เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1082

ในที่สุดเจียงเห่อเทียนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป พุ่งตัวมาพยุงเจียงจื่อหยวน จากนั้นก็พานางลงไป

“จื่อหยวน เจ้าเป็นอย่างใดบ้าง?”

เจียงจื่อหยวนเช็ดเลือดที่มุมปากของตนเอง

แน่นอนว่านางบาดเจ็บสาหัส!

การคัดเลือกพระชายาผ่านไปแล้วสองรอบ อีกทั้งที่หนึ่งของสองรอบนั้น ผู้ที่ชนะล้วนเป็นตู๋กูเยว่!

ด้วยผลคะแนนดังกล่าว ต่อให้ตู๋กูเยว่ไม่ได้รับตำแหน่งพระชายา แต่นางสามารถอยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์ต่อได้อย่างแน่นอน!

เมื่อคิดว่าหลังจากนี้จะต้องได้เจอหน้านางทุกวัน เจียงจื่อหยวนก็รู้สึกหนักใจอย่างยิ่งแล้ว

ตอนแรกนางแค่ไม่ชอบขี้หน้าของตู๋กูเยว่ แต่ตอนนี้นางขยะแขยงอีกฝ่ายเต็มทน!

เจียงเห่อเทียนรีบสั่งให้หมอเทวดาจับชีพจรของเจียงจื่อหยวน

“ซู่เหล่า จื่อหยวนเป็นอย่างใดบ้าง?”

เมื่อเห็นซู่เหล่าขมวดคิ้ว เจียงเห่อเทียนถามคนอย่างกังวลใจ

ซู่เหล่าถอนหายใจออกมา

“คุณหนูใหญ่ไม่ได้บาดเจ็บถึงชีวิต แต่นางบาดเจ็บภายใน เกรงว่าจะต้องใช้เวลาครึ่งเดือนกว่าจะหายดี”

“เป็นไปได้อย่างใด?”

เจียงเห่อเทียนตกใจอย่างมาก

“เมื่อครู่จื่อหยวนได้วางอาณาเขตเทพเซียน อีกทั้งด้านหน้ายังมีไหมคงวายุขวางอยู่ แม้ว่าอินทรีสามตาจะแข็งแกร่งมาก แต่ไม่ควรจะทำให้นางเจ็บสาหัสขนาดนี้สิ!”

“นี่มัน…”

ซู่เหล่าเหลือบสายตามองไปยังเจียงจื่อหยวน

“คุณหนูใหญ่น่าจะรู้ตัวดี…”

“อินทรีสามตาตอนนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ”

เจียงจื่อหยวนหลับตาลง จากนั้นก็ดึงมือของตัวเองกลับ และพยายามทำเสียงให้เงียบที่สุด

แม้ว่านางจะโมโหและไม่ยินยอม แต่นางก็ไม่ลืมว่าที่นี่คือ ตำหนักศักดิ์สิทธิ์

คนจำนวนนับไม่ถ้วนลอบมองจากด้านข้าง

“มันแข็งแกร่งกว่ากษายะหางวายุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

ในขณะที่นางนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ร่างกายของนางก็ยังคงสั่นเทาอยู่เล็กน้อย

ในตอนที่อินทรีสามตาลงมือโจมตี แรงคุกคามที่รุนแรงทำให้นางสัมผัสได้ถึงไอแห่งความตาย!

“เป็นไปไม่ได้!”

เจียงเห่อเทียนรู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น

“อินทรีสามตาก็เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ตามหลักการแล้วมันไม่มีทางแข็งแกร่งกว่ากษายะหางวายุ…”

แต่เขาก็รู้ว่า เจียงจื่อหยวนไม่มีทางพูดโกหก

ซู่เหล่าเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กดเสียงลงต่ำ

“ประมุข ผู้บำเพ็ญเพียรหนึ่งคนสามารถทำพันธสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้เพียงหนึ่งตัว เห็นได้ชัดว่าตู๋กูเยว่ผู้นี้มีปัญหา ไม่แน่ว่าอินทรีสามตาตัวนี้…แต่ซ่อนอันใดแปลกๆ ไว้”

เจียงเห่อเทียนขมวดคิ้ว แล้วรีบส่ายหน้า

“ช่างเถอะ เจ้าช่วยรักษาจื่อหยวนก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที”

“ขอรับ”

ฉู่หลิวเยว่ประสานมือคำนับไปทางเซียนสุ่ยหลิง พร้อมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณคุณหนูใหญ่เจียงที่ออมมือ”

เจียงจื่อหยวนกัดฟันกรอด แต่ก็ไม่ได้ทำอันใดนาง ปล่อยให้นางผยองไปก่อน!

ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตาไปรอบข้าง นางก็เลิกคิ้วแล้วยิ้มเบาๆ

“ไม่ทราบว่ายังมีท่านไหนอีกบ้างที่ไม่ยอมรับกับผลลัพธ์การประลองเช่นนี้? ทุกท่านสามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ ข้าจะเล่นกับพวกท่านให้ถึงที่สุด!”

บรรยากาศเงียบงัน

ล้อเล่นกันแล้ว!

แม้กระทั่งเจียงจื่อหยวนยังถูกทุบตีขนาดนั้น ยังจะมีคนไม่มีตาบุกขึ้นไปอีกหรือ? นั่นไม่ใช่รนหาที่ตายให้ตัวเองหรือ!?

อสูรศักดิ์สิทธิ์สองตัว…คนธรรมดาจะทำได้หรือ!?

“ดูเหมือนทุกคนจะไม่ได้คัดค้าน”

หรงซิวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้านบน พูดขึ้นอย่างเฉื่อยชา

“เช่นนั้นที่หนึ่งของทั้งสองด่านก็คือคุณหนูตู๋กู”

ในตอนนั้นทุกคนมีสีหน้าแตกต่างกัน แต่ไม่มีใครพูดอันใดเลย

ทันใดนั้นหรงซิวก็ลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน ทุกคนมองมาที่นี่ด้วยสายตาแปลกประหลาด

เจียงเห่อเทียนกำหมัดกรอด

เขาสามารถมองออกว่า หรงซิวสนใจตู๋กูเยว่ ไม่เช่นนั้นเมื่อครู่นี้พระองค์คงไม่ยืนการให้นางเข้าร่วมการประลองคัดเลือกพระชายา

แต่เขาคิดไว้เสมอว่า ต่อให้ตู๋กูเยว่แสดงผลงานดีแค่ไหน หรงซิวก็จะมอบเพียงตำแหน่งพระสนมให้นาง ตำแหน่งพระชายานั้นนางไม่มีคุณสมบัติ

ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นตู๋กูเยว่อยู่ในสายตา

แต่ใครจะคิดเล่าว่า หรงซิวไม่เพียงเลือกนาง แต่ยังให้นางเป็นพระชายา!

แล้วนี่จะให้เซียนสุ่ยหลิงของพวกเขารับได้อย่างใด!?

ในตอนนี้เหตุผลนั้นไม่สามารถใช้การได้อีก

เจียงเห่อเทียนจึงรีบเปลี่ยนคำพูด

“ฝ่าบาท แม่นางคนนี้มีที่มาไม่ชัดเจน ต่อให้ท่านต้องการจะเลือกนางเป็นพระชายา แต่ท่านต้องแสดงภูมิหลังของนางให้ชัดเจนเสียก่อนสิพ่ะย่ะค่ะ!?”

ขณะที่พูดเขาก็มองไปยังเซียนสุ่ยหลิง

“หากข้าจำไม่ผิดละก็ ตู๋กูเยว่…ติดตามมาที่นี่กับประมุขตระกูลหลินแห่งหน้าผาแดนสวรรค์ แต่นางไม่ใช่คนของหน้าผาแดนสวรรค์?”

ในตอนนี้หลินเทียนเฟิงยังคงตกใจอยู่ที่ตู๋กูเยว่ได้รับเลือกเป็นพระชายา เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขาจึงไม่ได้ตอบสนองอันใดไป

ริมฝีปากของเจียงจื่อหยวนกระตุกเล็กน้อย ในตอนที่เขากำลังจะพูดขึ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง

“นางไม่ใช่คนของหน้าผาแดนสวรรค์จริงๆ นางเป็นคนมาจากนอกพรมแดน!”

หัวใจของเจียงจื่อหยวนเต้นไม่เป็นจังหวะ จากนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง!

คนที่พูดนั้นคือ โหลวหรูไห่!

ในตอนนั้นเองโหลวหรูไห่ก็เหมือนจะไม่ได้สังเกตถึงสายตาเตือนของเจียงจื่อหยวนเลย

นางลุกขึ้นพรวด แล้วชี้ไปยังฉู่หลิวเยว่ที่ยืนอยู่กลางท้องพระโรง ก่อนจะตะโกนเสียงดังว่า

“นางเป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่มาจากนอกพรมแดนเมื่อไม่กี่วันมานี้!”

ฉู่หลิวเยว่หันไปมองโหลวหรูไห่ แล้วหรี่ตาขึ้น ในใจก็หัวเราะเสียงเย็น นางรู้ว่าเรื่องนี้คงไม่จบได้ง่ายๆ แน่…ข้าก็จะขอรออยู่ตรงนี้

“คนนอกพรมแดน”

เพียงแค่สี่คำนี้หลุดออกมา ทั่วทั้งท้องพระโรงก็เหมือนจะมีระลอกคลื่นใหญ่ถาโถม!

แต่เหมือนกับโหลวหรูไห่ยังไม่พอใจ นางสัมผัสได้ถึงสายตาของฉู่หลิวเยว่ จากนั้นจึงมองกลับด้วยความเย็นชา ก่อนจะมองไปยังตู๋กูโม่เป่าที่อยู่ด้านข้าง

“อีกทั้ง! นางยังไม่ได้แต่งงาน แต่กลับมีลูกแล้วหนึ่งคน!”

—————————-

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์