บทที่ 208 เหตุเกิดเพราะการเห็นแก่หน้า
ซึ่งก็เป็นเพราะเรื่องนี้ เฉินเกอเองพลอยได้รับลูกหลงโดยที่ไม่รู้ตัว
ทำเอาเฉินเกอเองก็ทำอะไรไม่ถูก
แม่งเอ๊ย เป็นเพราะเขาถือไม่ดีเองต่างหาก สุดท้ายผลร้ายทั้งหมดต่างก็พุ่งมายังตัวเองหรอ
แต่ว่า เฉินเกอเองก็เข้าใจ
เฮอะ ๆ
หากจะพูดไปแล้ว หลินตงนั้น เขาเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม ส่วนตัวเองนั้นไม่มีตำแหน่งอะไรเลย
“นี่จะโทษสหายเฉินเกอก็ไม่ได้ เป็นเพราะฉันเองที่ไม่ได้จับไว้ดี ๆ ใช้แล้ว เฉินเกอ นายยังไม่มีงานทำใช่ไหม”
ในเวลานี้หลินตงหัวเราะขึ้นแล้วก็ถามเฉินเกอ
เฉินเกอส่ายหน้า “ไม่มี!”
“งั้นไม่ได้แล้วสิ นายจะใช้ความสัมพันธ์(เส้นสาย)หาก็ได้ ทำไมนายไม่หาล่ะ”
หลินตงมีสีหน้าท่าทีที่แปลกใจ
“ตอนนี้จะใช้ความสัมพันธ์อะไรในการหา นอกเสียจากว่าจะมีความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้นจริง ๆ เช่น งานของหรานหราน ฉันพยายามอย่างมากกว่าจะหาได้ ยากจริง ๆ ”
เจียงเว่ยตงพูดขึ้นอย่างนิ่ง ๆ
สุดท้ายจึงได้ปะทุความในใจของตัวเองออกมา
“ฉันไม่มีความสัมพันธ์หรือเส้นสายอะไรหรอก” เฉินเกอตอบ
“โอ้ว ๆ หากไม่ได้จริง ๆ ให้ฉันช่วยได้นะ ใช่แล้วเจียหยุน พ่อนายมีโรงงานไม่ใช่หรอ สองวันก่อนไม่ใช่ว่ากำลังหา รปภ วัยรุ่นสักสองคนอยู่หรอ ฉันว่าเฉินเกอไปก็ได้นะ นายดูสิเฉินเกอออกจะซื่อสัตย์ ทำงานคงดีแน่ ๆ เลย”
หลินตงพูดกับผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ กับตัวเอง
“ฮ่า ๆ !”
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น ต่างก็พากันหัวเราะขึ้น
เจียงหรานหรานมองหลินตงด้วยอาการเคืองนิด ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “เฉินเกอ เขาเป็นถึงนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจินหลิงเลยนะ แล้วจะไปเป็น รปภ ได้อย่างไรกัน”
“ก็จริงแหละ หากพูดออกไปคงจะโดนคนอื่นหัวเราะเอาได้แน่”
“แล้วยังอยากจะมีแฟนอยู่ไหม”
แล้วผู้หญิงสองสามคนที่อยู่ที่นั่นก็ได้หัวเราะขึ้น
ยกเว้นสวี่ซินที่อยู่ข้าง ๆ แล้วไม่ได้พูดอะไร
“ฮึ ต่อให้จะเป็นบอดี้การ์ดโรงงานฉันก็ใช่ว่าจะไม่เลือกนะ ต้องมีความสามารถด้วยสิ ไม่ได้ต้องการคนไร้ความสามารถสักหน่อย”
ผู้ชายที่ชื่อ เจียหยุน เมื่อได้ยินคำพูดของผู้หญิงแล้ว จึงคิดว่าเฉินเกอเองหากทำงานให้ธุรกิจที่บ้านของเขาแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก และยังคิดว่าพวกเธอกำลังดูถูกธุรกิจที่บ้านของเขาอีก เขาเลยได้ปฏิเสธไป
“ใช่สิ พวกเธออย่าคิดว่าธุรกิจที่บ้านของเจียหยุนนั้นอยู่ใกล้ และอีกอย่างจะเป็นนักศึกษาหรือไม่ อันนี้ก็ไม่ได้สำคัญหรอก สังคมในตอนนี้ กรรมกรใช้แรงงานต่างก็ล้วนแต่จบมหาวิทยาลัยทั้งนั้น และงานก็ไม่ได้แบ่งแยกสูงต่ำ รปภ แล้วไงหรอ”
“รปภ ต่างก็เป็นอาชีพที่สุจริตอาชีพหนึ่ง”
หลินตงพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“เสี่ยวตงพูดถูก คิดไม่ถึงเลยว่าวัยรุ่นสมัยนี้ จะมีคนเข้าใจหลักการนี้ เขามีความคิดแบบนี้ พวกเธอไม่ต้องหัวเราะหรอก เมื่อครู่ที่หลินตงพูดนั้น ฟังดูมีเหตุผล พวกเธอควรจะเอาหลินตงเป็นตัวอย่างนะ”
ในเวลานี้เจียงเว่ยตงพูดขึ้นด้วยอาการและสีหน้าที่จริงจัง
และทุกคนต่างก็กลั้นหัวเราะไว้ด้วยการก้มหน้าลง
อาหารมื้อนี้ ฉินเกอเองก็กินอย่างไม่อร่อยเท่าไรนัก เพราะโดนเหยียบแทบจมดิน หากจะตอบกลับหรอ มันคงไม่ดีแน่
ในใจเลยได้แต่คิดว่า ช่างมันเถอะ ทำตามที่คุณพ่อบอกก็พอ มาครั้งนี้คือมาเยี่ยมเยือนเท่านั้นเอง
ถึงแม้ว่าจะพวกเขาจะดูถูกตัวเองก็เถอะ
แต่ว่าคุณพ่อนั้น เป็นคนที่ชอบคิดถึงความสัมพันธ์เก่า ๆ
หากว่าตัวเองตอบกลับพวกเขาคงไม่ดีแน่
จึงได้แต่ทนและยอมรับให้เขาพวกเขาดูถูกต่อไป
หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว เจียงเว่ยตงเลยถามขึ้นว่า “ใช่แล้ว พวกเธอตอนบ่ายนี้จะไปร้องเพลงที่ KTV ไม่ใช่หรือ อย่าไปนานกันล่ะ รีบ ๆ กลับบ้านกัน ครอบครัวจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“รู้แล้วค่ะพ่อ”
“ไม่ต้องห่วงครับ คุณอาเจียง มีผมอยู่ทั้งคน ผมดูแลพวกเขาได้ครับ”
หลินตงยิ้มแล้วก็พูด
“อืม ๆ หากมีเสี่ยงตงอยู่ด้วยฉันก็ไม่เป็นห่วงแล้วล่ะ”
เจียงเว่ยตงหัวเราะขึ้น แล้วก็พยักหน้าไป
ในเวลานี้ หลินตงเองก็ได้มองไปยังเฉินเกอ แล้วพูดขึ้นว่า “ใช่แล้วเฉินเกอ อีกสักพักจะไปร้องเพลงกัน นายก็ไปด้วยกันสิ ตอนบ่ายนายว่างใช่ไหม”
“ฉันคงไม่ไปหรอก ขอให้พวกเธอเที่ยวให้สนุกแล้วกัน”
ตลกเนอะ แน่สิว่าเฉินเกอคงไม่ไปหรอก เจียงหรานหรานถึงแม้ว่าจะสวยมาก แต่เฉินเกอคิดว่าตัวเองกับเธอมันอยู่คนละสังคมกัน
“อย่าคิดอะไรมากเลย พวกเรากินข้าวด้วยกันแล้ว ก็ต้องไปเที่ยวเล่นต่อด้วยกันสิ หรือเป็นเพราะว่าเฉินเกอ นายคิดว่าพวกเราไม่คู่ควรที่จะเที่ยวด้วยกันกับนาย”
หลินตงพูดขึ้น
สีหน้าดูไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนัก
เขาให้เฉินเกอไปด้วย ที่จริงแล้ว ก็เท่ากับว่าเป็นการเอาเฉินเกอไปเป็นของเล่นที่เอาไว้คลายเหงาเท่านั้นเอง
บางคนก็มักจะเป็นแบบนี้ พอตัวเองดีเด่นกว่าคนอื่น ก็มักจะกดขี่และดูถูกคนอื่นเพื่อให้ตัวเองนั้น ดูโดดเด่นขึ้นมา
และเจียงเว่ยตงมองยังหลินตงและเห็นสีหน้าของเฉินเกอดูไม่ค่อยดี จึงพูดขึ้นว่า
“เฉินเกอ ให้นายไปด้วยก็ไปเถอะ ทำไมไม่มีความกล้าหาญเลย เสี่ยวตงเขาเป็นใคร นายเป็นใคร ตอนนี้เขาเชิญนายนะ นายจะไม่ไปหรือ”
“ได้ครับ ฉันไปก็ได้”
เฉินเกอเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรต่อดี
โดยเฉพาะคนที่อยู่ข้าง ๆ อย่างที่ชื่อว่า สวี่ซิน ที่กระพริบสายตาส่งให้กับตัวเอง เพราะอยากจะให้ไปด้วยกัน
และอีกอย่างเจียงเว่ยตงนั้นก็ได้พูดแล้ว
แค่ไปเที่ยวเล่นก็ได้ ตัวเองไม่สนใจพวกเขาเป็นพอ
เฮอะ!
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาเหล่านั้นก็ได้เดินลงตึก
หลินตงและคนที่ชื่อหวังเจียหยุนต่างก็มีรถมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...