"เป็นเขานั่นแหละ" ผู้อาวุโสสามจ้องมองและยืนยันว่าตนไม่ได้ดูผิด
"ฟืด..."
"ผู้ฝึกตนที่อายุยังไม่ถึงสามสิบปี แต่กลับครอบครองพลังเทพจิตเก้าภพ กองกำลังหรือตระกูลที่อยู่เบื้องหลังเขาจะต้องยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน หรือว่าจะเป็นสำนักใหญ่ในโลกการฝึกตนของเรา แต่ก่อนหน้านี้ที่ฉันเคยไปถาม กลับไม่เคยได้ยินว่าพวกเขามีพลังเทพจิตเก้าภพมาก่อน แต่เด็กคนนี้กลับทำได้ นี่เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ตัวตนของเขาในสำนักใหญ่ แต่ทำไมฉันถึงไม่รู้จักเขากัน?"
หลังจากเฝ้าดูเฉินเกออยู่ครู่หนึ่ง โจวว่านเจียงก็อดถอนหายใจเยือกเย็นออกมาไม่ได้
"หรือว่าจะเป็นผู้ฝึกตนทั่วๆไปจริงๆ?" ผู้อาวุโสสามลดเสียงลงและเอ่ยขึ้น
"ถ้าเขาเป็นผู้ฝึกตนทั่วๆไป อย่างนั้นก็น่ากลัวมากเกินไปแล้ว" โจวว่านเจียงส่ายหัว อย่างน้อยจากความเข้าใจของเขา เขาไม่เคยเห็นผู้ฝึกตนคนไหนที่สามารถบรรลุสู่ความสำเร็จขั้นนี้ตั้งแต่ยังเด็กแค่นี้จนทำให้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องอิจฉาตาร้อนแบบนี้ได้
หากมีข่าวหลุดออกไปว่าเจ้าหนุ่มนี่มีพลังเทพจิตเก้าภพอยู่ในร่าง เกรงว่าการประมูลคงต้องจบลงแค่นี้แล้ว
"ท่านผู้นำ อย่างนั้นพวกเราควรทำอย่างไรดี?" ผู้อาวุโสสามหันกลับมามองที่โจวว่านเจียง
"หมิ่นเอ๋อร์ลูกคิดยังไงกับชายหนุ่มคนนั้น?" โจวว่านเจียงไม่ได้ตอบ แต่ถามโจวหมิ่นซึ่งนั่งเงียบๆ อยู่ข้างๆ
"หนูไม่รู้" โจวหมิ่นส่ายหัว
"อย่าเพิ่งไปรบกวนเขาก่อน รอดูอีกทีค่อยว่ากัน" โจวว่านเจียงโบกมือ แต่ขณะที่พูด สายตาของเขาก็ไม่เคยละไปจากตัวขงเฉินเกอ
ในเวลานี้เอง เฉินเกอที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวกลับไม่รู้ว่ามีคนกำลังจ้องมองเขาอยู่
การประมูลเริ่มขึ้นแล้ว เสียงร้องตะโกนในการประมูลยังคงดังก้อง เฉินเกอสองมือกอดอกมองลงไปดู จากตรงนี้เขาสามารถเห็นทุกคนที่อยู่ข้างล่างในสายตา และเห็นแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆของบางคน
"สนใจไหม?" โกวหลินเทียนชี้ไปที่สิ่งของบนโต๊ะประมูลและถามด้วยรอยยิ้ม
"ไม่" เฉินเกอยักไหล่และเอ่ยขึ้น
"ไม่ต้องรีบร้อนไป ของพวกนี้ยังด้อยไปอยู่บ้าง เมื่อการประมูลดำเนินการไป ของที่ดีกว่าจะค่อยๆ ถูกนำออกมา เมื่อเทียบกับของพวกนี้แล้ว ล้วนแทบไม่ใช่ระดับเดียวกัน!" โจวหยวนทงพูดอย่างคลุมเครือขณะกินกล้วยหอม
"น้องชาย นายเองก็เป็นผู้ฝึกตนด้วยงั้นหรือ?" ไป๋เสี่ยวเฟยมองไปยังชายหนุ่มที่อายุไล่เลียงกับเขา จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
"แน่นอน" โจวหยวนทงไม่ได้ปิดบัง
"แปลกมากจริงๆ ตั้งแต่ฉันได้พบกับพี่เฉินที่หนานเยว่ ก็ยิ่งเจอผู้ฝึกตนได้มากขึ้นเรื่อยๆ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเมื่อไหร่ฉันถึงจะสามารถเดินบนถนนสายนี้ได้บ้าง" ไป๋เสี่ยวเฟยพูดด้วยความอิจฉาอยู่บ้าง
"สำหรับคนธรรมดาแล้ว นี่ค่อนข้างยากอยู่บ้าง"
"แต่คุณมีเพื่อนแบบพี่เฉินอย่างนี้ การจะเป็นผู้ฝึกตนหรือต่อให้อยากจะเพิ่งพลังวิชาก็ล้วนง่ายดายอย่างยิ่ง
โจวหยวนทงมองไปที่เฉินเกอและเอ่ยขึ้น
"อ้อ เสี่ยวเฟย ฉันลืมเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไปแลย" เฉินเกอตบหัวของตนมาได้ ต่อให้โจวหยวนทงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็ยังไม่มีความรอบคอบ
"เกิดอะไรขึ้น?" การแสดงออกของไป๋เสี่ยวเฟยเริ่มจริงจังขึ้นมาในทันที
"เคล็ดวิชาเล่มนี้ถ้านายว่างๆก็ลองดูสักหน่อย ไม่แน่มันอาจจะดีสำหรับนาย" เฉินเกอหยิบหนังสือโบราณขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อคลุมของตน สิ่งนี้เขาหยิบติดมือออกมาด้วยในครั้งนี้ที่ไปยังซากโบราณสถาน
"วิชายุทธ์หยางเดิม?" ไป๋เสี่ยวเฟยมองดูอักษรที่แทบจะสึกกร่อนไปแล้วตามกาลเวลาและขมวดคิ้วเอ่ยถาม "นี่มันนิยายอะไรกัน?"
เป็นอย่างที่โจวหยวนทงเอ่ยเอาไว้ การประมูลช่วงเริ่มต้นไม่ได้มีของดีอะไร แม้ว่าสมุนไพรหรือเคล็ดวิชาเหล่านี้จะหาได้ยากจากภายนอก แต่ก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรที่หาได้ทั่วไปบนเกาะแห่งนี้
คนส่วนใหญ่ที่ประมูลออกไป ล้วนเป็นตระกูลเล็ก ๆ คล้ายกับตระกูลโกว
แน่นอนว่าโกวหลินเทียนไม่ได้ประมูลมันต่อ เขาพอใจมากกับสิ่งที่เขาซื้อในราคาต่ำจากแผงขายของอีกทั้งเงินที่เขานำมานั้นก็ถูกใช้ไปแทบหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าใช้ส่วนที่เหลือต่อเพื่อที่จะได้เตรียมเอาไว้ในกรณีที่เฉินเกอต้องการให้เขาช่วยประมูลอะไร
เมื่อการประมูลดำเนินไป ระดับของสินค้าประมูลก็ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ
จากจุดเริ่มต้นในราคาเพียงไม่ถึงกี่แสนหรือต่ำกว่าล้านสองล้าน มาตอนนี้แทบจะสูงขึ้นมาถึงต่ำสุดอยู่ที่ห้าล้าน และเหล่าตระกูลหรือกองกำลังที่มีความแข็งแกร่งพวกนั้นถึงค่อยเริ่มต้นการประมูลกันขึ้นมา
เฉินเกอยังคงเอากอดอกและมองดูความครื้นเครง
เครื่องติ่งรูปสัตว์ทองสัมฤทธิ์ชิ้นหนึ่งถึงกับประมูลออกไปในราคาสูงเกือบ 50 ล้าน ของสิ่งนี้นั้นไม่ใช่โบราณวัตถุอะไร และถูกสร้างขึ้นในช่วงร้อยปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง แต่จุดนี้ผู้ดำเนินการประมูลได้อธิบายไปแล้วตั้งแต่ที่เขาหยิบเครื่องติ่งรูปสัตว์ออกมา
"ลุงโกว ทำไมของชิ้นนี้ถึงมีราคาแพงขนาดนี้?" ไป๋เสี่ยวเฟยเกาะอยู่ที่หน้ากระจกและมองลงไปที่การประมูล
ในฐานะราชันแห่งกองกำลังพิเศษของประเทศหัวเซี่ย ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าร่วมการปล้นสมบัติของชาติ โบราณวัตถุอายุหลายพันปีก่อนพวกนั้น ถึงจะสามารถขายได้ในราคาหลายสิบล้านหรือหลายร้อยล้าน แต่โบราณวัตถุที่มีอายุประมาณร้อยปีพวกนี้อย่างมากก็ขายได้แค่หนึ่งล้านเท่านั้นในตลาดการค้า
จุดนี้ เป็นเรื่องที่ไป๋เสี่ยวเฟยทำการบ้านมาก่อนที่จะปฏิบัติภารกิจ ดังนั้นเขาเข้าใจมันอยู่บ้าง
"รู้ไหมว่าใครเป็นคนทำกระถางนี้?" เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋เสี่ยวเฟย โกวหลินเทียนก็ถามขึ้น
"ผมไม่รู้" ไป๋เสี่ยวเฟยส่ายหัวอย่างตรงไปตรงมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...