เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1076

“ด่านที่สองนั้นง่ายมาก”

หรงซิวยกมือขึ้น

ทันใดนั้นกลางอากาศก็มีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้น!

ทันใดนั้นก็มีร่างสีขาวขนาดยักษ์ราวกับหิมะ ค่อยๆ เดินออกมา!

นั่นคือสิงโตขาวที่แข็งแกร่งตัวหนึ่ง!

มันมีขนสีขาวทั่วร่าง มีเพียงดวงตาทั้งสองเท่านั้นที่เป็นสีครามเปล่งประกายเย็นยะเยือก!

ลมปราณของมันทำให้คนที่อยู่รอบข้างสะพรึง!

มันเดินก้าวไปหาหรงซิว อุ้งเท้าของมันเหยียบลงพื้น และเดินออกมาอย่างไร้เสียง

กรงเล็บที่แหลมคมสามารถมองเห็นได้รางๆ

มันเดินไปนอนอยู่ข้างกายหรงซิวอย่างเชื่อฟัง

แววตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยจิตสังหาร และแรงกดดัน มันกวาดสายตามองลงมา! ราวกับมองมดปลวก!

ไม่ว่ามันจะมองผ่านไปที่ใด คนก็รู้สึกหนาวสั่นสะท้าน!

พวกเขากลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว!

…นี่คืออสูรศักดิ์สิทธิ์!

อีกทั้งยังเป็นระดับสูง!

“เสวี่ยเสวี่ยเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ทำพันธสัญญากับข้า”

หรงซิวลูบหัวเสวี่ยเสวี่ยด้วยมือข้างเดียว แล้วพูดขึ้นด้วยท่าทางสบายๆ

“ใครที่สามารถปราบมันได้ ถือว่าสามารถผ่านเข้ารอบ!”

ภายในท้องพระโรง ทันใดนั้นก็มีเสียงลมปราณเย็นๆ ดังออกมา!

อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ทำพันธสัญญากับฝ่าบาท!

ตามข่าวลือบอกว่ามันทั้งโหดเหี้ยมดุร้าย ฝีมือแข็งแกร่งอย่างมาก!

ต้องบอกก่อนว่า หากต้องการจะปรับมันนั้นยากมากแค่ไหน!

ถ้าคนมีฝีมืออ่อนด้อย เข้าไปแล้วเกรงว่าจะรนหาที่ตาย!

ผู้หญิงเหล่านั้นเริ่มมีใบหน้าซีดขาว ตัวสั่นระริก

เดิมทีคิดว่าการเข้าร่วมคัดเลือกพระชายา คือการคัดเลือกจากฐานะของต้นตระกูล พรสวรรค์ หน้าตา

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ฝ่าบาทจะใช้วิธีการเช่นนี้ในการคัดเลือก!?

“พระเจ้า นั่นมันอสูรศักดิ์สิทธิ์ ตามข่าวลือบอกว่าฝีมือของมันนั้นเทียบเท่าได้กับผู้แข็งแกร่งระดับเทพ! ตอนนี้ข้าเพิ่งเป็นจอมยุทธระดับแปดขั้นสูงสุดเท่านั้น จะเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้อย่างใด?!”

“ข้าอยู่ระดับเก้าก็ไม่กล้า…ไม่รู้จริงๆ ว่าฝ่าบาทคิดอันใดอยู่…”

“หากข้ามีพันธสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์มันจะง่ายขึ้นไม่น้อยเลย”

“พูดน่ะมันง่าย แล้วจะมีอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ง่ายๆ ที่ไหนกัน?”

“คนธรรมดาอย่างพวกเรา ไม่ต้องคิดถึงตำแหน่งพระชายาเลย ต้องเป็นเผ่าที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ถึงจะมีคุณสมบัตินี้…อย่างเช่นคุณหนูใหญ่เจียงคนนั้น ได้ยินมาว่าตอนนางอายุสิบขวบ ประมุขราชวังเมฆาสวรรค์ได้จับลูกอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่งให้นางทำพันธสัญญาด้วย! โชคชะตาเช่นนี้ พวกเราจะสู้ได้อย่างใด!”

คนจำนวนไม่น้อยเริ่มกระซิบกระซาบกัน

เจียงจื่อหยวนถอนหายใจออกมา

เสวี่ยเสวี่ย?

เช่นนั้นก็ดี

ด้านหนึ่งอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่นางทำพันธสัญญาด้วย ฝีมือไม่ได้ต้อยต่ำไปกว่าเสวี่ยเสวี่ยสักเท่าใด

ส่วนอีกด้านหนึ่ง นางรู้จักกับเสวี่ยเสวี่ยมานาน หากจะต้องต่อสู้กับมัน ก็นับว่าเป็นเรื่องที่สบายมาก

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงจื่อหยวนจึงเดินก้าวเข้ามาคนแรก

“ฝ่าบาท ข้าขอลองเป็นคนแรก!”

เมื่อมองไปที่เสวี่ยเสวี่ยที่นอนอยู่ข้างเท้าของหรงซิว

ฉู่หลิวเยว่อดกระตุกริมฝีปากไม่ได้

ที่แท้ก่อนหน้านี้ที่มันจากไป ก็เพราะต้องออกโรงในตอนนี้หรือ?

ไม่รู้จริงๆ ว่าถ้าคนพวกนี้รู้ว่า ตอนกลางคืนสิงโตขาวตัวนี้เลียหน้านาง ออดอ้อนนาง ต้องการจะนอนกอดนาง…พวกเขาจะทำหน้ากันอย่างใด

เมื่อเห็นเจียงจื่อหยวนจะสาวเท้าขึ้นไปคนแรก

ฉู่หลิวเยว่จึงรีบหลีกทางให้อย่างรวดเร็ว

ในตอนนั้นเสวี่ยเสวี่ยก็มองมาทางนางในแววตาเศร้าสร้อย มันคิดว่านางจะขึ้นมาเป็นคนแรก…

ถ้านางลงมือก่อน ด่านที่สองก็จะเสร็จสิ้นเลยทันทีไม่ใช่หรือ!?

ถ้าเป็นอย่างนี้มันก็จะต้องทนทรมานต่อไป

ฉู่หลิวเยว่ทำเป็นมองไม่เห็น

จากนั้นก็ยิ้มให้กับเจียงจื่อหยวนอย่างสุภาพ

“คุณหนูใหญ่เจียง เชิญ…”

เมื่อพูดจบนางก็กลับไปนั่งที่เดิมของตนเอง ท่าทางสงบ และเรียบเฉย

เสวี่ยเสวี่ยเงยหน้ามองนายท่านของตนเองอย่างเงียบๆ

หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าจะต้องมาพัวพันกับเรื่องเหล่านี้หรือ?

เหอะ!

หรงซิวชำเลืองมองมันด้วยสายตาเรียบเฉย

ตะโกนสามรอบถึงจะกลับมา ไม่รู้ว่าเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ของใครกันแน่?

พลังดั้งเดิมเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นเชือกสีน้ำเงินหกเส้น พร้อมพุ่งไปทางเสวี่ยเสวี่ย และคลุมตัวมันไว้ทั้งหมด!

เพียงชั่วพริบตาเดียว เชือกทั้งหกเส้นนั้น ก็ลอยอยู่เหนือตัวเสวี่ยเสวี่ยแล้ว อีกทั้งด้านในยังมีแสงสว่างส่องออกมา ก่อนจะกลายเป็นสัญลักษณ์ประหลาดอย่างรวดเร็ว!

“สัญลักษณ์ของตระกูลเจียงแห่งเซียนสุ่ยหลิง!”

เสียงอุทานดังขึ้นจากในกลุ่มคน

“ดูจากสถานการณ์แล้ว นางจะต้องทำได้อย่างแน่นอน! คาดไม่ถึงว่าสัญลักษณ์ของตระกูลก็ถูกเรียกออกมาแล้ว!”

“เป็นหนึ่งในท่าไม้ตายของเซียนสุ่ยหลิง มันดูเหมือนเรียบง่าย แต่ความจริงแล้วพลังของผนึกนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก! ตามข่าวลือกล่าวว่าต่อให้ผู้ต่อสู้จะแข็งแกร่งกว่าหนึ่งขั้น ผู้บำเพ็ญเพียรที่จะใช้กระบวนท่านี้เพื่อจับตัวฝ่ายตรงข้าม! แล้วสู้กลับ!”

“กระบวนท่านี้เหมาะสำหรับด้านนี้พอดีเลย!”

“หากเจียงจื่อหยวนสามารถชนะได้คนแรก เช่นนั้นคนที่เหลือก็ไม่จำเป็นจะต้องขึ้นไปแล้ว…”

เจียงจื่อหยวนหันไปมองทางเสวี่ยเสวี่ย

“เสวี่ยเสวี่ย หากเจ้ายอมแพ้ในตอนนี้ข้าก็จะหยุดมือ”

เมื่อเป็นแบบนี้มันจะดีต่อพวกเขาทั้งคู่

เสวี่ยเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมอง แววตาฉายประกายความดูถูก

ยอมแพ้?

นางประเมินตัวเองสูงไปละมั้ง?

ล้อมหกเสา?

ของเล่นอันใดกัน?

เสวี่ยเสวี่ยกางกรงเล็บ แล้วเหวี่ยงมันอย่างดุเดือด!

ลำแสงจำนวนมากมายตัดผ่าน!

พรึ่บๆ!

ชั่วพริบตาเดียวทุกคนก็ได้ยินเสียงของอันใดบางอย่างถูกตัด!

หลังจากนั้นพวกเขาก็เห็นว่าที่อยู่เหนือศีรษะของเสวี่ยเสวี่ย ถูกตัดออกไปแล้ว!

ลำแสงเหล่านั้นที่อยู่ด้านบนก็จางไปอย่างรวดเร็ว!

เลือดของเจียงจื่อหยวนไหลทะลักออกมาบริเวณช่วงท้องและหน้าอก!

ฝีเท้าของนางซวนเซ เกือบจะล้มลงแล้ว!

นางมองไปที่เสวี่ยเสวี่ยอย่างตกใจ…เหตุใดฝีมือของมันถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้!?

เสวี่ยเสวี่ยกัดฟันกรอด

แล้วตะปบอุ้งเท้าลงไป!

…คิดว่าข้ากินทรายสีเหลืองไปโดยเปล่าประโยชน์หรือ!?

—————————-

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์