เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง นิยาย บท 9

มีใบมีดคมที่เย็นเฉียบขึ้นจากหลังคอ และบัดนี้กระบี่เล่มนั้นกำลังถูกวางที่คอขององครักษ์

เขาไม่กล้าขยับตัว เสียงของเขาก็สั่นเครือ “ จิ่ว คุณหนูจิ่ว ท่าน…มีอะไรจะพูด…ก็พูดกันดี ๆ เสียก่อน อย่าหุนหันพลันแล่นไปเลย... “

“ข้าไม่ได้หุนหันพลันแล่น ข้าใจเย็นแล้วนะ” จั๋วซือหรานเสาะยิ้ม “แต่พวกเจ้าต่างหาก ตอนนี้พร้อมจะคุยกับข้าดี ๆ ยัง”

“จิ่ว คุณหนูจิ่ว ท่านเป็นคนใจกว้าง อย่า อย่าคิดเล็กคิดน้อยกับพวกข้าเลยขอรับ” ยามอ่อนแรงจนขาสั่น เขากลัวมือของจั๋วซือหรานจะสั่น

“ตอนนี้ ข้าถามอะไร พวกเจ้าต้องตอบ เข้าใจหรือไม่”

"เข้า เข้าใจแล้วขอรับ"

“น้องชายของข้าอยู่ที่ไหน”

“คุณท่านลิ่วนำตัวไปแล้ว”

“นำตัวไปที่ไหน”

“พวกเราไม่ทราบขอรับ” องครักษ์เกรงว่านางจะไม่เชื่อ จึงย้ำอีกครั้งว่า "พวกเราไม่รู้จริง ๆ และคุณท่านลิ่วก็ไม่จำเป็นต้องให้พวกเราทราบการเดินทางของท่าน"

“คำถามสุดท้าย จั๋วหรูซินอยู่ที่ไหน พาข้าไปหานางหน่อย” จั๋วหรูซินพูดอย่างเย็นชาโดยไม่ให้โอกาสผู้คุมปฏิเสธ นางกดกระบี่ลงจนทำให้เกิดรอยเลือดขึ้น

*

"ไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น"

ในห้องด้านใน จั๋วหรูซินทุบถ้วยชาในมือของนางออย่างแรง "ถังหยวนอ่อนให้อีนังนั้นหรือเปล่า แม้แต่ทำตามกฎตระกูล เอาแส้ไปตีอีนังนั้นตั้งเก้าครั้ง อีนังนั้นยังไม่ตายอีก"

“คุณหนู อย่าโกรธเลย ถึงแม้นางรับการโจมตีของเก้าแส้นั้นได้ ต่อให้นางไม่ตาย แต่ก็คงต้องมีอาการหนังอย่างมาก อีกอย่างเจ้าคะ ก่อนหน้านี้ นางถูกอาคมหนอนพิษกู่มาเป็นเวลานานแล้ว การฝึกฝนครั้งนี้ นางจะต้องตายอย่างแน่นอน อย่าคิดจะชนะท่านได้เลย” คนใช้ปลอบใจของจั๋วหรูซิน

“ที่พูดมาก็ถูก” จั๋วหรูซินรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย “เมื่อกี้เจ้าบอกว่า ท่านพ่อของข้ากักตัวจั๋วหวายไว้หรือ”

“ใช่เจ้าค่ะ เด็กโง่นั่นคิดว่าคุณท่านลิ่วของเราเป็นผู้ที่ลงโทษพี่สาวของเขา ดังนั้นเขาจึงรีบมาเพื่อร้องขอความเมตตา แต่เขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้ คำพูดของเขาค่อนข้างหยาบคาย คุณท่านลิ่วจึงขังตัวเขาไว้”

“ เชอะ เหมือนกันกับพี่สาวของเขา เสียมารยาท ” จั๋วหรูซินยืนขึ้น “ไปดูกันเถิด พอดีเลย ข้าจะได้สอนเขาเสียหน่อยว่า ควรทำตามกฎเกณฑ์เช่นใด”

