น้ำเสียงทุ้มต่ำของเฟิงเหยียนเต็มไปด้วยความเย็นชาและเสน่ห์"น่าอับอายเสียจริง เรื่องไร้สาระสิ้นดี"
จั๋วซือหรานเงยหน้ามองชายผู้นี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก
ใต้หล้ามีคนหน้าตาดีตั้งมากมาย
เฟิงเหยีนกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ความหล่อเหลาของเขาผสมด้วยความกล้าหาญที่ฮึกเหิม
ทันทีที่จั๋วซือหรานเห็นใบหน้านี้ นางหายความเจ็บปวดทันที
แต่จั๋วซือหรานหายเจ็บปวด ไม่ใช่เป็นเพราะนางเห็นหน้าตาอันหล่อเหลา
แต่เป็นเพราะวินาทีที่ชายผู้นี้ปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขาวางมือบนไหล่ฉินตวนหยาง
"อ๊าก ๆ——!“
ฉินตวนหยางกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องนั้นดังเป็นสิบ ๆ เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาถูกหักขาในก่อนหน้านี้ และบัดนี้เขากำลังล้มบนพื้นและกระตุกไปทั้งตัว
สายเลือดของตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ สายเลือดนี้เป็นธาตุไฟที่รุนแรงที่สุด ยิ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม พลังทางจิตวิญญาณก็ยิ่งเผด็จการมาขึ้นเท่านั้น
หากถูกพลังทางจิตวิญญาณนั้นรุกราน จะมีความรู้สึกอย่างร่างกายกำลังถูกไฟเผา ซึ่งความเจ็บปวดนั้นพอ ๆ กันกับความเจ็บปวดที่เสน่ห์หนอนพิษกู่นำมา
ในขณะเดียวกัน ฉินตวนหยางหลั่งน้ำอย่างหนัก เขาดูน่าเกลียดอย่างมาก
เมื่อเผชิญนหน้ากับความเจ็บปวดที่ร้ายแรง เขาไร้ความอดทนและความสามารถในการสงบอารมณ์อย่างที่จั๋วซือหรานเคยทำ
ในขณะนี้ มีกล่องเครื่องเขินทรงกลมหลุดออกมาจากเสื้อผ้าของฉินตวนหยาง
กล่องเครื่องเขินนั้นมีสีเข้มและทำจากวัสดุหนา ลวดลายดูซับซ้อนและแปลกตา
กล่องกลิ้งไปกลิ่งมาบนพื้นครู่หนึ่ง จากนั้นสั่นสองสามครั้ง และฝาก็ถูกเปิดจากด้านใน
“นั่นคือ...กล่องหนอนพิษกู่มิใช่หรือ”
ผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้มองออกนี่เป็นกล่องใด
ภายใต้สายตาของทุกคน ทุกคนเห็นหนอนที่มีลวดลายสีสันสดใสบิดตัวและคลานออกมาจากกล่อง หลังจากดิ้นอยู่ครู่หนึ่งหนอนตัวนั้นก็ได้หยุดเคลื่อนไหว
ทันทีที่แม่หนอนพิษกู่ตาย ความเจ็บปวดทั่วร่างกายของจั๋วซือหรานก็หายไปทันที
ขณะนี้ มีหลักฐานที่ไม่สามารถหักล้างได้ ไม่มีใครสงสัยเรื่องเสน่ห์หนอนพิษกู่อีกต่อไป
“แม่เจ้า นั่นหมายความว่า นางต้องทนความเจ็บปวดจากการโจมตีของหนอนพิษกู่แล้วหรือ”
“มิน่าแปลกใจเลยที่เมื่อครู่นี้ นางอาเจียนเป็นเลือด ข้ายังคิดว่าเป็นเพราะคุณหนูเฟิงสือตีนางเสียอีก”
แม้แต่เฟิงเหยีนเองก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
ฉินตวนหยางเป็นเพียงบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ เขาจะหาแมลงลัทธิกู่จากดินแดนทางใต้ใต้อย่างง่ายดายได้อย่างไร
เหตุผลที่เฟิงเหยียนลงมือ เดิมทีเขาอยากเปิดเผยหน้าตาตัวจริงของนาง
ทว่าเขาไม่เคยคิดเลยว่า จะมีเสน่ห์หนอนพิษกู่จริง ๆ ดังนั้นต้นกำเนิดของหนอนพิษกู่นี้จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าวิเคราะห์
จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและกล่าวคำขอบคุณ "ขอบคุณความช่วยเหลือของท่านอ๋องมาก"
เฟิงเหยียนพูดอย่างเย็นชา "น้องสาวของข้ามีการกระทำบุ่มบ่าม ข้าต่างหากที่ต้องขอโทษ"
เขายื่นกระปุกลายดอกบัวที่ทำจากดินเผาให้จั๋วซือหราน "นี่คือยารักษาบาดแผล"
เมื่อเฟิงหร่านเห็นลวดลายของกระปุกที่ทำจากดินเผานั้น นางเริ่มวิตกกังวล “ท่านพี่ เป็นแผลเล็ก ๆ เท่านั้น สักพักก็จะค่อย ๆ จะหายเอง ไม่เห็นต้องใช้ยาน้ำค้างหยกเลย”
นำยาน้ำค้างหยกมารักษาแผลเล็ก ๆ ที่อยู่บนใบหน้าของจั๋วซือหราน เท่ากับว่านำดาบที่ฆ่าวัวไปฆ่าไก่ มันเกินไปเสียจริง
เฟิงเหยียน "หุบปาก"
เฟิงหร่านทำได้เพียงปิดปากของตนเอง แม้ว่านางจะหงุดหงิดมากเท่าใด
จั๋วซือหรานมีพรสวรรค์อย่างสูง นางมีความสามารถในการฟื้นตัวที่ดีเยี่ยมด้วย แผลบาดเจ็บบนใบหน้าของนางก็หยุดไหลเลือดแล้ว
แต่มีคนมอบยาที่ดีเช่นนี้ หากไม่รับ จั๋วซือหรานรู้สึกเสียดาย ดังนั้นนางจึงรับยาน้ำค้างหยกอย่างไม่ลังเลใจ
สมกับเป็นท่านอ๋องของตระกูลเฟิง ของที่มอบให้คนอื่นไม่ธรรมดาเสียจริง
เฟิงเหยียนคว้าหลังคอเสื้อของเฟิงหร่านแล้วพูดอย่างไร้อารมณ์ “ต้องขออภัยด้วยขอรับ ข้าขอลาตัวก่อนขอรับ”
ในขณะเดียวกัน มีเสียงหัวเราะเยาะดังจากประตู มีชายคนหนึ่งพูดด้วยการหยอกล้อ "เจ้าเพิ่งอย่าเพิ่งรีบไปสิ คุณหนูโจวจิ่วได้รับอันตรายจากเสน่ห์หนอนพิษกู่ และอวัยวะภายในของนางได้รับบาดเจ็บด้วย อย่างไรก็ตาม นางเคยเป็นคู่หมั้นของเจ้า และนางยังรักเจ้าด้วยความจริงใจอันลึกซึ้ง เจ้าจะทิ้งนางเช่นนี้หรือ”
ผู้ที่เดินมามีดวงตาที่สวยงาม ชายผู้นี้หัวเราะเย้ยหยัน ทำตัวเหมือนไม่กลัวคำพูดของเขาอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อน ใช่เลย ชายผู้นี้คือเหยียนฉี คุณชายของตระกูลเหยียน
เฟิงเหยีนขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้าสร้างปัญหาเสียจริง เจ้ารู้สึกแค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอหรืออย่างไร"
ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขามาถึงห้องด้านในที่ถูกตกแต่งอย่างรื่นเริง
เฟิงเหยียนดื่มสุราไปหนึ่งจอกอย่างช้า ๆ จั๋วซือหรานมองไปยังมือของเฟิงเหยียน เขากำลังถือแก้วที่ที่มีลายมังกรและหงส์ และรอบข้างแก้วนั้นมีอักษร "ความสุข" ด้วย
เฟิงเหยียนรู้สึกถึงสายตาของจั๋วซือหราน เขามองกลับไป “ทำไม เจ้าก็อยากดื่มด้วยหรือ”
จั๋วซือหรานคิดในใจว่า ข้าอย่าทำลายภาพลักษณ์เด็กขาด
นางทำได้เพียงพูดอย่างเขินอายและแก้มแดงเล็กน้อย "ท่านอ๋องเจ้าคะ นั่นคือสุราสำหรับคู่หมั้นเจ้าค่ะ สุรานี้มีความหมายว่า อยู่กันอย่างมีความสุขชั่วนิจนิรันดร์เจ้าค่ะ"
แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาควรจะร่วมมือแสดง เขากลับเหมือนมองไม่เห็น เขาไม่เพียงแต่เฉยเมย เขายังนำปลายนิ้วไปลูบที่แก้วอีกด้วย
คำว่า "ความสุข" ภายใต้การเคลือบด้วยสีแดงสดใสหายไปจากรอบแก้ว ราวกับว่าอักษรนั้นไม่เคยปรากฏมาก่อน
ไร้ความเมตตาอย่ามาก
เฟิงเหยียน "สุราสำหรับคู่มั่นหรือ อ้าว ตอนนี้ไม่ใช่แล้วนะ "
แม้แต่เหยียนฉีเองก็รู้สึกว่า เฟิงหเหยียนนั้นโหดเหี้ยมเกินไป เวลาผ่านไปไม่นาน เหยียนก็ตรวจชีพจรให้จั๋วซือหราน
เฟิงเหยียน "เป็นอย่างไร"
“แม้ว่าชีพจรของคุณหนูจั๋วจิ่วจะแข็งแกร่ง ทว่าพิษที่นางได้รับในครั้งนี้ทำลายอวัยวะภายในของนางเสียจริง”
การวินิจฉัยของเหยียนฉีไม่แตกต่างจากการคาดการณ์ของจั๋วซือหรานในก่อนหน้านี้ อวัยวะภายในของนางมีอาการปวดอย่างรุนแรง ดังนั้น อวัยวะภายในจึงต้องได้รับความเสียหาย แต่เนื่องจากร่างกายของนางต่างจากคนทั่วไป การบาดเจ็บภายในนั้นจึงไม่ร้ายแรงมาก
ด้วยทักษะทางการแพทย์ขั้นสูงของจั๋วซือหราน การรักษาอาการบาดเจ็บภายในจึงเป็นเรื่องง่าย ซึ่งไม่จำเป็นต้องรบกวนเหนียนฉี
จั๋วซือหราน "ขอบคุณสำหรับการวินิจฉัยของคุณชายเหยียนฉี"
“เจ้ารักษานาง” หลังจากที่เฟิงเหยียนพูดกับเหยียนฉีแล้ว เขาก็มองไปที่จั๋วซือหรานอย่างเย็นชา “หลังจากนี้ไป บุญคุณและความแค้นระหว่างเจ้ากับข้าถูกยกเลิกโดยสิ้นเชิง ต่อจากนี้ไป เจ้ากับข้าต่างก็ไม่ล้ำเส้นกัน”
จั๋วซือหราน "แต่ข้า..."
เฟิงเหยียนมองนางด้วยความเย็นชาอย่างมาก “และเจ้าก็อย่าพูดเรื่องอะไรที่ว่าน้ำใสใจจริงอีกเลย จั๋วจิ่ว เจ้าคิดว่าทุกคนต่างโง่เขลาหรือ”
เดิมทีจั๋วซือหรานยังอยากแสดงอีก แต่ในเมื่อเฟิงเหยียนพูดเช่นนั้น พอดีเลย นางขี้เกียจที่จะแสดงอีกแล้ว
“ในเมื่อท่านอ๋องเป็นคนที่ไร้ความเมตตาเช่นนี้ ข้ายิ่งไม่อยากรบกวนคุณชายเหยียนเห็นแก่หน้าของเจ้า เพื่อช่วยตรวจดูอาการและรักษาข้า” จั๋วซือหรานยืนขึ้น “แม้ว่าท่านทั้งจะมาโดยไม่ได้รับบัตรเชิญในวันนี้ แต่ข้าก็ยังอยากจะขอบคุณท่านอ๋องที่ช่วยข้าไว้ อาการบาดเจ็บของข้ายังรักษาไม่หาย ข้าขอไม่ส่งท่านทั้งสอง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง