"นายบอกว่าหลังจากที่ฉันไปครั้งนี้ ฉันจะรู้ความลับภูเขาลูกนี้ของพวกนายใช่ไหม?" เฉินเกอยิ้มและถามเรียบๆ
"นี่เกรงว่าจะไม่ได้ คุณลองถามดูเอาเองจะเถอะ" โจวหยวนทงยิ้มไปด้วย แต่ว่ารอยยิ้มของเขากลับอึดอัดอย่างยิ่ง เขาพูดก็ไม่ได้ ไม่พูดก็ไม่ได้ เพราะกลัวว่าคำพูดของตนจะสร้างความเดือดร้อนขึ้นมา
"ช่างเถอะ ถามนายไปก็ไม่มีประโยชน์" เมื่อได้ยินโจวหยวนทงพูดเหมือนเดิม เฉินเกอก็โบกมือและหยุดพูด
หลังจากตามเขาไปตลอด เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา เฉินเกอก็เห็นบ้านเรือนหลายหลัง แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกสร้างมาอย่างดี แต่ก็มีคนหนุ่มสาวจำนวนมากในเสื้อผ้าสีเทายืนเฝ้ามองอยู่หน้าบ้านแต่ละหลัง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เฉินเกอก็สูดลมหายใจเข้าลึก
ที่นี่น่าจะเป็นที่อาศัยของผู้จัดงาน และสาเหตุที่พาตัวเองมาที่นี่ก็อาจเป็นเพราะเขาบุกเข้าไปในเขตแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต
เฉินเกอไม่รู้ว่าครั้งนี้จะเป็นเรื่องร้ายหรือดี แต่ตนนั้นถูกอีกฝ่ายจับตามองไปแล้ว อีกทั้งยังอยู่บนเกาะนี้อย่างโดดเดี่ยวแม้ว่าเขาจะหนี ก็คงหนีออกไปจากที่นี่ไม่ได้ หากจะให้ดิ้นรนไปอย่างไร้ประโยชน์ ไม่สู้ตามไปแบบนี้และดูสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากันยังจะดีกว่า
"พี่เฉินเกอ นี่คือที่ที่พวกเราอาศัยอยู่" โจวหยวนทงชี้ไปยังบ้านที่อยู่ไม่ไกลและพูดกับเฉินเกอ
"ในตระกูลโจว นายมีตำแหน่งอะไร?" เฉินเกอถามด้วยความสงสัยอยู่บ้าง
"ก็แค่เป็นลูกศิษย์ธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น" โจวหยวนทงเกาศีรษะและพูดด้วยความเขินอาย
"พาฉันไปเถอะ" เฉินเกอพยักหน้าและเดินต่อไป
หลังจากที่โจวหยวนทงเปิดเผยตัวตนของเขา คนหนุ่มสาวในชุดเทาเหล่านั้นก็เปิดทางให้โจวหยวนทงพาเฉินเกอไปที่บ้านหลังหนึ่ง
ในบ้านมองดูแล้วทรุดโทรมอยู่บ้าง ในนั้นมีเก้าอี้เพียงไม่กี่ตัววางอยู่
"พี่เฉินเกอโปรดรอสักครู่ ฉันจะไปแจ้งสักหน่อย" หลังจากเฉินเกอนั่งลง โจวหยวนทงก็ประสานมือให้เขา พูดจบ เขาก็หันหลังกลับและเดินออกไป
เฉินเกอหลับตาลงเล็กน้อย
หลังจากนั้นประมาณสิบนาทีต่อมา จู่ๆประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออก เฉินเกอลืมตาขึ้นและเห็นชายวัยกลางคนสวมชุดหัวเซี่ยเดินเข้ามา ด้านหลังของเขาตามมาด้วยผู้คนมากกว่าสิบ แต่ชายวัยกลางคนกลับไม่ได้ให้ทุกคนเข้ามา มีเพียงโจวหยวนทงและชายชราชุดเทาอีกคนเท่านั้นที่เดิมตามมา
"อาวุโส"
แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักตัวตนและพลังวิชาของอีกฝ่าย แต่เฉินเกอก็ลุกขึ้นและประสานมือคำนับให้เขา
"เจ้าหนุ่ม ฉันจับตามองนายมานานแล้ว!" โจวว่านเจียงตรงไปหาเฉินเกอ จากนั้นก็กวาดตามองเขาอย่างประเมินและพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ
"ผมไม่รู้ว่ารอบๆภูเขามีเขตแดน และไม่รู้ว่าเป็นที่ที่ตระกูลของคุณห้ามไม่ให้ล่วงล้ำ แต่หลังจากที่รู้ผมก็จากไปทันที และไม่เคยเข้าใกล้อีกเลย"
เฉินเกอขมวดคิ้วเล็กน้อยและเอ่ยเสียงเบา
"ภูเขาอะไร เขตแดนอะไร" คำพูดของเฉินเกอทำให้ โจวว่านเจียงสับสนอยู่บ้าง เขาหันหน้าไปถามผู้อาวุโสสามที่ยืนอยู่ข้างหลัง
"เขาหยุนซานที่อยู่ไม่ไกลงั้นหรือ?" ผู้อาวุโสสามกระซิบ
"ไม่เป็นไร ในเขาหยุนซานจริงๆก็ไม่มีมีความลับใหญ่โตอะไร ถ้านายอยากไป ฉันจะส่งคนในตระกูลพานายไปเดินดูรอบๆได้ ดีไหม?" โจวว่านเจียงโบกมือและมองเฉินเกอต่อไป
"ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง" เฉินเกอยิ้มอย่างอึดอัด เขาไม่รู้ว่าชายวัยกลางคนตรงหน้าที่เต็มไปด้วยพลังกดดันคนนี้ ทำไมถึงได้พูดแบบนี้ออกมา
"ไม่ต้องก็ไม่ไป"
"ว่าแต่ กินข้าวเย็นหรือยัง?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...