คนรับใช้เดินนำหน้า และกำลังจะเปิดประตูให้นาง

สีหน้าของจั๋วหรูซินเปลี่ยนไปทันที "ระวัง"

เสียง ปัง ดังก้อง ประตูพังและกระจายออกเป็นชิ้น ๆ ผู้ติดตามไม่ทันหลบหนี ถูกผลักออกและกรีดร้อง

“คุณ คุณหนู ช่วยด้วย”องครักษ์ผู้นั้นพูดอย่างสั่นเครือ เพราะเขาถูกจั๋วซือหรานจับไว้เป็นตัวประกัน

“จั๋วซือหราน” จั๋วหรูซินมองเหตุการณ์นอกประตู นางจึงถามด้วยความโกรธ“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบปล่อยองครักษ์ล่ะเจ้าอยากโดนลงโทษแบบเดิมอีกหรือ”

“พี่ลิ่วไม่ต้องเป็นกังวลหรอก” จั๋วซือหรานยกริมฝีปากขึ้นและยิ้มด้วยความชั่วร้ายเล็กน้อย “ได้ยินมาว่า พี่ลิ่วกำลังจะสั่งสอนกฎตระกูลให้กับน้องชายข้าหรือ ถ้าอย่างนั้น พี่ลิ่วนำทางสิ ”

“เจ้ากำลังข่มขู่ข้าอยู่หรือ” จั๋วหรูซินพูดอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าเจ้าจะขู่ข้าด้วยการจับองครักษ์เป็นตัวประกันได้หรือ ข้าไม่เชื่อหรอกนะ เจ้ากล้าฆ่าคนในเรือน”

จั๋วซือหรานหัวเราะเบา ๆ "แน่นอนว่าข้ารู้ว่าชีวิตขององครักษ์ไม่สามารถเอามาข่มขู่เจ้าได้ และก็ไม่สามารถข่มขู่คุณท่านลิ่วได้ ดังนั้น ข้าเลยมาหาเจ้านี่ไง"

“เจ้าหมายถึงอะไร” จั๋วหรูซินขมวดคิ้ว

องครักษ์ตะโกน "คุณหนูระวัง"

จั๋วหรูซินตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทว่าก็ยังไม่เร็วพอ นังนสารเลว เป็นเพราะอะไร หลังจากถูกกฎตระกูลเก้าแส้ลงโทษแล้ว นางยังสามารถเคลื่อนตัวได้คล่องเช่นนี้

เมื่อมีดคม ๆ ถูกวางที่คอของนาง จั๋วหรูซินจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าจุดประสงค์ของจั๋วซือหรานคืออะไร

นางหัวเราะเยาะ “มันไม่ได้ผลหรอก จั๋วซือหราน เจ้าอย่าเพ้อฝันเลย เจ้าไม่กล้าฆ่าข้า แล้วมันข่มขู่ท่านพ่อของข้าไม่ได้”

“พอ ๆ กันนั่นแหละ หรือว่าคุณท่านลิ่วจะกล้าฆ่าน้องชายข้าหรือ แต่ทางที่ดี เจ้าควรอวยพรท่านพ่อของเจ้าไม่ได้แอบลงโทษเสี่ยวหวายด้วยวิธีที่ชั่ว มิฉะนั้น หากเสี่ยวหวายได้รับบาดเจ็บตำแหน่งใด ข้าก็จะทำมันในตำแหน่งเดียวกันบนร่างกายของเจ้า ” จั๋วซือหรานซือหรานกล่าว

จั๋วหรูซินโกระ"เจ้ากล้าดีอย่างไร"

แต่เดิมกระบี่ถูกวางอยู่บนคอของนาง เวลานี้กระบี่เล่มนั้นถูกยกขึ้นมา จั๋วซือหรานตบหน้านางเบา ๆ ด้วยกระบี่เล่มนั้น เห็นได้ชัดว่า จั๋วซือหรานอยากทำอะไร

“จั๋วซือหราน เจ้ากล้าดีอย่างไร——” จั๋วหรูซินตะโกน “ท่านพ่อ ช่วยด้วย”

คุณท่านจั๋วลิ่ว "จั๋วจิ่ว เจ้า——!"

ทว่าจั๋วซือหรานเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว เขาทำได้เพียงแค่มองกระบี่อันคมกริบใบหน้าของจั๋วหรูซิน และใบหน้าของจั๋วหรูซินมีรอยแผลสองเส้น

"อ๊า——!" จั๋วหรูซินร้องด้วยเสียงแหลมและเศร้ารันทด"จั๋วซือหราน ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้าตายแน่นอน"

สีหน้าของจั๋วซือหรานไม่ได้มีการเปลี่ยนไปเลย ประสบการณ์ในชาติที่แล้วสอนนางไว้ว่า เมื่อนางควรโหดเหี้ยม นางห้ามอ่อนให้เด็ดขาด นางจดจำไว้ตลอดว่า การที่ใจดีต่อศัตรูนั้นจำทำลายตนเอง

ด้วยใบหน้าที่เย็นชา นางเตะด้านหลังของหัวเข่าของจั๋วหรูซินอีกครั้ง

จั๋วหรูซินคุกเข่าลงทันที

ไม่มีใครคาดคิดว่า จั๋วซือหรานจะลงมืออย่างเด็ดขาดและเฉียบคมขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย แม้แต่จั๋วหวายก็ตกตะลึง

จั๋วซือหรานกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "คุณท่านลิ่วห้ามคนในคลังจ่ายยารักษาแผลแก่ข้า แต่คุณท่านลิ่วคงเต็มใจที่จะจ่ายยาให้กับลูกสาวของตนเอง ข้าคิดว่าการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยของพี่ลิ่วไม่ใช่เรื่องใหญ่ เช่นนั้นจั๋วจิ่วขอลา”

ทันทีที่นางพูดจบ นางก็เตะจั๋วหรูซินไปยังด้านหน้า จากนั้นลากจั๋วหวายไว้ข้างหลังนาง

“หยุดเดี๋ยวนี้ เจ้าเด็กนี่ เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าจัดการเจ้าจริง ๆ หรือ ข้ายังไม่เชื่อว่า วันนี้ข้าจะจัดการเจ้าไม่ได้” คุณท่านจั๋วลิ่วตะโกน ทันทีที่เขาเตรียมจะลงมือ แต่สายตาของเขากลับหยุดมองที่กระบี่นั้น และเขามองอย่างชัดเจน

กระบี่ในมือของจั๋วซือหรานดูเหมือนจะมีรูปแบบที่ธรรมดาและเรียบง่าย แต่ด้ามนั้นสลักด้วยตราประจำตระกูลและมีอักษรหนึ่งตัว "เหยียน" ที่เขียนด้วยปากกาเหล็กเงินคุณภาพสูง

คุณท่านจั๋วลิ่วถาม "ทำไมกระบี่เสวียนเหยียนถึงอยู่ในมือของเจ้า เจ้าดึงกระบี่เสวียนเหยียนออกมาได้จริง ๆ หรือ"

เมื่อจั๋วหรูซินได้ยินคำพูดของท่านพ่อของนาง แต่เดิมนางมีสีหน้าดุร้าย นางรีบหันศีรษะไปมองกระบี่นั้น จึงสังเกตเห็นกระบี่ในมือของจั๋วซือหราน

นางถามจั๋วซือหรานอย่างเคร่งเครียด “นังสารเลว ทำไมกกระบี่ประจำตระกูลของท่านอ๋องเฟิงถึงอยู่ในมือเจ้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง