ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1039

สรุปบท บทที่ 1039 กลิ่นคาวเลือดอันรุนแรง: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

บทที่ 1039 กลิ่นคาวเลือดอันรุนแรง – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1039 กลิ่นคาวเลือดอันรุนแรง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ขณะนี้หลู่อี้กำลังรออยู่ที่จวนของตนด้วยความเบื่อหน่าย

“นี่ก็นานมากแล้ว ไฉนยังไม่กลับมาอีก?”

เขาเงยหน้ามองสีสันที่เปลี่ยนไปของท้องฟ้า และถามอย่างกระวนกระวายใจ

จนเด็กสาววัยแรกแย้มคนหนึ่ง ที่อยู่ด้านข้างและคอยปรนนิบัติพัดวีเขาต้องรีบเอ่ยว่า

“หรือจะมีบางอย่างทำให้แผนการล่าช้าเจ้าคะ?”

“แค่จับคนกลับมา จักยุ่งยากจนเสียเวลาขนาดนั้นเชียวหรือ?”

หลู่อี้แย้งขัด

“ทำงานบกพร่องเช่นนี้ กลับมาแล้วข้าจะสั่งสอนพวกมันให้หลาบจำ!”

เมื่อเด็กสาวเห็นว่าเขากำลังโกรธเกรี้ยว นางจึงตามน้ำเขาไปอย่างว่าง่าย พลางเอ่ยเสียงนุ่มนวล

“พวกเขาทั้งหมดเป็นคนของท่าน ไม่ว่าท่านจะทำอันใด และคิดลงโทษพวกเขาเช่นไร เพียงเอ่ยออกไปคำเดียวก็สิ้นเรื่องแล้วมิใช่หรือเจ้าคะ? มิเห็นจะต้องมีโทสะกับสิ่งเหล่านี้เลย”

เมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด หลู่อี้ถึงค่อยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มแย้มยิ้มชั่วร้าย พลางแตะลูบบั้นเอวของสาวน้อยผู้นั้นเบาๆ

“ปันเออร์ เจ้าเป็นคนที่เชื่อฟังข้ามากที่สุดและเป็นคนที่ข้าชอบมากที่สุด!”

ปันเออร์ระบายยิ้มหวานระคนเขินอาย ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขา

“คุณชายเจ้าคะ หลังจากนี้ท่านจักกลายเป็นบุรุษผู้ทรงเกียรติแล้ว หากท่านมีข้อพิพาทกับพวกเขา มิใช่ว่ามันจะทำให้ภาพพจน์ของท่านเสียหายหรอกหรือ? แค่เรื่องที่ว่าท่านสามารถเดินทางไปที่นั่น เพื่อเข้าร่วมงานฉลองวันคล้ายวันประสูติของโอรสสวรรค์ ก็ทำให้หลายชีวิตอิจฉาท่านยกใหญ่แล้ว…”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มของหลู่อี้ก็พลันขมวดคิ้วมุ่นทันที แล้วผลักนางลงกับพื้น

ปันเออร์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด นางเงยหน้าขึ้นมองอย่างตื่นตระหนก และเห็นเพียงใบหน้าอันมืดมนจนดูน่ากลัวของเขา

นางเอ่ยถามอย่างหวาดหวั่น

“คะ…คุณชายเจ้าคะ ท่านเป็นอันใดไปหรือเจ้าคะ?”

หลู่อี้กวาดชุดน้ำชาบนโต๊ะด้านข้างลงพื้นอย่างเกรี้ยวกราด!

“อย่าได้พูดถึงมันอีก! เมื่อคืนประมุขหลินส่งคนมาแจ้งข้าว่า ข้าไปไม่ได้!”

ปันเออร์เบิกตากว้าง

“หะ เหตุใดกัน? ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ได้ตกลงกัน…”

หลู่อี้เย้ยหยันและก่นด่าสาปแช่ง

“ก็เพราะไอ้ขี้โรคนั่นอย่างใดเล่า! มันบอกว่าต้องพาเซียนหมอติดตัวไปด้วย จะได้สะดวกต่อการรักษา… และสิทธิ์ในการเข้าร่วมของคนจากแดนสวรรค์นั้นมีจำนวนจำกัด ไอ้แก่หลินเทียนเฟิงนั่นเลยให้เซียนหมอเข้ามาแทนที่ข้า!”

อันที่จริงหากว่าตามสถานะและคุณสมบัติของเขาแล้ว เดิมทีเขาไม่มีสิทธ์ที่จะไปร่วมงานเลย

ทว่าคนกลางอย่างหลู่อวี้เออร์ช่วยพูดให้เขาอยู่นาน สุดท้ายเขาถึงได้รับโอกาสนี้มา

แต่ไม่ทันจะได้ออกเดินทาง ก็ดันเกิดเรื่องขึ้นจนได้!

“สองพ่อลูกนั่นไม่ชอบหน้าข้ามานานแล้ว โดยเฉพาะหลินจือเฟยผู้นั้น! เรื่องในครานี้จักต้องเป็นฝีมือของเขาแน่ๆ! คนชั่วที่ฆ่าได้แม้กระทั่งมารดาผู้ให้กำเนิดอย่างเจ้า สมควรตายไปตั้งนานแล้ว! แต่ใครจะรู้ว่าเจ้านั่นกลับอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้! แถมยังถูกหลินเทียนเฟิงเฝ้าดูแลอย่างดีอีก! ถ้าไม่ใช่เพราะต้องเจียดเวลามาดูแลเขา พี่สาวของข้าที่อยู่ในตระกูลหลินมานานหลายปี คงท้องบุตรของตัวเองไปแล้ว!”

ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งโกรธ ราวกับมีไฟโทสะแผดเผาอยู่ในอกของเขา!

ปันเออร์ล้มลงกับพื้น ตัวสั่นเทา ไม่กล้าพูดอันใดสักคำ

หลู่อี้สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหัวเราะเย้ยหยันอีกครั้ง

“แต่เขาคงจะอยู่เป็นเสี้ยนหนามได้ไม่นานหรอก…”

“คุณชายขอรับ! แย่แล้ว!”

ขณะเดียวกันก็มีเสียงตื่นตระหนกดังมาจากนอกลาน

คนรับใช้วิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าซีดเซียว พลันคุกเข่าลงต่อหน้าหลู่อี้ แล้วใช้มือข้างหนึ่งชี้ไปข้างนอก

“คุณชายขอรับ! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! นอกประตู นอกประตูนั่น…”

หลู่อี้ยันเท้าถีบคนรับใช้คราหนึ่ง

“พูดให้รู้เรื่องซิ!”

เด็กรับใช้ตัวน้อยเจ็บระบมบริเวณหน้าอก แต่ไม่กล้าส่งเสียงดังออกไป และทำเพียงพยายามอธิบายให้อีกฝ่ายรับรู้

“คุณชายขอรับ พวกเขา พวกเขากลับมาแล้ว…ตอนนี้พวกเขา…อยู่ข้างนอกประตูแล้ว…ท่านไปดูด้วยตาท่านเองเถิดขอรับ!”

ในที่สุด หลู่อี้ก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พลันยกเท้าขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที!

บทที่ 1039 กลิ่นคาวเลือดอันรุนแรง 1

บทที่ 1039 กลิ่นคาวเลือดอันรุนแรง 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์