"ตระกูลซือหม่า" โกวหลินเทียนเอ่ย
"ตระกูลซือหม่าคือตระกูลอะไร?" เฉินเกอและไป๋เสี่ยวเฟยถามพร้อมกัน
"ตระกูลซือหม่าเป็นหนึ่งในตระกูลของโลกการฝึกตน พวกเขาเชี่ยวชาญในการหลอม ดังนั้นอาวุธหรือเครื่องรางที่ผู้ฝึกตนส่วนมากใช้ล้วนมาจากตระกูลนี้ ยังจำดาบที่ห้อยอยู่กลางห้องโถงต้อนรับได้หรือไม่?"
โกวหลินเทียน ลูบเคราของเขา
"จำได้ครับ" เฉินเกอพยักหน้า
ในห้องโถงรับแขกของตระกูลโกว มีดาบยาวเล่มหนึ่งแขวนอยู่บนผนัง เฉินเกอรู้ว่ามีมันแต่ไม่สนใจมาก่อน
"ดาบเล่มนี้สร้างขึ้นโดยตระกูลซือหม่า ฉันได้มันมาโดยบังเอิญเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เท่าที่ฉันรู้ ดาบแบบนั้นมีอยู่มากมายในตระกูลซือหม่า และเป็นของพื้นๆทั่วไป แต่สำหรับตระกูลโกวของฉันที่ไม่ใช่ตระกูลในโลกแห่งการฝึกตน แค่เพียงเล่มเดียวก็หาได้ยากอย่างยิ่ง"
"มันถือเป็นสมบัติของตระกูลโกวของเรา"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ โกวหลินเทียนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ สิ่งที่เขาให้ความสำคัญขนาดนั้นแต่ในตระกูลซือหม่ากลับเป็นของธรรมดาๆทั่วไปเท่านั้น
"อย่างนั้นกระถางนี้มีประโยชน์อะไรกัน คงจะไม่ได้เอาไว้ทุบหัวผู้คนหรอกมั้ง?" เฉินเกอเองก็ไม่เข้าใจอยู่บ้าง กระถางนี้หากดูเผินๆแล้วก็ดูจะไร้ซึ่งประโยนชน์อะไร
"ไว้หลอมยาไง นี่คือเตากลั่นยา" โกวหลินเทียนยังคงอธิบายต่อไป
"เตากลั่นยา..." เฉินเกอหรี่ตาลง หากพูดแบบนี้ ราคาของกระถางนี้ก็ดูจะเหมาะกับราคานี้ขึ้นมากแล้ว
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน ราคาของเครื่องติ่งรูปสัตว์ก็ถูกประมูลจาก 50 ล้านเป็นมากกว่า 100 ล้าน และในที่สุดก็มันก็ถูกชายชราผมดอกเหลาคนหนึ่งได้ไป
ชายชราสวมเสื้อผ้าเรียบง่ายอย่างมาก มองดูเหมือนคนธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่เมื่อเขาลงมือประมูลกลับจ่ายเงินไปจำนวนหลายร้อยล้าน นี่เพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงตระกูลที่ร่ำรวยของเขา
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เฉินเกอมองไปยังชายชราคนนั้นเขากลับพบว่าข้างกายชายชรามีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ เมื่อมองงการแต่งตัวก็ดูเหมือนไม่ได้รู้จักกัน แต่คนผู้นี้กลับทำให้เฉินเกอรู้สึกคุ้นเคย
ไม่ใช่เพราะว่าเขาเคยเจอกับชายหนุ่มคนนั้น แต่เฉินเกอรู้สึกว่าตนเคยเห็นแผ่นหลังของเขามาก่อน
"น่าแปลกจริงๆ" เฉินเกอไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อน
การประมูลในตอนเช้าสิ้นสุดลงในไม่นาน ผู้ที่ได้รับของประมูลล้วนจากไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนในตระกูลเล็กๆ ดังนั้นจึงไม่มีทรัพยากรทางการเงินมากพอที่จะร่วมแข่งขันสำหรับรายการประมูลครั้งต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะรั้งอยู่ต่อ
พวกเขาต้องออกจากเกาะชิงเจียวโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นหากถูกคนอิจฉาตาร้อนจับตามองเข้า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ของที่ประมูลมาอาจถูกปล้นไป แม้แต่ชีวิตเล็กๆของพวกเขาก็อาจจะต้องจบลงที่นี่ไปด้วยเช่นกัน
เรื่องพวกนี้ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นในการประมูลที่ผ่านๆมา
เฉินเกอและโกวหลินเทียนเองก็ออกจากห้องส่วนตัวแล้วเช่นกัน ไม่ไกลไปด้านหลัง โจวว่านเจียงและผู้อาวุโสสามก็ยังคงเฝ้าดูเฉินเกอต่อ
เฉินเกอรู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเขาอยู่ แต่เมื่อเขาหันกลับไปมองกลับไม่เห็นอะไรเลย
"เจ้าหนุ่มนั่นมีสัญชาตญาณระวังตัวไม่น้อย" โจวว่านเจียงอดหัวเราะไม่ได้ รูปร่างหน้าตาของเฉินเกอนั้นล้วนไม่เลวอย่างยิ่ง อายุเองก็อยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ นอกจากนี้เขายังครอบครองพลังเทพจิตเก้าภพเอาไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย นี่เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าพรสวรรค์ในการฝึกตนของเขานั้นมีมากกว่าผู้ฝึกตนส่วนใหญ่
ถ้าหากมีลูกเขยเช่นนี้ ถือว่าดีไม่น้อยเลยเช่นกัน
นอกจากนี้ โจวว่านเจียงก็เชื่อว่าด้วยภูมิหลังของตระกูลโจว ความแข็งแกร่งของเฉินเกอจะสามารถเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับที่ยิ่งใหญ่ได้ เมื่อเวลาผ่านไป เขาจะต้องกลายเป็นผู้ที่ดำรงอยู่สูงสุดในโลกการฝึกตนอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...