หนานกงเจาเงียบลงด้วยความผิดหวัง เย่ชูวเสวียอดไม่ได้หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเสียงของเขา
“ชูวเสวีย คุณหลอกผม !”หูของหนานกงเจาก็เฉียบแหลมมาก เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเย่ชูวเสวีย ก็รีบตอบสนองในทันที
เย่ชูวเสวียหยุดหัวเราะ “ใช่สิ ฉันหลอกคุณแล้วจะทำไม? ”
“เห้อ........”หนานกงเจาถอนหายใจ เขาจะทำอะไรได้ ? ทำได้เพียงยอมรับมัน
“พูดจริง เย่ชูวเสวียคือนี้คุณว่างไหม ?”
“คุณมีเรื่องอะไรกันแน่ ?”เย่ชูวเสวียเงยหน้า เมื่อเห็นมู่เวยเวยหยุดและมองมาตรงที่เธอ เธอก็รีบลดเสียงลงโดยไม่รู้ตัว
“เอ่อ........”หนานกงเจาลังเลเล็กน้อย จากนั้นไม่กี่วินาที ดูเหมือนว่าจู่ๆก็คิดอะไรได้ “คืนนี้มีงานเลี้ยงที่หนึ่ง ดูสนุกมาก คุณจะมาไหม ?”
“ไม่ไป”เย่ชูวเสวียปฎิเสธไปโดยไม่คิด เพิ่งยกเลิกงานแต่งงาน ถ้าเธอออกไปเที่ยวสนุก แบบนั้นไม่ดีแน่ !
ใจของหนานกงเจาเหมือนถูกสาดด้วยน้ำเย็น “ทำไมล่ะ ?”
“คนเยอะเกินไป”
“ไม่ไม่ไม่ คนไม่เยอะเลย มีแค่คนรู้จักไม่กี่คน !”
เขากลัวว่าเย่ชูวเสวีย เขากัดฟันและใช้ไม้ตายพูดถึงอีกคนหนึ่ง “จริงสิ เสี่ยวอวี้หลินสองพี่น้องนั่นก็มาด้วย ถ้าคุณไม่เชื่อก็โทรไปถามพวกเขาดูก็ได้ !”
“อะไรนะ ? งานเลี้ยง ? มู่ยู่วฉีสองพี่น้องนั่นก็ไปด้วย ?”เย่ชูวเสวียเห็นมู่เวยเวยเดินมาหาเธอ เธอรีบกดตัดสายทันที จะต้องแปลกมากแน่ๆ เธอส่งเสียงให้ดังขึ้น เพื่อให้มู่เวยเวยได้ยิน
หนานกงเจาไม่รู้สึกผิดปกติและรีบพูดขึ้นว่า “ใช่แล้วใช่แล้ว !”
“เอาล่ะ ฉันไม่ไปแล้ว แบบนี้นะ !”หลังจากพูดเสร็จ ก็ไม่รอให้หนานกงเจาตอบกลับ และรีบกดวางสายโดยไม่ลังเล
ในเวลานี้มู่เวยเวยเดินมาถึงข้างหน้าเย่ชูวเสวีย ได้ยินสิ่งที่เธอเพิ่งพูดออกมา จึงถามว่า “ใครโทรมาหาเธอ ?”
เย่ชูวเสวียทำหน้าตาเฉยเมย “ไม่มี ก็แค่เพื่อนสาวที่เล่นสนุกด้วยด้วยกัน บอกว่าคืนนี้มีงานเลี้ยง ฉันไม่อยากไป แต่มู่ยู่วฉีและคนอื่นๆกระตือรือร้นกับเรื่องนี้มาก ”
“งานเลี้ยง ?”มู่เวยเวยคิดไปมา ดูเหมือนว่าจะไม่มีงานเลี้ยงทางการนะ “เป็นงานเลี้ยงของวัยรุ่นที่พวกเธอจัดขึ้นเอง ?”
“ก็ประมาณนั้น ”เย่ชูวเสวียกางมือออก แม้ว่าเธอจะไม่รู้ แต่แน่นอนว่าเป็นงานที่พวกเขาจัดขึ้นเอง
“ที่นั่นมีผู้ชายด้วยใช่ไหม ?”
ทันใดนั้นแววตาของมู่เวยเวยก็สว่างขึ้น มองไปที่เย่ชูวเสวียจนเธอขนลุกไปทั้งตัว เธอลูบแขนและมือของเธอ “มี.......น่าจะมี ทำไมเหรอคะ ?”
มู่เวยเวยจับมือของเธอและถามอย่างเสียใจว่า “ถ้างั้นทำไมถึงไม่ไปล่ะ ?”
“ไม่มีอะไรสนุก ไปแล้วจะได้อะไรล่ะ ?”
“เจ้าเด็กคนนี้.......”มู่เวยเวยดูเหมือนจะสอนไม่ได้ จึงจิ้มหน้าผากของเธออีกครั้ง
“เธอไม่ไปแล้วรู้ได้ยังไงว่ามันไม่สนุก วันๆอยู่แต่บ้าน จะไปรู้จักผู้ชายได้ยังไง เธอยังอยากจะแต่งงานไหม ?”
“คุณแม่......”เย่ชูวเสวียตะโกนด้วยความโกรธ ตอนนี้เธอโตเท่าไหร่เอง ทำไมคิดถึงเรื่องนี้แล้ว !
“ฉันพูดความจริง !”
มู่เวยเวยรู้สึกว่าตัวเองมีอะไรผิดปกติ หันกลับไปมองเย่ฉ่าวเฉินและพูดว่า “คุณว่าใช่ไหม ?”
“ใช่ใช่ใช่” เย่ฉ่าวเฉินลูบผมของเธอด้วยความรัก โดยไม่หันไปมองเย่ชูวเสวีย
“คุณ.......พวกคุณ.......”เย่ชูวเสวียรู้สึกว่าเธอถูกเหยียดหยาม หึ ออกมาคำหนึ่ง แล้วหันหลังจากไป
แต่ก็ถูกมู่เวยเวยคว้ามือไว้ “เดี๋ยวก่อน ยังไงวันนี้เธอจะต้องไป !”
“อ๊าอ๊าอ๊าอ๊า แม่ ฉันไม่อยากไปจริงๆ !”
แต่มู่เวยเวยไม่ฟังคำแก้ตัวของเธอ เมื่อเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย เธอก็รู้สึกอย่างหนักแน่นว่าจะต้องหาแฟนให้เธอ ไม่อย่างนั้นเธอก็จะไม่เข้าใจอะไรเลย
……
ตอนนี้มู่ยู่วฉีส่งโลเคชั่นสถานที่จัดงานมาให้ หน้าของเย่ชูวเสวียมืดมน รถโรลส์รอยซ์สีดำที่มาส่งเธอหายไปอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตาเธอ และเธอก็มองเห็นมู่เวยเวยกวักมือเรียกเธอ
ในท้ายที่สุดเธอก็ถูกมู่เวยเวยลากไปซื้อชุดใหม่ และยังทำผมใหม่ด้วย
ตามคำพูดของมู่เวยเวย ลูกสาวของเธอจะขายหน้าไม่ได้ เธอไม่ได้เป็นตัวแทนของตัวเอง แต่เป็นตัวแทนของตระกูลเย่
แม้ว่าเย่ชูวเสวียจะไม่เห็นด้วยกับชุดนี้เป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่สามารถรั้งแม่ไว้ได้ และยุ่งอยู่กับการติดตามมู่เวยเวย
สถานที่จัดงานไม่ได้อยู่ในหอประชุมแบบปกติ แต่หันหน้าออกทะเลเหมือนกับฉากที่พวกเขาไปก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเทียบกับการตกแต่งแบบเรียบง่านก่อนหน้านี้ นี่อาจจะพูดได้ว่ามันยิ่งใหญ่มาก
มีผ้าคลุมสีขาวราวกับหิมะอยู่ทุกที่ เป็นแบบที่เธอชอบ เธอต้องบอกว่าคนที่ออกแบบตกแต่งคนนี้ รสนิยมดีเลยที่เดียว !
เมื่อเธอเข้าไป ในนั้นมีเพียงสองสามคน ไม่พบพวกมู่ยู่วฉีและคนอื่นๆ ดังนั้นเธอจึงนั่งลงบนขอบโต๊ะยาวอย่างเบื่อหน่ายและดื่มน้ำผลไม้
แม่เธอนี่ก็จริงๆ รีบร้อนอะไรขนาดนี้ ตอนนี้ดีเลย ไม่มีคนรู้จักสักคน เธอนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยความลำบากใจ
เย่ชูวเสวียหยิบโทรศัพท์ออกมา และดูข่าวไปเรื่อย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องซุบซิบเกี่ยวกับคนรอบตัวเธอ แต่บางครั้งเธอก็ใช้มันเพื่อสร้างความตลกบันเทิงให้กับตัวเองในเวลาที่เบื่อ
พลิกไปพลิกมา หนึ่งในนั้นเกี่ยวกับรักสามเศร้าของ เย่จิงเหยียน ต้วนอีเหยาและต้วนจื่ออิ๋ง
ด้านบนเขียนว่า เดิมทีต้วนจื่ออิ๋งเป็นคู่ของเย่จิงเหยียน แต่ในงานแต่งงานเธอกับเย่จิงเหยียน ถูกต้วนอีเหยาขัดขวาง ต่อมาเย่จิงเหยียนปลูกรักใหม่โดยไม่รู้ตัว และเตรียมที่จะแต่งงาน
ต่อมาด้วยการกลับมาของต้วนจื่ออิ๋ง เลยเลื่อนงานแต่งงานออกไป ในที่สุดพวกเขาก็คาดเดาว่า ต้วนอีเหยาและเย่จิงเหยียนจะไม่มีทางสานสัมพันธ์ต่อไป
หลังจากเย่ชูวเสวียอ่านจบ เธอก็แค่หัวเราะ เลิกอ่าน จากนั้นก็ลืมมันไปทันที
ก็ไม่รู้ว่าใช้เวลานานแค่ไหน คนรอบตัวค่อยๆเยอะขึ้น เย่ชูวเสวียอ่านจนปวดคอ เงยหน้าขยับคอและมือของเธอ
“ชูวเสวีย ?”
เสียงประหลาดดังมาจากข้างหลังขัดจังหวะของเธอ เธอขมวดคิ้วและหันศีรษะไป หนานกงเจายิ้มเยาะให้เธอ
“คุณมาได้ยังไง ?”หนานกงเจาวิ่งไปจับมือของเธอ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็สังเกตเห็นสายตาของเย่ชูวเสวีย และอดไม่ได้ที่จะหยุดลง
“ทำไม? ฉันมาไม่ได้ ? ”คำถามของหนานกงเจาทำให้เย่ชูวเสวียเสียใจมาก เธอสำลักด้วยความเกลียดขังกลับ
เมื่อรู้ว่าเธอเข้าใจผิด หนานกงเจารีบโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่ไม่ใช่ ผม......ผมแค่ดีใจมาก จนไม่ทันระวังพูดผิดไป !”
“คุณมาได้แน่นอน นี่คือสิ่งที่เตรียมไว้ให้คุณ !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...