เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง นิยาย บท 12

ที่จริงแล้วเฟิงเหยียนไม่มา จั๋วซือหรานกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมาก

นางมีเวลาว่างพอดี นางจะได้วิเคราห์ชะตากรรมเดิมของเจ้าของร่างเดิมที่อยู่ในหัว

ในชะตาเดิมของเจ้าของร่าง เวลานี้นางได้แต่งงานกับฉินตวนหยางแล้ว ซึ่งตามมารยาท นางไม่ได้มาร่วมงานดอกไม้ในวังแน่นอน รู้เพียงในงานดอกไม้ครั้งนี้ จั๋วหรูซินทดลองยาให้ไทเฮาด้วยตัวเอง เพราะไทเฮานอนติดเตียงเป็นเวลานาน และนางได้รับการยกย่องสรรเสริญเป็นเสียงเอกฉันท์

แต่ ณ ตอนนี้ หลังจากงานเลี้ยงเริ่มต้นได้ไม่นาน จั๋วหรูซินก็ลุกขึ้น

“ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันทราบมาว่า ไทเฮาทรงประชวรนอนติดเตียงมานานแล้ว ซึ่งทำให้ท่านกังวลเป็นอย่างมาก...”

แต่โครงเรื่องต่อไปไม่ได้เป็นไปตามโครงเรื่องเดิม

เนื่องจากจั๋วหรูอหรานเปลี่ยนบทสนทนา "น้องสาวจิ่วของหม่อมฉันมีพรสวรรค์อย่างมาก มากเสียจนสามารถรักษาตัวจากแส้หนามของครอบครัวได้ภายในหนึ่งหรือสองวันหลังจากได้รับเฆี่ยนตีเก้าครั้ง ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งและพลังทางจิตวิญญาณ หากนางได้เป็นผู้ทดลองยายาของไทเฮา อาการเจ็บป่วยของไทเฮาจะหายขาดในไม่ช้า”

ก่อนเข้าร่วมงานดอกไม้ในวัง บิดาและผู้อาวุโสสามให้นางเสนอจั๋วซือหรานให้เป็นผู้ทดลองยาให้แก่ไทเฮา

ตามชื่อ ผู้ทดลองยาคือผู้ให้ยาโดยใช้พลังทางจิตวิญญาณ รวมไปถึงใช้เลือดเป็นตัวนำยา ผู้ทดลองยาบางคนถึงกับต้องทานยาจำนวนมาก หรือถูกของมีพิษกัดกิน ซึ่งบุคคลธรรมดาแบกรับการทดลองนี้ไม่ไหว

ร่างกายที่แข็งแกร่งของจั๋วซือหรานสามารถทนได้

แต่เนื่องจากจั๋วซือหรานเพิ่งได้รับโทษเก้าแส้ของตระกูลมา ให้นางมาเป็นผู้ทดลองยาอีกครั้งจะทำลายร่างกายของนางเสียหายอย่างแน่นอน

ตราบใดที่จั๋วซือหรานไม่ยอม จั๋วหรูซินจะเสนอตัวมาเป็นผูืทดลองยา แต่ร่างกายของนางทนไม่ไหวอย่างแน่นอน ต้องใช้เวลาบำรุงรักษาร่างกาย และอาการของไทเฮาก็ทนได้ไม่นานขนาดนั้น

เท่ากับว่า จั๋วหรูซิได้ชื่อเสียงโดยไม่ได้ทุ่มแรงใด ๆ หากมองในแง่นี้ นับว่านี่เป็นสถานการณ์ที่มีแต่ชัยชนะอย่างแน่นอน

ทุกคนมองดูนาง

จั๋วหรูซินถามอย่างกระตือรือร้นว่า "น้องสาวจิ่วเป็นคนที่มีความสามารถ ซึ่งควรออกแรงหน่อย ดังนั้นเจ้าคงไม่รังเกียจที่จะทุ่มแรงเล็กน้อยเพื่อแบ่งปันความกังวลของฮองเฮาใช่ไหม"

จั๋วซือหรานกระพริบตาเล็กน้อย โอ้ แท้จริงแล้ว เป็นแบบนี้เองหรือ ขุดหลุมพรางรอนางอยู่นี่เอง

“ข้าแค่ทุ่มแรงนิดเดียวเพียวเท่านั้น เหตุใดพี่สาวลิ่วถึงตื่นเต้นมากมายขนาดนี้ล่ะ”

ต้องบอกว่า แผนของคุณท่านจั๋วลิ่วและผู้อาวุโสสามดีเสียจริง

แต่พวกเขาพลาดไปเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ การที่มีนางอยู่ เพราะนางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม

นางมาจากอีกโลกหนึ่ง และนางเชี่ยวชาญในด้านศิลปะการต่อสู้โบราณและฝีมือทางการแพทย์ที่ลึกลับ

“ทำไมข้าต้องเป็นผู้ทดลองยาถึงจะบรรเทาความกังวลของฮองเฮาได้ล่ะ” จั๋วซือหรานพูดเบา ๆ “ข้ารักษาไทเฮาให้ได้ไม่ได้หรือ”

“พูดจาไร้ยางอาย” จั๋วหรูซินตะโกน “เจ้าคิดว่าหมอหลวงในวังทั้งหมดเป็นเพียงของตกแต่งเหรอ พวกเขายังรักษาไม่ได้ เจ้ากล้าพูดเกินตัวเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวที่จะทำให้ครอบครัวของเราอับอายหรือ”

“อย่ายั่วข้าโมโหสิ พี่ลิ่ว”จั๋วซือหรานกล่าวต่อ “หมอหลวงทำไม่ได้ ข้าทำไม่ได้เช่นกันหรือใช่ เจ้าพยายามใส่ความข้าขนาดนี้ หากข้ารักษาให้หายดีได้ คำพูดของเจ้าในตอนนี้จะไม่น่าอับอายมากเลยหรือ”

“หรือขอรับ” มีเสียงหนึ่งดังก้องจากประตูห้องโถง “ข้าไม่รู้ว่าคุณหนูจิ่วจะมีความสามารถเช่นนี้”

คนรับใช้ที่ประตูส่งสารว่า "ท่านชายเหยียนฉีมาถึงแล้วขอรับ ท่านอ๋องเหยียนเฟิงมาถึงแล้วขอรับ"

ชายร่างสูงทั้งสองเดินมาจากประตู

เฟิงเหยียนแต่งกายด้วยชุดสีดำเหมือนเดิม ใบหน้าอันงดงามของเขาเต็มไปด้วยสีหน้าที่เย็นชา

ในทางกลับกัน ใบหน้าของเหยียนฉีเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เขาทำท่าเคารพแก่ฮองเฮาจากที่ไกล ๆ "เหยียนฉีมาสายโปรดฮ่องเฮาอย่าโกรธ จะตำหนิกระหม่อมมิได้นะ เป็นความผิดของอ๋องเฟิงทั้งนั้นพะยะคะ”

เหยียนส่ายผลักหน้าที่ด้วยน้ำเสียงที่ช้า ๆ "เขาขาเป๋"

จั๋วซือหราน "ข้าจะเดือดร้อนหรือไม่ ไม่รบกวนเจ้าเป็นห่วง"

“เจ้าพูดเกินความสามารถ เพื่อต้องการขอพระราชโองการการหมั้นระหว่างเจ้ากับท่านอ๋องเฟิงเหยียน หากเจ้าทำให้ตระูลอับอาย เหล่าผู้อาวุโสจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่” จั๋วหรูซินพูดอย่างเคร่งขรึม นางคิดว่าตัวเองมองแผนการของจั๋วซือหรานออก

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จั๋วซือหรานยิ้ม นางเบาเสียงลง และพูดด้วยน้ำเสียงที่ชั่วร้าย "เฟิงเหยียนและข้ารักกัน สายใยรักของเราผูกกัน ทำไมเราต้องมีพระราชโองการการหมั้นล่ะ เจ้าไปกังวลเรื่องของเจ้าเองเสียดีกว่า”

หัวใจของจั๋วหรูซินเต้นรัว "หมาย หมายถึงอะไร"

จั๋วซือหรานยิ้มอย่างสดใสจนเห็นฟันขาวเล็ก ๆ ของนาง “พี่ลิ่ว ลืมไปหรือ คู่รักของพี่ลิ่ว ฉินตวนหยาง ข้าเหลือไว้ให้เจ้าเป็นพิเศษนะ”

จั๋วซือหรานไม่ใช่คนบริสุทธิ์ จั๋วหรูซินกล้าหาผู้ชายชั่ว ๆ เช่นนี้ให้นาง นางก็จะโยนเขากลับไปหาจั๋วหรูซินอย่างแน่นอน

จั๋วหรูซิน: "เจ้า"

จั๋วซือหรานไม่สนใจนางและไม่มองนาง นางเดินจากไปอย่างสง่างาม

จั๋วหรูซินหวาดกลัวเล็กน้อย แต่นางรีบสงบอารมณ์ทันที นางเยาะเย้ยในใจว่า นางกำลังคิดอะไรอยู่ จั๋วซือหรานจะรักษาโรคของไทเฮาได้อย่างไร นางไปเป็นตัวตลกมากกว่า

จั๋วหรูซินเร่งฝีเท้าและมุ่งหน้าไปยังตำหนักหย่งโซ่ว

ไม่ไกลจากด้านหลังของพวกนาง เหยียนฉีมองไปยังชายที่สวมชุดสีดำ เวลานี้ สีหน้าของชายพูดนี้ไร้ความรู้สึก เหยียนฉียิ้มอย่างขำขันว่า "คนสองคนรักกัน มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน และผูกพันกันตลอดชีวิตที่เหลือ เจ้าและจั๋วจิ่วมาถึงจุดนี้แล้วหรือ "

ด้วยทักษะของพวกเขา พวกเขาสามารถได้ยินการคุยระหว่างจั๋วซือหรานและจั๋วหรูซินได้อย่างชัดเจน

เฟิงเหยียนขมวดคิ้วและเหลือบมองเหยียนฉีอย่างเย็นชา “หากเจ้ามีเวลามาก ก็ไปรักษาสมองของตัวเองเถิด ชื่อเสียงของตระกูลตัวเองจะถูกคนทำลายอยู่แล้ว ยังมีเวลาแกล้งข้าอีกหรือ”

เหยียนฉีสะดุ้ง จากนั้นโบกมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "แม้ว่าความสามารถของคุณอาสามของข้าจะไม่ได้สูงที่สุดในบรรดาตระกูล แต่ก็ยังเก่งพอ เขายังรักษาความเจ็บป่วยของไทเฮาไม่ได้...เจ้าเชื่อความสามารถของจั๋วจิ่วขนาดนี้เลยหรือ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง