังไม่มีแพลนจะคบใครในตอนนี้”
บุรฉัตรเล่าให้แนทตี้ฟังถึงสิ่งที่เคยถามเขา
“อืมก็อย่าเพิ่งคิดมากเลยมึง ตอนนี้ศักดิ์ศรีของมึงดีจะตายอย่างน้อยก็เป็นคนนอนร่วมเตียง พยายามทำให้เขารักมึงให้ได้ จะได้เป็นคุณนายพิริยะกุลสักที กูรอเป็นเลขาแนทตี้อยู่”
ก็คงต้องอย่างนั้น เมื่อมีโอกาสก็ต้องทำเต็มที่
“เออ ว่าแต่งานพริตตี้ว่ายังไงมึง”
บุรฉัตรคุยเรื่องสำคัญที่นัดกันมาวันนี้
“อีกสองอาทิตย์มีงานMCจัดที่ห้าง กูส่งคลิปที่มึงแนะนำตัวไปให้เขาดูแล้วเจ้าของงานเขาโอเค ค่าตัวสามพันห้าสามชั่วโมง แต่งหน้าทำผมไปเอง ชุดมีให้ มึงโอเคใช่ไหม แต่กูตอบรับไปแล้ว”
โอเคสิ ทำสามชั่วโมงสามพันห้า อีบลูไม่รังเกียจหรอก นับว่าดีสำหรับการเริ่มต้น
“สามชั่วโมงสามพันห้าโอเคสิมึง กูแบ่งให้มึงพันหนึ่งนะ แต่งหน้าทำผมให้กูด้วย”
แนทตี้พยักหน้า
“ได้จัดไป ช่วงนี้อาจจะต้องรับๆไปก่อนนะมึงเก็บงานเข้าพอร์ต พอมีประสบการณ์แล้วเดี๋ยวงานก็วิ่งเข้าชนเอง”
บุรฉัตรพยักหน้า นึกปลื้มใจที่จะได้ทำงานที่ใช้ความสามารถบ้าง
จริงๆเงินสามพันห้าสำหรับพริตตี้ที่อยู่ในวงการนานอาจจะมองว่าน้อย แต่สำหรับอีบลูที่แม่ขายของทั้งวันยังไม่ได้เงินถึงสามพันเลย เท่านี้ถือว่าได้เยอะมาก
“ว่าแต่สินค้าเป็นอะไรเหรอมึง”
บุรฉัตรถามข้อมูลจะได้เตรียมตัวถูก แนทตี้มองหน้าเพื่อนแล้วยิ้มออกมา
“งานแรกของมึง คือ อาหารหมาว่ะเพื่อน”
พอเพื่อนบอกว่าอาหารหมา บุรฉัตรถึงกับหลุดขำ แหม ดวงของมึงนะอีบลูงานแรกที่ได้ช่างเหมาะกับมึงแท้ๆ
อาหารหมาสำหรับคนปากหมาแบบอีบลู เข้ากั๊น เข้ากัน เอาวะ จะอาหารอะไรอีบลูก็ไม่รังเกียจหรอก จะตั้งใจทำงานอย่างดีเลยทีเดียว
“ได้ มึงจะอาหารหมาหรืออาหารแมวหรืออาหารปลามึงก็รับมาเถอะกูได้หมดแหละ”
แนทตี้ตักต้มแซ่บเข้าปาก แล้วพยักหน้ารัวๆ ดีใจที่เพื่อนยังเป็นอีบลูผู้ไม่เกี่ยงงานคนเดิม แบบนี้น่าจะหางานได้ง่าย
เพราะพริตตี้ดังๆหลายคนเขาจะเลือกงาน คนที่มีความสามารถด้านการพูด สามารถพรีเซนต์ได้จะมีงานเยอะกว่าคนที่ไม่มีทักษะด้านการพูดอยู่แล้ว
“เดี๋ยวกูจะหางานให้มึงเยอะๆเลยบลู ให้งานแรกผ่านไปก่อนเถอะ”
แนทตี้พูดอย่างมั่นใจว่าหางานได้แน่นอน เพราะศึกษาและสร้างคอนเนคชั่นไว้พอสมควรแล้ว ทั้งคู่กินข้าวไปคุยกันไปอย่างออกรสชาติ เพราะไม่ได้เจอกันนาน พอกินอิ่มบุรฉัตรก็เรียกคิดเงิน
“มื้อนี้กูเลี้ยงเองแนทตี้ ตอบแทนที่มึงช่วยกูหลายอย่าง”
บุรฉัตรบอกกับเพื่อนอย่างใจป้ำ
“แหมขอบใจนะยะ คุณนายบุรฉัตรที่เลี้ยงเลขาแนทตี้”
แนทตี้กระเซ้าเพื่อนว่าด้วยเรื่องที่เคยคุยเล่นกันเมื่อก่อน ว่าถ้าบุรฉัตรได้เป็นคุณนายพิริยะกุลเมื่อไหร่จะให้แนทตี้เป็นเลขา
“แหมแค่นี้เองนะคะ ตอบแทนที่คุณเลขาดูแลคุณนายอย่างดี”
บุรฉัตรเย้าแหย่เพื่อนกลับอย่างสนุกสนาน
“พี่คิดเงินค่ะ”
บุรฉัตรมือไม้สั่นเมื่อรู้ว่าตัวเองหอบเงินแสนไปไหนมาไหนด้วย ตาย ตาย ตาย
อีบลูทั้งยัดถุงถั่วต้ม ทั้งยัดห่อข้าวเหนียวไก่ย่างที่กินเหลือ นี่คือกระเป๋าใบละเกือบแสนเหรอวะ มิน่าทำไมถึงมีถุงมีกล่องอย่างดีขนาดนั้น ใครจะไปรู้ว่ามันแพง เดินตลาดนัดเห็นลายแบบนี้เยอะแยะไป
“โอ๊ยอีแนทตี้มึงไม่ได้ล้อกูเล่นใช่ไหม กูยัดถุงถั่วต้มที่ซื้อมาจากตีนสะพานลอยใส่ไปเต็มๆเลยมึง ตายแล้ว”
บุรฉัตรดึงถุงถั่วต้มยี่สิบบาทออกจากกระเป๋าทันที เศษเปลือกถั่วยังหล่นอยู่ในกระเป๋าอยู่เลย
“กูจะล้อมึงเล่นทำไมมึงดูนี่”
แนทตี้ยื่นโทรศัพท์ให้บุรฉัตรดู หน้าจอโชว์รูปกระเป๋ารุ่นเดียวกับที่เธอสะพายเป๊ะเลย ตายห่าราคาคิดเป็นเงินไทยคือเก้าหมื่นกว่า
“โอ๊ยแนทตี้กูจะเป็นลม”
คุณติณห์นะคุณติณห์ซื้อมาทำไม เอาเงินแสนมาให้ยังจะดีเสียกว่า
แนทตี้หัวเราะให้กับท่าทางของเพื่อน
“ผัวมึงนี่โคตรป๋าเลยว่ะบลู”
เออ ป๋าจริงไม่อยากบอกเพื่อนเลยว่านี่คือรางวัลจากการอมปิกาจู้
แค่อมปิกาจู้แค่นี้ได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ โอ๊ย ถ้ารู้ว่าจ่ายแบบนี้เดี๋ยวจะอมให้เช้าเย็นเลย
บุรฉัตรนั่งมองชุดนักศึกษาที่แขวนไว้อย่างปลื้มใจ มันคือเครื่องแบบของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ที่ติณห์มีหุ้นอยู่
เขาฝากเธอเข้าเรียนในระดับชั้นปีที่สาม เธอเทียบโอนหน่วยกิตระดับปวส.จากที่เดิมมาเรียนที่ใหม่ในคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
ตื่นเต้นที่จะได้ใส่ชุดนักศึกษาแบบที่เคยอยากใส่ มีคนส่งเรียนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีเงินจ่ายไหม หน้าที่ของเธอคือเรียนอย่างเดียว
ติณห์มาหาเธอเกือบทุกวัน ยกเว้นวันที่เขาต้องกลับบ้านโดยรวมชีวิตของเธอมีความสุขมาก ได้อยู่กับผู้ชายที่รัก ได้เรียนหนังสือ มีเงินส่งเสียทางบ้าน และมีงานให้ทำที่พอจะสร้างรายได้ให้กับตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา