จั๋วซือหรานเหลือบมองกระบี่เรียบง่ายที่ดูธรรมดาในมือของนาง
ความจริงนี่คือกระบี่ประจำตระกูลของเฟิงเหยียน และกระบี่เล่มนี้มีชื่อเดียวกับแหวนเสวียนเหยียนของนางจริง ๆ
ในวันที่ลูกหลานของตระกูลกำเนิด ห้องกระบี่ประจำตระกูลจะเริ่มตีเหล็กเข้ารูปเพื่อทำกระบี่ให้ทารก รูปแบบของกระบี่จะแตกต่างกันไป แต่ตราประจำตระกูลเฟิงจะถูกสลักไว้ที่ด้ามจับ และชื่อของเด็กคนนั้นจะถูกสลักไว้ที่ส่วนท้ายของด้ามจับ
จั๋วซือหรานมองกระบี่เสวียนเหยียนที่อยู่ในมือของนางและไม่พูดอะไร
ความเงียบของนางทำให้จั๋วหรูซินโกรธมากขึ้น “เจ้าพูดมาสิ ทำไมเจ้าจึงมีกระบี่ประจำตระกูลของท่านอ๋องเฟิง”
จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและมองหน้านาง "เจ้ายังต้องถามอีกหรือ แน่นอนว่าเขาให้ข้ามา"นางหยุดครู่หนึ่งและพูดทีละคำ "ของ ขวัญ แทน ใจ"
“เป็นไปไม่ได้” จั๋วหรูซินโกรธแค้น นางกัดฟัน “เจ้าไม่ต้องพูดไร้สาระ ท่านอ๋องเฟิงเบื่อหน่ายกับการถูกบงการมากกว่าใคร ๆ ก่อนหน้านี้ เจ้ายกเลิกการหมั้นหมายและต้องการแต่งงานกับคนอื่น สมหวังเขาพอดี นางคิดว่าเขาอยากแต่งงานกับเจ้าหรือ เขาอยากแต่งงานกับเจ้าเพียงเพราะเจ้า…”
“ซินเอ๋อร์ หยุดพูดได้แล้ว” จู่ ๆ คุณท่านจั๋วลิ่วก็พูดแทรกขัดจั๋วหรูซินขึ้นมา
คุณท่านจั๋วลิ่วโบกมือแล้วพูดว่า "เอาล่ะ ข้าขี้เกียจโต้เถียงกับเด็ก ๆ แล้ว เจ้าไปได้เลย ข้าจะรายงานเรื่องตามความเป็นจริงให้เหล่าผู้อาวุโสทราบ ให้พวกเขาทราบนางทำร้ายพี่สาว แล้วให้พวกเขาตัดสินใจเอง"
จั๋วซือหรานขี้เกียจสนใจคำจู้จี้จุกจิกของพ่อลูกสองคนนี้ เดิมทีนางมาที่นี่ก็แค่อยากพาเสี่ยวหวายกลับ
นางเสียบกระบี่เสวียนเหยียนเข้าไปในฝักโดยไม่ได้ตั้งใจ ลากจั๋วหวายแล้วหันหลังเดินออกจากนั่น
คุณท่านจั๋วลิ่วและจั๋วหรูซินจ้องไปยังกระบี่เรียบง่ายในมือของนางจากด้านหลัง สองคนนี้จ้องมองนางจนกระทั่งนางจากไป
“ท่านพ่อ” จั๋วหรูซินพูดด้วยความโกรธ “ทำไมท่านพ่อถึงปล่อยนางง่าย ๆ ท่านพ่อคงไม่ได้เชื่อจริง ๆ หรอกนะ ว่ามันเป็นของขวัญแทนใจที่ท่าอ๋องเฟิงมอบให้นางใช่หรือไม่”
คุณท่านจั๋วลิ่วมีสีหน้าเคร่งขรึม “ไม่ว่าข้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม มันเป็นความจริงที่ว่า นางสามารถดึงกระบี่ของตระกูลเฟิงเหยียนออกมาได้ ท่างผู้อาวุโสจะไม่มีทางปล่อยไปเช่นนี้”
“แต่นางกรีดใบหน้าของหนู แม้ว่าจะหายดีก็ตาม...” จั๋วหรูซินรู้ตัวทันที นางพึมพำ “นั่นคือกระบี่เสวียนเหยียน ใบหน้าของข้า ข้าควรทำเช่นไรกับใบหน้าของข้าดี”
นางเอามือปิดแผลบนแก้มของตน นางสยดสยอง
กระบี่เสวียนเหยียนเป็นกระบี่ประจำตระกูลของเฟิงเหยียน มันมีพลังอย่างแรงขนาดไหน บาดแผลที่เกิดจากกระบี่เล่มนั้นไม่สามารถหายสนิทได้อย่างง่ายนัก
“ข้าต้องฆ่านางให้สิ้น ข้าต้องบดขยี้นางให้กลายเป็นผุยผง”
*
“ฮัด ชิ้ว——!”
จั๋วซือหรานยกมือขึ้นแล้วลูบจมูก
“ท่านพี่ขอรับ ท่านพี่ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมขอรับ” จั๋วหวายกังวล “สีหน้าของท่านพี่ดูแย่มาก”
“ไม่เป็นไร” จั๋วซือหรานหันกลับมามองเขา “ว่าแต่เจ้า รอยแผลเต็มหน้า เดี๋ยวท่านแม่เห็น ท่านแม่ต้องเสียใจอีก”
“ข้าไม่เจ็บ” จั๋วหวายส่ายหัว “ท่านพี่ขอรับ ท่านพี่ไม่แต่งงานกับผู้ชายที่แซ่ฉินอีกใช่ไหมขอรับ ข้าได้ยินมาว่า ท่านพี่ถูกเล่นงาน จึงหน้ามืดตามัว ถึงโวยวายร้องอยากแต่งงานกับเขา เขาไม่คู่กับท่านพี่เลยสักนิด”
จั๋วซือหรานยิ้มเยา และจูงมือเขา พี่น้องสองคนนี้เดินกลับต่อ "แล้วเจ้าคิดว่าใครคู่กับข้า"
“ไม่มีใครคู่กับท่านพี่ของข้าทั้งนั้น” จั๋วหวายกระซิบ “พี่ลิ่วห่วงท่านอ๋องเฟิงขนาดนั้น ให้นางไปเสียเถิด ข้าไม่อยากท่านพี่ของข้าแต่งงานเลยสักนิด”
“หากไม่ใช่เพราะท่านอ๋องเฟิง วันนี้พวกเราคงหนีไม่พ้นง่าย ๆ เช่นนี้” จั๋วซือหรานนึกถึงท่าทีของคุณท่านจั๋วลิ่วในก่อนหน้านี้ เดิมทีเขาไม่อยากปล่อยนางหรอก หลังจากเห็นกระบี่เสวียนเหยียนในมือของนาง เขาถึงได้เลิกความคิดนั้น
ดังนั้น ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะนางสังเกตถึงความหวาดกลัวของคุณท่านจั๋วลิ่ว นางถึงจงใจบอกเขาว่า นั่นเป็นของขวัญแทนใจ
จั๋วหวายเหลือบมองกระบี่ในมือของนาง “ท่านพี่ขอรับ ท่านพี่กับท่านอ๋องเฟิง...จริง ๆ หรือ”
“เปล่า” จั๋วซือหรานลูบหัวของเขา “ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เจ้าควรรีบคิดหาคำพูดหน่อย ว่าจะปลอบใจท่านแม่อย่างไร”
พี่น้องสองคนนี้กลับมาที่สวนจี๋หย่าย่วน จั๋วซือหรานให้เด็กชายคนนี้ไปปลอบใจของท่านแม่
ตัวนางเองกลับห้องของนาง เพราะนางคิดพิจารณาว่า กระบี่ประจำตระกูลยังอยู่ที่นี่ ชายคนนั้นคงยังไม่ไปจากที่นี่ นางต้องคืนระบี่นี้ให้แก่เจ้าของเดิม และขอบคุณเขาที่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของนาง
“เอ่อ...แค้ก ท่านอ๋องเฟิง” จั๋วซือหรานเรียกด้วยเสียงต่ำ นางค่อย ๆ เดินไปข้างหน้า“ยังอยู่ที่นี่หรือไม่”
จั๋วซือหรานพูดกับตัวเองว่า ถ้าไม่ทายา ภายในห้าวัน นางจะหายเกือบเป็นปกติ เพราะตอนนี้คุณท่านจั๋วลิ่วสั่งการคลังไว้ ไม่มีใครให้ยารักษาอาการบาดเจ็บแก่นาง ยาน้ำค้างหยกที่เขาให้นางในก่อนหน้านี้เมื่อครู่นี้ เขารักษาอาการบาดเจ็บของนาง เขาใช้หมดแล้ว
แต่ไม่คาดคิดว่า หลังจากที่เฟิงเหยียนจากไปแล้ว หลังเที่ยง จู่ ๆ ก็มีคนที่มาจากลานหน้าเรือนเรียกนางไปที่ห้องโถงด้านหน้า
“ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามต้องการพบข้าหรือ” จั๋วซือหรานถามคนรับใช้ที่มาส่งข่าว
คนรับใช้ตอบกลับ"ใช่ขอรับ คุณหนูจิ่ว"
จั๋วซือหรานแบะปาก "คุณท่านลิ่วฟ้องได้เร็วจัง"
แม้ว่าผู้อาวุโสใหญ่จะกระทำการอย่างยุติธรรม แต่เขาก็อุทิศตนเพื่อครอบครัว ผู้อาวุโสสามซึ่งแตกต่างออกไป เขาสนิทกับคุณท่านจั๋วลิ่วมาโดยตลอด ดังนั้นเขาต้องกล่าวหาว่านางทำผิดและหาทางลงโทษนางแน่ ๆ
จั๋วซือหรานเดินตามคนรับใช้ไปที่ลานหน้าบ้าน ทว่าเขาไม่คาดคิดเลยว่า นางไม่เห็นคุณท่านจั๋วลิ่วหรือจั๋วหรูซินอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้า
กลับมีคนแปลกหน้าคนหนึ่ง เสื้อผ้าที่เขาสวมทำให้จั๋วซือหรานตกใจเล็กน้อย
นั่นเป็นชุด…ที่มีลายประจำตระกูลเฟิงอยู่บนนั้น
“ท่านผู้นี้คือคุณหนูจั๋วจิ่วแน่เลยใช่ไหมขอรับ” ผู้นั้นถาม
จั๋วซือหรานพยักหน้า "ข้าคือจั๋วจิ่ว"
“ข้าน้อยได้รับคำสั่งและนำสิ่งของเหล่านี้มามอบให้แก่คุณหนูจิ่ว คุณหนูรับของเหล้านี้เสร็จ ข้าน้อยจึงสามารถกลับไปรายงานขอรับ” เมื่อชายคนนั้นพูดจบ เขาหยิบกล่องลายครามสามใบออกมา
“นี่คือ?ฃ” จั๋วซือหรานไม่เข้าใจ
“ยาน้ำค้างหยก” ชายผู้นั้นตอบ
ผู้อาวุโสสามเลิกคิ้วและถามด้วยเจตนาร้าย "เหตุใดท่านอ๋องเฟิงต้องสั่งคนมาเอายาน้ำค้างหยกมาให้"
ชายผู้นั้นเหลือบมองผู้อาวุโสสามแล้วตอบกลับ "ท่านอ๋องได้ยินมาว่า คุณหนูจิ่วได้รับบาดเจ็บ แต่คุณหนูไม่สามารถเอายาจากคลังของตระกูลจั๋วได้ ดังนั้นท่านจึงสั่งข้านำยามา เพื่อแสดงความขอโทษ ขอโทษวันนั้นคุณหนูเฟิงหร่านปฏิบัติตนไม่สุภาพต่อคุณหนูจั๋วจิ่วขอรับ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง