"บนเกาะชิงเจียวไหนเลยจะสงบสุขขนาดนั้น หากต้องการความสงบก็มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นนั่นคือการเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง เมื่อคุณแข็งแกร่งมากพอก็จะไม่มีใครกล้าลงมือกับคุณ แบบนี้ต่างหากถึงเป็นความสงบสำหรับตน"
โจวหยวนทงถอนหายใจ
เขาเพิ่งได้รับข้อความด่วนจากผู้อาวุโสสามเกี่ยวกับเรื่องนี้
นอกจากนี้ ผู้อาวุโสสามยังได้ส่งกลุ่มผู้ฝึกตนของตระกูลมาเป็นพิเศษเพื่อปกป้องความปลอดภัยของเฉินเกอ
แม้ว่าเฉินเกอจะมีพลังเทพจิตเก้าภพ แต่ว่าทุกคนที่มาที่นี่ก็ล้วนมีความแข็งแกร่งทั้งนั้น อาศัยความแข็งแกร่งของเฉินเกอ ก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา
หน้าที่ของโจวหยวนทง ก็คือให้ความสนใจกับสถานการณ์โดยรอบ หากมีอันตรายใดๆ ให้รายงานทันที แล้วตระกูลโจวจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเฉินเกอ
"นายพูดมีเหตุผล" โกวหลินเทียนพยักหน้าและยากที่จะไม่เห็นด้วย
"ทำไมผู้จัดงานถึงได้ไม่สนใจล่ะ?" เฉินเกอถามด้วยความสงสัยอยู่บ้าง "หรือว่าจะมองดูเกาะนี้วุ่นวายขนาดนี้?"
"ที่จริงก็ไม่ใช่อย่างนั้น ผู้จัดงานคิดจะจัดการ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่สามารถช่วยฝ่ายหนึ่งและทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองได้ ท้ายที่สุดแล้วยังไงก็ต้องเป็นกลางในโลกแห่งการฝึกตน" โจวหยวนทงส่ายหัว สถานการณ์นี้ไม่ใช่ความลับในตระกูลโจวอีกต่อไป
"นายรู้ได้ยังไง?" ไป๋เสี่ยวเฟยถาม
"ผมก็แค่เดาเอา" โจวหยวนทงไอออกมาอย่างอึดอัดสองครั้ง ในขณะเดียวกันก็ตัดสินใจว่าก่อนจะพูดต้องคิดให้ดีก่อน ไม่อย่างนั้นเขาก็แนวโน้มที่จะหลุดปาก
"เจ้าหนุ่มนายคงไม่ได้เป็นคนของผู้จัดงานใช่ไหม?" จู่ๆไป๋เสี่ยวเฟยก็จ้องมาที่เขา
"ย่อมไม่ใช่แน่นอน ถ้าผมเป็นคนของผู้จัดงาน ผมจะมานั่งตรงนี้ได้ยังไง" โจวหยวนทงอธิบายอย่างรวดเร็ว
ระหว่างที่คุยกัน การประมูลก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว ทุกคนต่างจ้องไปที่โต๊ะประมูลเพื่อดูว่าของประมูลชนิดใดจะถูกนำออกมา
นั่นเพราะ เครื่องติ่งรูปสัตว์ของตระกูลซือหม่าทำให้เกิดความผันผวนอย่างมากในตอนเช้า
ต้องรู้ก่อนว่า ยานั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ฝึกตน มันไม่เพียงแต่สามารถเพิ่มพลังได้ แต่ยังสามารถช่วยให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังจากได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
อีกทั้งคนธรรมดาทั่วไปเองก็ไม่สามารถหลอมยาออกมาได้ แต่ถ้ามีเครื่องติ่งรูปสัตว์ขอแค่มีใบสั่งยาก็จะสามารถหลอมยาเองได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้มันเองก็ยังสามารถนำสิ่งที่หลอมออกมาไปขายได้ สร้างรายได้ให้อย่างไม่ขาดสาย
ขณะที่ทุกคนจ้องไปที่โต๊ะประมูล โจวว่านเจียงและคนอื่นๆ กลับจ้องมองที่เฉินเกอ
"เจ้าหนุ่มนี่ยิ่งดูยิ่งรู้สึกไม่เลว เจ้าสามเรื่องที่ให้นายจัดการเรียบร้อยแล้วยัง?" โจวว่านเจียงนั่งไขว่ห้างและยิ้มอยู่ตลอดเวลา
"ยังครับ ตอนนี้มันฉุกละหุกเกินไป ยังคงต้องรอให้การประมูลจบลงก่อน แล้วคืนนี้ผมจะไปบอก" ผู้อาวุโสสามส่ายหัวและบอกตามความจริง
"อย่างนั้นก็ได้" โจวว่านเจียงพยักหน้า
"มีเรื่องอะไรหรือคะ?" โจวหมิ่นรู้สึกว่าทุกคำที่พ่อของเธอและผู้อาวุโสสามพูดในตอนนี้ ล้วนเกี่ยวข้องกับเธอและเฉินเกอ ดังนั้นเธอจึงอยากจะถามให้ชัดเจน
"ไม่มีอะไร ผู้ฝึกตนที่ถูกฆ่าตายไปในวันนี้ พ่อให้เจ้าสามรีบไปจัดการหลังจากการประมูลจบลง และฝังพวกเขาไว้ที่ภูเขาด้านหลัง" โจวว่านเจียงพูดอย่างสบายๆ ถึงนี่จะเป็นการโกหก แต่ใบหน้าของเขากลับไม่กระดิกหรือเปลี่ยนสีเลยสักนิด แม้กระทั่งขณะพูดก็ดูเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ติดขัด
"จริงหรือคะ?" โจวหมิ่นไม่เชื่ออยู่บ้าง
ในอดีตพ่อของตนก็เข้าร่วมการประมูลเช่นกัน แต่ว่าเขากลับไม่เคยถามถึงเรื่องพวกนี้มาก่อน ตอนนี้ทำไมจู่ๆถึงได้เป็นกังวลขึ้นมา
เรื่องที่เดิมทีถูกจัดการโดยลูกศิษย์ของตระกูล มาตอนนี้ถึงกับต้องให้ผู้อาวุโสสามเป็นคนจัดการด้วย
"ยัยหนูนี้ พ่อเคยหลอกลูกหรือไง?โจวว่านเจียงรู้ดีว่าลูกสาวของเขาฉลาด ดังนั้นก็เลยได้แต่ต้องใช้ไม้ตายนี้เท่านั้น
"อืม" เมื่อได้ยินโจวว่านเจียงพูดอย่างงั้นโจวหมิ่นก็ไม่ถามต่ออีก
เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตั้งแต่เล็กจนโต โจวว่านเจียงล้วนไม่เคยโกหกเธอ หากไม่บอกเธอตามตรง เขาก็เลือกที่จะไม่พูดไปเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...