ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 336

สรุปบท บทที่ 336 ปรึกษาหารือ [รีไรท์]: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 336 ปรึกษาหารือ [รีไรท์] – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ

ตอน บทที่ 336 ปรึกษาหารือ [รีไรท์] ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ซือเย่จือคิดเอาไว้แล้วว่าซือถิงต้องปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจและโน้มน้าวอย่างอดทน

“ซือถิง พ่อรู้ว่าเจ้ากับซือหยางติดต่อกับฉู่หลิวเยว่อยู่ตลอด เรื่องนี้ไม่ยากสำหรับเจ้าแน่นอน เจ้า…”

“ท่านพ่อ ซือถิงรับคำสั่งนี้ไม่ได้” น้อยครั้งที่ซือถิงจะขัดคำพูดของซือเย่จือ

ซือเย่จือตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าซือถิงต่อต้านเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

“แต่ครั้งนี้ไม่เพียงแค่หรงเจินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจักรพรรดินีและหรงจิ้นด้วย! อย่างไรเสียจักรพรรดินีก็เป็นคนของตระกูลซือ หากเกิดอันใดขึ้นกับพวกเขา มันจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับตระกูลซือ”

ซือถิงเหลือบมองซือเย่จือ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างใจเย็น

“หรงเจินเป็นถึงองค์หญิงสี่ หากหายตัวไปก็ควรจะแจ้งฝ่าบาททันทีและขอให้ราชองครักษ์ออกตามหาจักรพรรดินีจะแอบส่งเรื่องนี้ให้ตระกูลซืออย่างลับๆ ได้อย่างไร อีกอย่าง ฉู่หลิวเยว่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องนี้หรือขอรับ”

เขาจำได้ว่าหรงเจินและฉู่หลิวเยว่เคยมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน จะมีก็แค่ครั้งที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงวันเกิดขององค์รัชทายาทหรงจิ้นเท่านั้น

ตอนนั้นหรงเจินจงใจทำให้ฉู่หลิวเยว่อับอายต่อหน้าทุกคน แต่ในท้ายที่สุดก็ถูกฉู่หลิวเยว่จัดการไปแล้ว

หรงเจินอาจจะไม่พอใจฉู่หลิวเยว่ตั้งแต่ตอนนั้นก็เป็นได้

ตามลักษณะนิสัยของนางแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่หลังจากเกิดเรื่องราวในครั้งนั้นนางก็แอบไปทำร้ายฉู่หลิวเยว่บ่อยๆ

แต่ตอนนี้นางหายไป แล้วเกี่ยวอันใดกับฉู่หลิวเยว่ล่ะ

ซือเย่จือพูดไม่ออก

เขาไม่สามารถบอกเรื่องที่เมิ้งเหล่ายังมีชีวิตอยู่ให้ซือถิงฟังได้ แต่ซือถิงเป็นคนดื้อรั้น หากตัดสินใจที่จะล้วงลึกลงไปแล้วล่ะก็…

“เรื่องพวกนี้ซับซ้อนมากเกินกว่าที่จะอธิบายได้ในตอนนี้ ถึงอย่างไรมันก็เป็นเรื่องของตระกูลซือ เจ้าแค่ไปถามดูจะเป็นอันใดไป” ซือเย่จือรู้สึกปวดหัวกับเรื่องดังกล่าว “ขอเพียงห้ามให้ฉู่หลิวเยว่รู้ว่าเจ้ากำลังถามเรื่องที่เกี่ยวกับหรงเจินก็พอ . . . ”

“นางต้องรู้แน่นอนอยู่แล้ว”

ซือถิงกล่าวอย่างมั่นใจ

ฉู่หลิวเยว่ฉลาดกว่าที่คิด และหลายครั้งก็เดาไม่ออกว่านางคิดอันใดอยู่

“ท่านพ่อ ข้าเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับฉู่หลิวเยว่มาสองสามเดือนแล้ว และข้าก็รู้เรื่องของนางมาบ้าง ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนางจริงๆ นางจะตื่นตัวทันทีที่ข้าพูด ในทางกลับกัน ถ้ามันไม่สำคัญจริงๆ การซักถามอย่างกะทันหันดังกล่าวต้องกระตุ้นความสงสัยของนางอย่างแน่นอน”

ดังนั้นการพยายามค้นหาข่าวจากฉู่หลิวเยว่นั้นจึงไม่มีประโยชน์

ซือเย่จือเอนหลังพิงเก้าอี้พลางครุ่นคิด

เขารู้ว่าสิ่งที่ซือถิงพูดนั้นก็มีเหตุผล

แต่จะทำอย่างไรได้?

เปลี่ยนคนหรือ เขาไม่วางใจจริงๆ

ซือถิงมองมาที่เขา ดวงตาของเขาเคร่งขรึม

“ท่านพ่อ ฉู่หลิวเยว่ได้รับเลือกจากรองแม่ทัพมู่ ท่านจะเอาทั้งตระกูลซือไปเสี่ยงเพื่อเห็นแก่จักรพรรดินีและองค์รัชทายาทจริงๆ หรือ”

ซือเย่จือนิ่งไป!

มู่ชิงเห่อกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้าน

ปีศาจแดงยืนเบื่อที่หน้าต่าง มันหวีขนของมันเป็นครั้งคราว

บาดแผลจากการต่อสู้ครั้งก่อนหายดีแล้ว แต่ก็รู้สึกว่ามันยังคงส่งผลต่อภาพลักษณ์ ดังนั้นมันจึงอยู่นิ่งๆ และคิดว่าจะออกไปหลังจากที่มันหายดีแล้ว

“ล้มเหลวเพื่อเพิ่มประสบการณ์ ข้าสอนคำนี้กับเจ้ามาหลายคราแล้ว เจ้าก็ไม่ฟัง สุดท้ายเจ้าก็ต้องทนทุกข์ทรมานเอง”

มู่ชิงเห่อค่อยๆ เหลือบมองปีศาจแดง และรินชาให้ตัวเอง

เมื่อปีศาจแดงได้ยินคำนั้น มันก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน

มู่ชิงเห่อมองไปที่ควันสีขาวที่ลอยขึ้นมา สีหน้าของเขาไร้ความรู้สึก

“ตอนนี้เจ้าเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับเจ็ด เจ้าก็กล้าที่จะต่อสู้กับอสูรร้ายศักดิ์สิทธิ์แล้วหรือ”

ปีศาจแดงตัวแข็งทื่อ ตั้งแต่ต้นจนจบที่มู่ชิงเห่อเอ่ยมานั้นมันไม่ขยับตัวเลยสักนิด!

มู่ชิงเห่อรู้ได้อย่างไร?

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของมัน มู่ชิงเห่อก็หรี่ตาลง

“ดูแล้วต้องใช่แน่ๆ” ถูกหลอกแล้ว!

ปีศาจแดงเมื่อเข้าใจก็รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

สิ่งที่มู่ชิงเห่อเอ่ยออกมาเป็นเพียงการคาดเดาของเขาเพื่อหลอกปีศาจแดงเท่านั้น!

ปีศาจแดงจ้องไปที่มู่ชิงเห่ออย่างโกรธเคือง

ทุกครั้งที่สิ่งนี้เกิดขึ้น มันจะทรยศต่อนายของไม่ช้าก็เร็วเสมอ!

มู่ชิงเห่อหยิบแก้วน้ำชาขึ้นมาและค่อยๆ ถูมันในมือของเขา

ก่อนที่ฉู่หลิวเยว่จะเอ่ยปากถาม จู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดจากด้านใน และทางเข้าก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน

ปีศาจแดงโบกกระพือปีกอย่างรวดเร็ว กระตุ้นฉู่หลิวเยว่ให้รีบเข้าไป

มุมปากของฉู่หลิวเยว่กระตุกเล็กน้อย นางยกเท้าขึ้นและเดินไปทางนั้นทันที

หลังจากเดินผ่านห้องโถงและทางเดิน ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็มาถึงประตูห้อง

ประตูห้องค่อยๆ เปิดออก และมู่ชิงเห่อกำลังนั่งดื่มชาอยู่ด้านใน

ฉู่หลิวเยว่ลังเลที่เอ่ยขออนุญาต แต่ไม่ทันเพราะมู่ชิงเห่อเอ่ยปากโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาก่อน

“เข้ามาได้”

จากนั้นฉู่หลิวเยว่จึงเข้าไปด้านในพร้อมกับปีศาจแดง

“เข้าเฝ้ารองแม่ทัพมู่”

หลังจากมีครั้งแรกแล้ว ต่อมาเวลาจะพูดกับมู่ชิงเห่ออีก มันก็กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากแล้ว

เมื่อฉู่หลิวเยว่เอ่ยจบ มู่ชิงเหอก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น

“ถ้าเจ้ารู้สึกว่าการอยู่ที่นี่มันน่าเบื่อ ก็จงตั้งใจฝึกฝนเถิด”

ฉู่หลิงเยว่ตกตะลึงครู่หนึ่งก่อนที่จะรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นมุ่งเป้าไปที่ปีศาจแดงไม่ใช่นาง

ปีศาจแดงกลอกตาด้วยความไม่พอใจ มันได้ยินคำนี้มานับครั้งไม่ถ้วน และถ้าหากมันอารมณ์ดีมันก็อาจจะรับฟัง

แต่ตอนนี้นางอยู่ที่นี่แล้ว!

แบบนี้จะโดนไล่ได้อย่างไร?

ปีศาจแดงค่อยๆ ลงไปยืนข้างมู่ชิงเห่อก่อนจะหยิบแก้วน้ำชาของมู่ชิงเห่อขึ้นยกดื่ม

เกือบครึ่งหนึ่งของหัวมันจุ่มลงไปในนั้น หลังจากดื่มจนพอแล้ว มันก็เงยหน้าขึ้นสะบัดส่ายหัวอย่างรุนแรง ทำให้น้ำชากระเด็นไปทั่ว

มู่ชิงเห่อมองอย่างตักเตือนมัน

ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็เอ่ยถามออกมา

“ท่านรองแม่ทัพมู่ ที่ข้ามาที่นี่เพราะข้ามีเรื่องจะปรึกษาหารือกับท่าน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์