ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 209

สรุปบท บทที่ 209 เห็นแก่หน้าฉัน แล้วปล่อยพวกเธอไป: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน

บทที่ 209 เห็นแก่หน้าฉัน แล้วปล่อยพวกเธอไป – ตอนที่ต้องอ่านของ ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน

ตอนนี้ของ ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน โดย Light-Knight ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 209 เห็นแก่หน้าฉัน แล้วปล่อยพวกเธอไป จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 209 เห็นแก่หน้าฉัน แล้วปล่อยพวกเธอไป

“อะไรนะ โดนทำร้ายหรอ”

“เห้ย หาเรื่องแล้ว”

ผู้ชายและผู้หญิงในห้องนั้นต่างก็ตกใจขึ้นในทันที

และแม้กระทั่งหลินตงเองก็ตกใจเหมือนกัน

แต่ว่าเขาดูไม่กลัวแต่อย่างใด เลยพูดขึ้นว่า “ตกใจอะไรกัน ไปดูสิ ตามฉันมา ฉันเองอยากจะรู้นัก ใครกล้าทำกับเพื่อนของฉันอย่างนี้”

จากนั้น เขาก็กวักมือเรียก ผู้ชายคนที่เหลืออยู่ให้เดินตามออกไป

และพวกเขาต่างก็ได้ถือเอาขวดเหล้าติดมือไปด้วย ดูท่าเหมือนจะก่อเหตุทะเลาะกันขึ้นแล้ว

ส่วนเฉินเกอ ถึงแม้จะรู้ว่าหวังเจียหยุนนั้นจะมีอารมณ์โกรธเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ

แต่ว่า ก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะโดนคนอื่นนั้นตีเอา

เมื่อเหตุมันได้เกิดขึ้นแล้ว หากตัวเองยังนั่งดื่มเหล้าต่อ แล้วไม่ออกไปดูหน่อยมันก็ไม่ดี จากนั้นจึงลุกขึ้นแล้วเดินตามคนอื่น ๆ ออกไป

อีกอย่าง ในตอนนั้นหวังเจียหยุนเองโดนคนจำนวนมากล้อมไว้ในห้องเพลงขนาดใหญ่

และเขาเองก็นอนขดอยู่กับพื้น ที่หัวเต็มไปด้วยเลือด

เพราะ รปภ สิบกว่าคนเพิ่งจะตีเขาเสร็จ

และพี่หง ก็ยืนกอดอกดูหวังเจียหยุน แล้วพูดขึ้นว่า

“เจ้าเด็กเมื่อวานซืน ฉันไว้หน้านายแล้ว นายกลับไม่เอา กล้าดียังไงมาดึงผมแม่มึง ฉันว่าแกคงไม่อยากมีชีวิตแล้วล่ะสิ แกรู้ไหมว่าที่นี่มันเป็นถิ่นของใคร เชื่อไหมว่าพี่ต้าเฟยจะตอนเจ้าทิ้งเสีย ชิบหาย”

เมื่อพี่หงด่าเสร็จ

และเมื่อได้ยินชื่อ พี่ต้าเฟย คนที่ยืนล้อมดูอยู่ข้าง ๆ สีหน้ากลับซีดเผือดไปตาม ๆ กัน

ในตอนนี้ก็รู้สึกสงสารหวังเจียหยุนที่นอนขดอยู่ที่พื้น

เมื่อครู่ หวังเจียหยุนยังตะโกนร้องเรียกพี่หง แล้วก็เดินเข้ามาในห้อง พยายามตื้อที่จะให้เธอไปดื่มเหล้ากับตัวเองให้ได้ ซึ่งพี่หงคนนั้นก็ไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย

ที่จริงแล้ว ลูกค้าใน KTV แห่งนี้ที่จะให้เธอร่วมวงดื่มเหล้าด้วยนั้นมีไม่มากจริง ๆ

แต่หวังเจียหยุนคนนี้ไม่เชื่อ วู่วามจนเกิดเรื่อง เพราะกล้ามากที่ดึงผมของเธอ และดูเหมือนว่าเธอไม่สั่งสอนหน่อยคงไม่ได้แล้ว

และสุดท้าย ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ

และคนที่อยู่ในห้องเพลงนี้ เมื่อเห็นมีคนเดินเข้ามาด้วยเจตนาไม่ดี แถมยังมาดึงผมของพี่หงคนนี้ด้วยแล้ว

เมื่อคนในห้องเพลงห้องเห็นนั้นดังนั้น จึงกวักมือโบกขึ้น ทันใด ผู้ชายร่างกำยำจำนวนเจ็ดแปดคนก็กระโจนเข้าไป

ยกกระบองขึ้น แค่พริบตาเดียวก็ทำเอาหวังเจียหยุนลงไปหมอบอยู่ที่พื้นแล้ว

ถือว่าเป็นการสั่งสอน

ประจวบเหมาะกับที่ผู้หญิงคนหนึ่งออกจากห้องน้ำมาเจอเข้าพอดี เธอจึงได้รีบวิ่งกลับไปบอกเพื่อนให้มาดู

“พี่สาวครับ ไอ้เด็กคนนี้เดี๋ยวให้ผมจัดการเอง ยังมีแขกโต๊ะนั้นที่ยังรอพี่อยู่นะครับ”

ข้าง ๆ ของพี่หง ในเวลานั้นมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่

มีใบหน้าที่ดุดันเหมือนกับอันธพาล แต่ดูจากลักษณะแล้ว เหมือนกับคนมีเงินไม่มีความกลัวต่ออะไร

“ฉันรู้จักคุณชายหลิว เดี๋ยวให้ฉันระบายอารมณ์สักหน่อยก่อนได้ไหม นายดูสิ เมื่อครู่มันยังดึงผมของฉันเลย”

พี่หงพูดขึ้น

“ฮ่า ๆ ไม่มีปัญหา ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็นำตัวมันเข้ามาในห้องเพลงของฉัน เมื่อครู่ที่ห้องประตูห้องเพลงของพวกเรา ยังมาตะโกนหาเรื่องพี่อยู่เลย ซึ่งเป็นการไม่ไว้หน้าหลิงลี้อย่างฉันจริง ๆ แม่ง วันนี้ฉันจะขอระบาย ๆ สักหน่อย ดูว่าไอ้เด็กคนนี้มันยังจะมีอะไรดี”

พอหลิงลี้ยกมือขึ้น แล้วก็มี รปภ หลายคนรับคำสั่ง จากนั้นก็นำหวังเจียหยุนลุกขึ้น แล้วลากเข้าไปในห้องเพลง

และเมื่อกำลังจะเข้าไปนั้น

“หยุดก่อน แฟร์หน่อยสิ วางเพื่อนฉันลง”

ในเวลานี้ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น

ก็เห็นหลินตงที่มือข้างหนึ่งล้วงที่กระเป๋ากางเกง ที่กำลังนำคนจำนวนมากเดินเข้ามา

ด้วยอารมณ์ที่ห้าวหาญ ไม่เกรงกล้าผู้ใด

โครตจะเก่ง

“แม่ง เริ่มจะสนุกแล้วสิ ยังจะมีคนมาแก้แค้นด้วย ให้ฉันดูหน่อยว่าเป็นใคร ทำไมถึงได้เก่งกาจอย่างนี้”

และหลิงลี้เองก็มีท่าทีและสีหน้าที่ไม่ได้สนใจแล้วเดินเข้าประตูห้องเพลงไป แถมยังบอกให้ รปภ เปิดประตูออก ให้พวกเขาเข้ามาด้วย

หลินตงและคนอื่น ๆ ยังคิดว่าไอ้คนนั่นมันเริ่มกลัวตัวเอง จากนั้นก็เลยฮึกเหิมขึ้นยิ่งกว่าเดิม

เมื่อฝูงคนเข้าไปในนั้นแล้ว

แต่ว่า เมื่อเห็นคนที่อยู่ข้างในห้องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือแม้นกระทั่งคนที่ถือขวดเหล้าตามเข้าไปในภายหลัง ต่างก็เกิดความรู้สึกตกใจ

“คุณชายหลิว เป็นคุณหรอกหรือ พี่จาง หู่เย๋ ซื้อเย๋พวกคุณก็อยู่ที่นี่หรือ”

หลินตงตาค้างโต ความฮึกเหิมที่มี ทันใดก็มลายหายไป

และผู้หญิงที่เหลือนั้น ตอนแรกที่ว่าจะอาศัยความกล้าของหลินตงทำให้ตัวเองมีผลงานหน่อย แต่ตอนนี้เห็นหลินตงเหี่ยวลงแล้ว ต่างก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อดี

“ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายทุกคนก็ดื่มไปคนละขวด ต้องดื่มทุกคนเลยนะ แล้วเรื่องนี้ฉันถึงจะปล่อยผ่านไป”

จากนั้นหลิงลี้ก็มองไปยังผู้หญิงที่ดูมีอาการหวาดกลัว แล้วพูดขึ้น

“แต่ว่าฉันมีเงื่อนไข ดื่มเบียร์คงไม่ได้ ต้องใช้เหล้าขาวเท่านั้น ทุกคน ๆ ละขวด เมื่อดื่มหมด เรื่องก็จะจบลงเอง และยังมีพวกเธอ สาว ๆ ที่เดินเข้ามาด้วย”

“อะไรนะ เหล้าขาวหรอ”

หลินตงเองก็ตะลึงไป

“ทำไมล่ะ จะไม่ไว้หน้าหลิงลี้หน่อยหรอ”

สีหน้าของหลิงลี้พูดขึ้นด้วยความจริงจัง

เมื่อสิ้นเสียงพูดลง รปภ ก็ได้ยกลังเหล้าขาวเข้ามา

และหลินตงเองได้แต่กัดฟันเอาไว้ แล้วทำเป็นตัวอย่างให้แก่คนอื่น ๆ ได้ดู

บีบจมูกเอาไว้ ทำเหมือนกับดื่มน้ำเปล่า กระดกกลืนลงไปอย่างกับคนกระหายน้ำ

ผู้ชายคนอื่นต่างก็ได้ทำตามบ้าง ไม่ทันไร เหล้าขาวต่อคน คนละหนึ่งขวดก็หมดลงไป

“เป๊ะ ๆ ๆ!”

หลิงลี้ชื่นชมจนต้องปรบมือให้ ในขณะนั้นเขาก็มองไปยังเจียงหรานหรานและผู้หญิงคนอื่น ๆ “สาว ๆ พวกเธอเองก็ต้องดื่มนะ หากไม่ดื่มล่ะก็ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อย่าหวังว่าจะได้ออกจากประตูนี้ไป”

“สำหรับพวกแก ไสหัวออกไปได้แล้ว”

หลิงลี้ชี้ไปยังหลินตงและพูด

“คุณชายหลิว เธอเป็นแฟนของฉันเอง ให้ฉันดื่มแทนเธอได้ไหม ขอร้องล่ะ เห็นแก่หน้าฉันหน่อย”

ต่อให้จะโง่แค่ไหน ก็รู้ว่าหลิงลี้นั้นต้องการที่จะทำอะไร ในขณะที่หลินตงพูดนั้นก็ใช้มือทั้งสองข้างกุมที่หน้าท้อง

“เกรงว่าจะไม่ได้ แกอยู่ที่นี่ ไม่มีหน้าให้ฉันไว้หรอก อีกอย่างหากยังไม่ไสหัวไป แกเองก็จะกลับไปไม่ได้เหมือนกัน”

เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้ชายทั้งหลายต่างก็รู้สึกกลัว และพากันหลบออกไป

และหลินตงเองได้แต่กัดฟัน และก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อไป เพราะหลิงลี้นั้นก็เป็นคนโหดเหี้ยมคนหนึ่ง

จากนั้นเขาก็ก้มหน้าแล้วเดินออกไปยังข้างนอก

สำหรับเจียงหรานหรานกับสวี่ซินและคนอื่น ๆ นั้น ตอนนี้ยังโดน รปภ ควบคุมตัวเอาไว้

และในขณะที่เจียงหรานหรานตกใจจนแทบจะร้องไห้ออกมานั้น

“คุณชายหลิวใช่ไหม เห็นแก่หน้าฉันเถอะ ปล่อยพวกเธอกลับไปเถอะ ……”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน