เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1060

เยี่ยนชิงรีบย่ำเท้าไปหาฉู่หลิวเยว่และเตรียมจะเอ่ยปาก แต่กลับเห็นแม่นางฝั่งตรงข้ามพลันก้าวเท้าออกมาเสียก่อน

“ข้าน้อยมีนามว่าตู๋กูเยว่ ขอคารวะใต้เท้าเยี่ยนชิงเจ้าค่ะ”

ฉู่หลิวเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้มหวานจนใบหน้า และโค้งคำนับให้เขาไปพลาง

เยี่ยนชิงถึงกับเขาอ่อนและแทบจะทรุดลงกับพื้น

“นี่ท่าน…”

เขาพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้พูดอันใด ก็พลันเหลือบไปเห็นประกายวิบวับในดวงตากลมดำขลับของฉู่หลิวเยว่เสียก่อน

ดวงตาที่สุกใสแพรวพราวดั่งดวงดาราคู่นั้น เปล่งประกายระยิบระยับออกมาอย่างชัดเจน

จนเยี่ยนชิงสำลักน้ำลายตัวเอง และรีบกลืนคำพูดที่เหลือลงคอทันควัน

เขาคร่ำครวญอยู่ในใจ

เดิมทีมันควรจะเป็นองค์ชายที่เสด็จมาที่นี่ แต่จู่ๆ เขาก็ถูกเจียงจื่อหยวนรั้งไว้

ครั้นได้ยินว่ามันเกี่ยวกับสำนักวิชา องค์ชายก็ถึงกับหยุดฝีเท้าแล้วส่งเขามารับหน้าก่อน

เยี่ยนชิงคิดไว้ตั้งนานแล้วว่า หลังจากรู้เรื่องพวกนี้ ฉู่หลิวเยว่จักต้องไม่พอใจแน่นอน นางอาจจะโมโหแล้วโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หรืออาจตำหนิติเตียน…

แต่คิดไม่ถึงว่านางจักนิ่งเฉยและปกปิดสถานะของตัวเองเช่นนี้!?

หากแต่ท่าทีแบบนี้นี่สิ น่ากลัวกว่าปฏิกิริยาเหล่านั้นเสียอีก!

เยี่ยนชิงยืนคร่ำครวญในใจอยู่พักหนึ่ง

ถ้ารู้แบบนี้เขาน่าจะรอมาพร้อมองค์ชายดีกว่า!

ไฉนตอนนี้เขาถึงกลายเป็นตัวรับกระสุน[1]ไปได้?

จากนั้นหลายๆ คนในห้องก็เริ่มสังเกตเห็นบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างคนทั้งสอง

หูหยางจ้องมองพวกเขาทั้งสองคนสลับไปมา และถามอย่างลังเลว่า

“… ใต้เท้าเยี่ยนชิง ท่านรู้จักคุณหนูตู๋กูด้วยหรือ?”

เยี่ยนชิงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

“… ระ…รู้จัก…”

“เมื่อก่อนข้าเคยพบใต้เท้าเยี่ยนชิงมาแล้วสองสามครา แต่ตอนนั้นข้ามิทราบเรื่องภูมิหลังของใต้เท้า

เยี่ยนชิง กระทั่งวันนี้ข้าถึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้วตำแหน่งของใต้เท้านั้นพิเศษเพียงใด”

ฉู่หลิวเยว่ตอบกลับทันที รอยยิ้มพิมพ์ใจนั่นยังคงประดับอยู่บนใบหน้า ชวนให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย

แต่พอคนรอบข้างได้ยินประโยคนี้ ก็ล้วนตกอกตกใจราวได้ยินเสียงฟ้าผ่า!

…ตู๋กูเยว่รู้จักใต้เท้าเยี่ยนชิง?

บุรุษผู้เป็นดั่งสหายคนสนิทของโอรสสวรรค์!

และมีสถานะสูงส่ง ถึงขั้นที่ว่าสามารถปลิดชีพคนในพระราชวังเมฆาสวรรค์ได้ในพริบตา!

เยี่ยนชิงหางตากระตุกอย่างแรง

ทุกคำพูดของฉู่หลิวเยว่ราวกับจับเขาขึ้นไปหิ้งแล้วเผาทิ้งอย่างใดอย่างนั้น!

หลินเทียนเฟิงมองภาพนั้นด้วยความประหลาดใจ และทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบขึ้นในหัวของเขา!

ประเดี๋ยวก่อน!

ตู๋กูเยว่เป็นคนนอกพรมแดน นางย่อมมิเคยมาเยือนอาณาจักรเสิ่นซวี่

หมายความว่าพวกเขาน่าจะรู้จักกันตั้งแต่นอกพรมแดนแล้วใช่หรือไม่?

หากสังเกตปฏิกิริยาของทั้งสองคนดีๆ โดยเฉพาะท่าทีของใต้เท้าเยี่ยนชิง ก็จะเห็นว่าพวกเขาไม่เหมือนคนที่เคยพบกันแค่สองสามครั้งเลย

หรือว่า…

ในใจของหลินเทียนเฟิงเริ่มคาดเดาบางอย่างที่เกินความเป็นจริง

แต่มันดูไร้แก่นสารเกินไป แค่คิดเล่นๆ หัวใจของเขาก็สั่นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้แล้ว

เขาเผลอหันไปมองหลินจือเฟย แต่กลับเห็นว่าหลินจือเฟยกำลังจับสังเกตคนทั้งสองอย่างตาไม่กะพริบ

สายตาจากผู้คนที่อยู่รอบๆ ทำให้เยี่ยนชิงแสบร้อนไปทั่วแผ่นหลัง

เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

“…คุณหนูตู๋กู ข้าขออนุญาตพูดกระไรสักนิด ได้หรือไม่?”

ห้องโถงกว้างที่เงียบอยู่แล้วพลันเงียบกริบยิ่งกว่าเดิม

คนอย่างเยี่ยนชิงเนี่ยนะ?

หากว่าตามตำแหน่งของเขาแล้ว เขาจะต้องพูดจาสุภาพสตรีบ้านๆ เพียงนี้เชียวหรือ!?

ทว่าอีกนัยหนึ่ง มันไม่ใช่แค่ความสุภาพ แต่ยังแฝงด้วยการวิงวอนขอร้องอีกต่างหากโนเวลพีดีเอฟ

ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกตะลึง

ทว่ามีเพียงฉู่หลิวเยว่ผู้กุมความลับทุกอย่างเท่านั้น ที่มิได้แสดงท่าทีประหลาดใจใดๆ รอยยิ้มสวยกดยิ้มลึกลงกว่าเดิม

“ได้สิ”

เยี่ยนชิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะผายมือไปอีกทาง

“เช่นนั้นก็เชิญทางนี้”

คงไม่ใช่…อย่างที่พวกเขาคิดหรอกนะ?

“เยี่ยนชิงผิดไปแล้ว คุณหนูหลิวเยว่โปรดลงโทษข้าน้อยด้วยเถิด!”

ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในห้องที่อยู่เยื้องๆ กัน เยี่ยนชิงก็พลันคุกเข่าลงข้างหนึ่ง แล้วสารภาพผิดออกมาไม่หยุด

ฉู่หลิวเยว่แสร้งทำตาโตราวประหลาดใจ

“นี่ใต้เท้าเยี่ยนชิงคิดจะทำอันใด? โปรดรีบลุกขึ้นเถิด! อย่าได้คุกเข่าให้ข้าเช่นนี้! หากคนนอกรู้เข้า มันจะดูไม่เหมาสมเอานะเจ้าคะ?”

เยี่ยนชิงแทบร้องไห้ทั้งน้ำตา พลางขอร้องอ้อนวอน

“ได้โปรดอย่าแกล้งข้าน้อยเลยนะขอรับ ก่อนหน้านี้ที่ท่านปิดบัง จริงๆ แล้วข้าน้อยไม่มีทางเลือก…”

“โอ้? ไม่มีทางเลือกหรือ? เช่นนั้น นายของเจ้าก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกันหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

เยี่ยนชิงถึงกับสำลัก

“หากข้าไม่มา เช่นนั้นโอรสสวรรค์คงจะเลือกสามพระตำหนักหกหมู่เรือน [2] แล้วอยู่กินกันอย่างมีความสุขในวังแห่งนี้ไปแล้วใช่หรือไม่? หืม?”

“เอ่อ…ท่านเข้าใจผิดแล้ว…”

“หวนอ้วนเยี่ยนผอม [3]มีสาวงามมากหน้าคร่าตาเต็มวังเช่นนี้ หากข้าเป็นบุรุษ เพียงมองหน้าก็หวั่นไหวแล้ว”

เยี่ยนชิงกดดันจนแทบหายใจไม่ออก

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยากด่าผู้เป็นนายมาก

เหตุใดเจ้าถึงต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่ไม่ได้ก่อเช่นนี้!?

เยี่ยนชิงปวดหัวสุดๆ

“คุณหนูหลิวเยว่ เดิมทีองค์ชายจะมารับท่านด้วยตนเอง แต่เขาจำต้องพบคุณหนูใหญ่เจียงครู่หนึ่ง องค์ชายจึงขอให้ข้ามารับท่านก่อน ข้าว่าการพักผ่อนในตำหนักเฟิ่งเหอคงไม่น่าอภิรมย์นัก เช่นนั้นท่านขึ้นไปวังด้านบนกับข้าก่อน ดีหรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่ยืนกุมมือทั้งสองข้าง ริมฝีปากบางแสยะยิ้มเบาๆ

“คุณหนูใหญ่เจียงหรือ?”

[1] ตัวรับกระสุน หรือ เป็นการอุปมาถึงทหารชั้นผู้น้อยที่ถูกผู้เป็นนายใช้เป็นเกาะกำบัง

[2] สามพระตำหนักหกหมู่เรือน เป็นการอุปมาเรื่องจำนวนอาคารและจำนวนพระสนมที่จักรพรรดิครอบครอง

[3] หวนอ้วน เยี่ยนผอม เป็นสำนวนที่หมายถึง สตรีที่มีความงามและรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป ( กล่าวถึงพระนางหยางกุ้ยเฟย(สมัยถัง)ที่มีรูปร่างอวบอิ่มเจ้าเนื้อ กล่าวถึงพระนางจ้าวเฟยเยี่ยน(สมัยฮั่น)ที่มีรูปร่างผอมบาง สะโอดสะอง)

—————————-

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์