ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 514

บทที่514 หัวเซี่ยเทียนป่าง

“ไอ้หนุ่ม บนสวรรค์มีทางให้เดินแกไม่เดิน ในนรกไม่มีประตูแกยังจะพุ่งเข้าไป เอาชีวิตมา!”

ในตอนที่พูด หนึ่งในลูกน้องก็ชักกริชออกมาหนึ่งเล่ม แล้วก็พุ่งเข้ามาหาที่หน้าอกของเฉินเกอ

“ปัง!”

กริชปักลงมาบนหน้าอกขอเฉินเกอ กลับไม่ได้แทงเข้าไปเลยแม้แต่น้อย

“อะไร?”

วินาทีถัดไปคนๆนั้นก็งุนงง

“เป็นพวกคุณที่บังคับผมเอง!”

เฉินเกอพอโกรธ ก็ฟาดมือลงไปบนหัวของคนๆนั้น

กร๊อบ!

ศีรษะผิดรูป ดวงตาทั้งสองข้างก็มีเลือดไหลออกมา

แล้วก็บินออกไปกว่าสิบเมตร แล้วล้มลงไปนอนบนพื้น แล้วกลายเป็นก้อนดินเหนียวไร้สภาพ

“เป็นคนฝึกวิทยายุทธ!”

หัวล้านเองก็ประหลาดใจ จากนั้นก็โบกมือ “เข้าไปพร้อมกัน จัดการมันเสีย!”

ที่เหลืออีกหกคนก็พุ่งตัวเข้ามาพร้อมกัน

แต่ว่าพวกเขา จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของเฉินเกอได้ยังไง

เฉินเกอลงมือด้วยความเรียบร้อยละรวดเร็ว ทุกๆครั้งก็ถึงชีวิต

ภายในวินาทีสั้นๆ ทั้งหกคนก็ล้มลงไปบนพื้น แถมตายอย่างน่าอนาถ

“หา?”

เหลือเพียงแค่หัวล้านยืนอยู่ที่เดิม ทั้งหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อแตกพลั่ก

โดนทำให้ตกใจจนตะลึงไปแล้ว

โดยเฉพาะตอนที่กำลังมองเฉินเกอที่เดินมาทางเขา ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ เหมือนกับปีศาจตัวหนึ่ง

ขาทั้งสองข้างของหัวล้านราวกับว่าโดนถ่วงไว้ด้วยตะกั่ว อยู่ๆก็ขยับไม่ไหวแล้ว

“ทุกคนปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บ อยู่ด้วยกันอย่างสามัคคี ดีจะตาย ทำไมจะต้องมาบังคับผม?”

เฉินเกอเดินไปอยู่ตรงหน้าของหัวล้าน

“ใช่....ใช่ ไม่กล้าแล้ว เข้าใจผิด....เข้าใจผิดไปทั้งหมด!”

“ผมอุตส่าห์ยอมขอร้อง ทำไมคุณยังสั่งให้ลูกน้องของคุณลงมืออีก กลั่นแกล้งคนอื่นได้เลวร้ายมากจริงๆ!”

เฉินเกอดีดเศษหญ้าใบหนึ่งบนไหล่ของเขา

“ขอบคุณ ผมไม่กล้าแล้ว ผมไม่รู้.....อ๊า!”

หัวล้านสั่นเทา นึกว่าเฉินเกอจะปล่อยตัวเองไป

แต่ว่าในวินาทีถัดไป แขนขาทั้งสี่ของเขาก็ถูกแยกออก

เหลือเพียงเสียงร้องโหยหวน ที่สะท้อนไปมาอยู่ริมฝั่ง

ส่วนเฉินเกอ ในตอนนี้ก็เบนสายตาไปยังหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง

“แอบอยู่ตั้งนานแล้ว ออกมา!!”

เฉินเกอตะโกนออกมาอย่างโมโห

หญ้าพลิ้วไหว ท่านอาวุโสชราผมขาวคนหนึ่ง ค่อยๆเดินออกมา

เป็นท่านลุงคางคนนั้น

ในตอนนี้ สีหน้าของท่านลุงคางซีดไปเล็กน้อย

“นึกไม่ถึงจริงๆ คุณผู้ชายอายุน้อยๆ แต่กลับอยู่ในจุดๆนี้แล้ว เป็นกระผมที่ใจร้อนไม่รอบคอบ เจอคนที่มีความสามารถมากมายแต่กลับมองไม่ออก แต่คุณผู้ชาย ผมกับคนพวกนี้ไม่ใช่พวกเดียวกัน!”

เมิ่งคังติดตามเฉินเกอตลอด ตั้งแต่ที่เฉินเกอแยกเถียเชวี่ยนด้วยมือเปล่า ไปจนถึงที่กริชนั่นทำลายก้อนหิน ความสามารถเฉพาะตัวพวกนี้

ทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของเขา

ในใจก็รู้สึกประหลาดใจมาตั้งแต่แรกแล้ว

ไม่แปลกใจเลยว่าทำถึงได้กำจัดกำลังภายในของตัวเองได้ง่ายๆ

ที่แท้พลังของเขาก็แข็งแกร่งมาก

ตามความเป็นจริงแล้ว เมิ่งคังตามมา หนึ่งเพื่อที่จะแย่งเถียเชวี่ยนให้ลู่จงเซวียน สอง ก็เพื่อที่จะดูพลังของเด็กหนุ่มคนนี้

แต่หลังจากที่ได้เห็นพลังเฉพาะตัวของเขา เมิ่งคังหลบอยู่หลังต้นไม้ ไม่กล้าหนี และก็ไม่กล้าขยับ

เพราะว่าเด็กหนุ่มคนนี้ แข็งแกร่งจนทำให้คนใจหาย

แถม รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้วด้วย

“คุณก็มาแย่งเถียเชวี่ยนเหรอ?”

เฉินเกอเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา

“ไม่กล้าที่จะปิดบังคุณผู้ชาย ใช่ครับ แต่ว่าพอได้เห็นพลังของคุณผู้ชายด้วยสายตาของตัวเอง ก็ไม่กล้าที่จะมีความคิดอื่นใดๆอีกแล้ว!”

ชายชราอายุเก้าสิบกว่าคนหนึ่ง กลับมาโค้งคำนับก้มหัวให้เฉินเกอ

เพราะว่าพลังของเขา ก็เลยมากพอที่จะเปรียบเทียบกับเฉินเกอคนเก่าเมื่อครึ่งปีที่แล้วได้ เฉินเกอรู้ความสามารถของตัวเอง ก็เพิ่งจะเริ่มฝึกกำลังภายในได้ไม่นาน

ก็นับได้ว่าเป็นผู้ใช้กำลังภายในแล้ว

แต่พอได้เห็นว่าสีแดงในดวงตาทั้งคู่ของเฉินเกอกำลังหายไป ทันใดนั้นบรรยากาศอันตรายรอบตัวก็ลดลงไปส่วนหนึ่ง

ในใจของเมิ่งคังก็ได้แต่แอบถอนหายใจออกมา

“คุณใช้เวลามาตั้งนานกว่าจะ ฝึกฝนกำลังภายในขั้นสูงออกมาได้ ผมไม่อยากฆ่าคุณ คุณไปเสียเถอะ กลับไปแล้วก็เตือนคนพวกนั้นด้วย ไม่ต้องพยายามจะมาเสนออะไรผมอีก!”

เฉินเกอยับยั้งอารมณ์แล้วพูดขึ้น

“คุณผู้ชายสั่งมา เมิ่งคังก็ต้องทำตาม ขอบคุณครับ บุณคุณที่ผู้ชายที่ไม่ฆ่า แต่ว่าเมิ่งคังมีเรื่องสงสัย!”

แววตาทั้งคู่ของเมิ่งคังเต็มไปด้วยการตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่นานแสนนาน

“ถามเถอะ......”

เฉินเกอเอ่ย

“ผมนั้นลำบากมาทั้งชีวิต แล้วได้ฝึกวรยุทธ์ เจ็ดปีก่อน ในที่สุดก็สามารถก้าวผ่านเข้ามาในกลุ่มของกำลังภายในได้ คิดไว้ว่าจะมีสักวันที่จะได้เข้าไปหัวเซี่ยเทียนป่างแต่ว่า จะได้เข้าไปในเทียนป่าง นั้นยากนัก ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณผู้ชายเป็นลำดับที่เท่าไหร่ของเทียนป่าง ?”

“หัวเซี่ยเทียนป่าง? ผมไม่รู้หัวเซี่ยเทียนป่างอะไรทั้งนั้น......”

อารมณ์ของเฉินเกอกลับมาดีขึ้น พูดขึ้นเบาๆ

“ผู้ฝึกกำลังภายในทุกคน จะต้องได้เข้ามาอยู่ในกลุ่มเทียนป่าง นี่ก็คือกระดานลำดับรายชื่อ มีตระกูลลับของจีนเป็นคนควบคุม คุณผู้ชายมีการบำเพ็ญปฏิบัติอย่างนี้ แต่กลับไม่รู้? อย่าบอกนะว่าคุณผู้ชายไม่ใช่คนของหนึ่งในสี่ตระกูลลึกลับ?”

เมิ่งคังเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ

“สี่ตระกูลลึกลับ?”

“ใชน่ะสิครับ มี ตระกูลหยูเหวิน ตระกูลหนานกงตระกูลโม่แล้วก็มีตระกูลฟาง! ผมก็นึกว่าคุณชายเป็นผู้ฝึกกำลังภายในขั้นสูงจากหนึ่งในสี่ตระกูลลับ!”

“ผมเคยได้ยินแต่ตระกูลโม่!”

เฉินเกอเลิกคิ้วขึ้น

พวกสี่ตระกูลนั้นมีความลึกลับมากๆ น้อยมากที่จะมายุ่งอยู่กับคนบนโลก อีกอย่างพิจารณาจากที่พวกเขามีสายเลือดที่คนทั่วไปไม่มี ก็คงไม่ได้มองว่าผู้คนบนโลกอยู่ในสายตา

คนกลุ่มนี้ถึงจะไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ในสายตา แต่ว่าคนของตระกูลพวกนี้ กลับแยกออกเป็นโลกแต่ละโลก

มักจะมีประวัติศาสตร์สืบทอดมากกว่าหนึ่งพันปีขึ้นไป

แถมการปรากฏตัวของตระกูลโม่หนึ่งปีก่อน ก็แสดงให้เฉินเกอเห็นพลังยิ่งใหญ่ของตระกูลลับพวกนี้

“คนของเทียนป่าง ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่ง แต่ว่า คนของทั้งสี่ตระกูล น่าจะมีไปแล้วประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ! ส่วนพวกเราตระกูลเมิ่ง อาวุธจีนโบราณ ตั้งแต่ที่บรรพบุรุษของตระกูลเสียชีวิตไป ก็เคยมีผู้ใช้กำลังภายในปรากฏตัวขึ้นอีกเลย จนถึงชีวิตของผม! พูดแล้วก็น่าอาย!”

เมิ่งคังยิ้มอย่างสดใส

“แล้วทั้งสี่ตะกูลนั้น ที่เก่งที่สุดคือพลังแบบไหนหรือครับ?”

เฉินเกอถามขึ้นอีกครั้ง

“เรื่องนี้ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ว่าจากคำบอกเล่า ทั้งสี่ตระกูล ล้วนมีปรมาจารย์เข้าร่วมในหน้าที่ทหารรักษาการณ์เป็นการส่วนตัว ผมก็ไม่ทราบว่าตกลงเป็นเรื่องจริงเท็จแค่ไหน เกรงว่าแม้แต่คนของทั้งสี่ตระกูลใหญ่เองก็ไม่จะไม่รู้เรื่องนี้ ก็แค่คำบอกเล่า !”

“ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายมีชื่ออะไรครับ ผมเห็นพลังของคุณผู้ชายแล้ว อย่างน้อยก็น่าจะอยู่หนึ่งในห้าสิบลำดับแรกของกระดาน!”

เมิ่งคังพูดอย่างเคารพ

พูดไปก็หยิบม้วนกระดาษจีนโบราณออกมาจากหน้าอก

ส่วนด้านบน ก็มีการจดผู้แข็งแกร่งหนึ่งร้อยคนแรกของเทียนป่างไว้

“แม้แต่เทียนป่างคืออะไรผมยังไม่รู้จัก จะไปมีชื่อผมได้ยังไง!”

เฉินเกอมองแล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น

“รอเดี๋ยวก่อน!”

เฉินเกอชี้ไปที่ลำดับแรกของม้วนกระดาษ

“ทำไมลำดับที่หนึ่งถึงปล่อยว่างล่ะ เหมือนกับว่ามีคนตั้งใจที่จะลบออกไปแบบนั้นแหละ!?”

“อ้อ คุณผู้ชายอาจจะไม่รู้ เพราะว่าลำดับแรกคนนี้ ลึกลับมากๆ ผมเองก็ฟังพ่อพูดว่าคนๆนี้ตอนยังหนุ่มก็ไม่มีศัตรูแล้ว หลังจากนั้น ก็ใช้กำลังของตัวเองแค่คนเดียวเองชนะจอมยุทธมากมายของสี่ตระกูลลึกลับได้ ทั้งหมดนั้นล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนผู้นี้!”

“แต่ว่าร่องรอยของคนผู้นี้ถูกปกปิดไว้ คนจำนวนมากต้องการที่จะตรวจสอบภูมิหลังของเขา แต่ว่าก็ไม่ได้อะไร เหอๆ ปีนั้นพ่อของผมบอกว่า ขอแค่มีเขาอยู่หนึ่งวัน ไม่มีใครที่ไม่กล้าเรียกว่าที่หนึ่ง เพราะอย่างนี้ เทียนป่างก็เลยมีธรรมเนียมนี้ ลำดับที่หนึ่ง จะต้องถูกเว้นตลอดไป!”

เห็นได้ชัดว่าเมิ่งคังหลงใหลในเรื่องพวกนี้มากๆ

เฉินเกอเข้าใจแล้ว

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!”

เฉินเกอพยักหน้า

“วันนี้ได้พบเจอกับคุณชาย ถือว่าเป็นบุญของตระกูลเมิ่งของผม ใกล้เวลาเที่ยงวันแล้ว ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายจะให้เกียรติผมได้ไหม ผมจะได้จัดงานต้อนรับคุณชาย!”

เมิ่งคังมีความคิดที่อยากจะเป็นเพื่อน

“อืม!”

“เฉินเกอเองก็คิดว่าเมิ่งคังรู้เรื่องค่อนข้างมาก มีบางเรื่องตัวเองอยากที่จะรู้เรื่องให้ชัดเจนกว่านี้อีกหน่อย ในตอนนั้นก็เลยพยักหน้า

“ผมขอไปบอกกับเพื่อนของผมหน่อย อีกเดี๋ยวจะตามไป!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน