ในที่สุดเจียงเห่อเทียนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป พุ่งตัวมาพยุงเจียงจื่อหยวน จากนั้นก็พานางลงไป
“จื่อหยวน เจ้าเป็นอย่างใดบ้าง?”
เจียงจื่อหยวนเช็ดเลือดที่มุมปากของตนเอง
แน่นอนว่านางบาดเจ็บสาหัส!
การคัดเลือกพระชายาผ่านไปแล้วสองรอบ อีกทั้งที่หนึ่งของสองรอบนั้น ผู้ที่ชนะล้วนเป็นตู๋กูเยว่!
ด้วยผลคะแนนดังกล่าว ต่อให้ตู๋กูเยว่ไม่ได้รับตำแหน่งพระชายา แต่นางสามารถอยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์ต่อได้อย่างแน่นอน!
เมื่อคิดว่าหลังจากนี้จะต้องได้เจอหน้านางทุกวัน เจียงจื่อหยวนก็รู้สึกหนักใจอย่างยิ่งแล้ว
ตอนแรกนางแค่ไม่ชอบขี้หน้าของตู๋กูเยว่ แต่ตอนนี้นางขยะแขยงอีกฝ่ายเต็มทน!
เจียงเห่อเทียนรีบสั่งให้หมอเทวดาจับชีพจรของเจียงจื่อหยวน
“ซู่เหล่า จื่อหยวนเป็นอย่างใดบ้าง?”
เมื่อเห็นซู่เหล่าขมวดคิ้ว เจียงเห่อเทียนถามคนอย่างกังวลใจ
ซู่เหล่าถอนหายใจออกมา
“คุณหนูใหญ่ไม่ได้บาดเจ็บถึงชีวิต แต่นางบาดเจ็บภายใน เกรงว่าจะต้องใช้เวลาครึ่งเดือนกว่าจะหายดี”
“เป็นไปได้อย่างใด?”
เจียงเห่อเทียนตกใจอย่างมาก
“เมื่อครู่จื่อหยวนได้วางอาณาเขตเทพเซียน อีกทั้งด้านหน้ายังมีไหมคงวายุขวางอยู่ แม้ว่าอินทรีสามตาจะแข็งแกร่งมาก แต่ไม่ควรจะทำให้นางเจ็บสาหัสขนาดนี้สิ!”
“นี่มัน…”
ซู่เหล่าเหลือบสายตามองไปยังเจียงจื่อหยวน
“คุณหนูใหญ่น่าจะรู้ตัวดี…”
“อินทรีสามตาตอนนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ”
เจียงจื่อหยวนหลับตาลง จากนั้นก็ดึงมือของตัวเองกลับ และพยายามทำเสียงให้เงียบที่สุด
แม้ว่านางจะโมโหและไม่ยินยอม แต่นางก็ไม่ลืมว่าที่นี่คือ ตำหนักศักดิ์สิทธิ์
คนจำนวนนับไม่ถ้วนลอบมองจากด้านข้าง
“มันแข็งแกร่งกว่ากษายะหางวายุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
ในขณะที่นางนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ร่างกายของนางก็ยังคงสั่นเทาอยู่เล็กน้อย
ในตอนที่อินทรีสามตาลงมือโจมตี แรงคุกคามที่รุนแรงทำให้นางสัมผัสได้ถึงไอแห่งความตาย!
“เป็นไปไม่ได้!”
เจียงเห่อเทียนรู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น
“อินทรีสามตาก็เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ตามหลักการแล้วมันไม่มีทางแข็งแกร่งกว่ากษายะหางวายุ…”
แต่เขาก็รู้ว่า เจียงจื่อหยวนไม่มีทางพูดโกหก
ซู่เหล่าเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กดเสียงลงต่ำ
“ประมุข ผู้บำเพ็ญเพียรหนึ่งคนสามารถทำพันธสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้เพียงหนึ่งตัว เห็นได้ชัดว่าตู๋กูเยว่ผู้นี้มีปัญหา ไม่แน่ว่าอินทรีสามตาตัวนี้…แต่ซ่อนอันใดแปลกๆ ไว้”
เจียงเห่อเทียนขมวดคิ้ว แล้วรีบส่ายหน้า
“ช่างเถอะ เจ้าช่วยรักษาจื่อหยวนก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที”
“ขอรับ”
…
ฉู่หลิวเยว่ประสานมือคำนับไปทางเซียนสุ่ยหลิง พร้อมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณคุณหนูใหญ่เจียงที่ออมมือ”
เจียงจื่อหยวนกัดฟันกรอด แต่ก็ไม่ได้ทำอันใดนาง ปล่อยให้นางผยองไปก่อน!
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตาไปรอบข้าง นางก็เลิกคิ้วแล้วยิ้มเบาๆ
“ไม่ทราบว่ายังมีท่านไหนอีกบ้างที่ไม่ยอมรับกับผลลัพธ์การประลองเช่นนี้? ทุกท่านสามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ ข้าจะเล่นกับพวกท่านให้ถึงที่สุด!”
บรรยากาศเงียบงัน
ล้อเล่นกันแล้ว!
แม้กระทั่งเจียงจื่อหยวนยังถูกทุบตีขนาดนั้น ยังจะมีคนไม่มีตาบุกขึ้นไปอีกหรือ? นั่นไม่ใช่รนหาที่ตายให้ตัวเองหรือ!?
อสูรศักดิ์สิทธิ์สองตัว…คนธรรมดาจะทำได้หรือ!?
“ดูเหมือนทุกคนจะไม่ได้คัดค้าน”
หรงซิวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้านบน พูดขึ้นอย่างเฉื่อยชา
“เช่นนั้นที่หนึ่งของทั้งสองด่านก็คือคุณหนูตู๋กู”
ในตอนนั้นทุกคนมีสีหน้าแตกต่างกัน แต่ไม่มีใครพูดอันใดเลย
ทันใดนั้นหรงซิวก็ลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน ทุกคนมองมาที่นี่ด้วยสายตาแปลกประหลาด
เจียงเห่อเทียนกำหมัดกรอด
เขาสามารถมองออกว่า หรงซิวสนใจตู๋กูเยว่ ไม่เช่นนั้นเมื่อครู่นี้พระองค์คงไม่ยืนการให้นางเข้าร่วมการประลองคัดเลือกพระชายา
แต่เขาคิดไว้เสมอว่า ต่อให้ตู๋กูเยว่แสดงผลงานดีแค่ไหน หรงซิวก็จะมอบเพียงตำแหน่งพระสนมให้นาง ตำแหน่งพระชายานั้นนางไม่มีคุณสมบัติ
ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นตู๋กูเยว่อยู่ในสายตา
แต่ใครจะคิดเล่าว่า หรงซิวไม่เพียงเลือกนาง แต่ยังให้นางเป็นพระชายา!
แล้วนี่จะให้เซียนสุ่ยหลิงของพวกเขารับได้อย่างใด!?
ในตอนนี้เหตุผลนั้นไม่สามารถใช้การได้อีก
เจียงเห่อเทียนจึงรีบเปลี่ยนคำพูด
“ฝ่าบาท แม่นางคนนี้มีที่มาไม่ชัดเจน ต่อให้ท่านต้องการจะเลือกนางเป็นพระชายา แต่ท่านต้องแสดงภูมิหลังของนางให้ชัดเจนเสียก่อนสิพ่ะย่ะค่ะ!?”
ขณะที่พูดเขาก็มองไปยังเซียนสุ่ยหลิง
“หากข้าจำไม่ผิดละก็ ตู๋กูเยว่…ติดตามมาที่นี่กับประมุขตระกูลหลินแห่งหน้าผาแดนสวรรค์ แต่นางไม่ใช่คนของหน้าผาแดนสวรรค์?”
ในตอนนี้หลินเทียนเฟิงยังคงตกใจอยู่ที่ตู๋กูเยว่ได้รับเลือกเป็นพระชายา เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขาจึงไม่ได้ตอบสนองอันใดไป
ริมฝีปากของเจียงจื่อหยวนกระตุกเล็กน้อย ในตอนที่เขากำลังจะพูดขึ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“นางไม่ใช่คนของหน้าผาแดนสวรรค์จริงๆ นางเป็นคนมาจากนอกพรมแดน!”
หัวใจของเจียงจื่อหยวนเต้นไม่เป็นจังหวะ จากนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง!
คนที่พูดนั้นคือ โหลวหรูไห่!
ในตอนนั้นเองโหลวหรูไห่ก็เหมือนจะไม่ได้สังเกตถึงสายตาเตือนของเจียงจื่อหยวนเลย
นางลุกขึ้นพรวด แล้วชี้ไปยังฉู่หลิวเยว่ที่ยืนอยู่กลางท้องพระโรง ก่อนจะตะโกนเสียงดังว่า
“นางเป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่มาจากนอกพรมแดนเมื่อไม่กี่วันมานี้!”
ฉู่หลิวเยว่หันไปมองโหลวหรูไห่ แล้วหรี่ตาขึ้น ในใจก็หัวเราะเสียงเย็น นางรู้ว่าเรื่องนี้คงไม่จบได้ง่ายๆ แน่…ข้าก็จะขอรออยู่ตรงนี้
“คนนอกพรมแดน”
เพียงแค่สี่คำนี้หลุดออกมา ทั่วทั้งท้องพระโรงก็เหมือนจะมีระลอกคลื่นใหญ่ถาโถม!
แต่เหมือนกับโหลวหรูไห่ยังไม่พอใจ นางสัมผัสได้ถึงสายตาของฉู่หลิวเยว่ จากนั้นจึงมองกลับด้วยความเย็นชา ก่อนจะมองไปยังตู๋กูโม่เป่าที่อยู่ด้านข้าง
“อีกทั้ง! นางยังไม่ได้แต่งงาน แต่กลับมีลูกแล้วหนึ่งคน!”
—————————-
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...