ภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์เงียบกริบ
ในขณะนั้นอากาศเหมือนถูกแช่แข็ง เวลาเหมือนหยุดเดิน
ทุกคนต่างสงสัยว่าตัวเองนั้นได้ยินผิดไป
เมื่อครู่นี้ตู๋กูเยว่พูดกับฝ่าบาทว่าอย่างใดนะ?
เด็กคนนั้น…คือ…
คนที่นางต้องการจะตามหา…คือฝ่าบาทอย่างนั้นหรือ!?
หรงซิวกระแอมไอ ถ้าหากเขาไม่พูดออกไปอีก เกรงว่าคนผู้นั้นจะลงมือแล้ว
“ข้านั้นยังไม่ได้แต่งงานอย่างเป็นทางการ…แล้วจะมีลูกได้อย่างใด”
…
เสียงฟ้าผ่ากลางที่ราบ!
ทุกคนต่างชะงักไป ใช้เวลานานกว่าจะได้สติกลับคืนมา
ยอมรับแล้ว…นี่หมายความว่าเขายอมรับแล้ว!?
ความหมายของฝ่าบาท นั้นหมายความว่าเขาคือผู้ชายคนนั้นที่ตู๋กูเยว่ตามหา!
…คู่หมั้นของนาง!?
“ฝ่าบาท!”
สุดท้ายเจียงจื่อหยวนก็ไม่สามารถคงรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและสง่างามของนางเอาไว้ได้ ใบหน้าของนางซีดเผือด แววตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!
“ฝ่าบาท ท่านรู้หรือไม่ท่านกำลังพูดอันใดออกมา!?”
“รู้อย่างแน่นอน”
สายตาของหรงซิวราบเรียบ
“แต่เหมือนว่าคุณหนูใหญ่เจียงจะลืมฐานะของตัวเองไปเสียแล้ว”
ในใจของเจียงจื่อหยวนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าร้อนผ่าว ดั่งไฟเผา นางอายจนแทบอยากจะมุดดินหนี!
เมื่อเจียงเห่อเทียนเห็นนางอยู่ในสถานการณ์ลำบากใจ จึงอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า
“ฝ่าบาท นี่ท่านหมายความว่าอย่างใด? ตู๋กูเยว่นาง…”
“คู่หมั้นที่เยว่เอ๋อพูดถึงนั้น คือตัวข้าเอง”
หรงซิวเอ่ยขัดคำพูดของเจียงเห่อเทียน และตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ดังนั้นคำพูดของนางนั้น ข้าสามารถเป็นพยานให้ได้”
ขณะที่เขาพูด เขาก็จ้องโหลวหรูไห่ตาเขม็ง
“ไม่ทราบว่าข้านั้น มีคุณสมบัติที่จะเป็นพยานหรือไม่?”
…
ผิวหน้าของโหลวหรูไห่ซีดเผือดในทันที!
เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างใด…
มันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างใด!?
ก่อนหน้านี้บอกว่าคู่หมั้นของตู๋กูเยว่เป็นเพียงองครักษ์ตัวเล็กๆ ที่อยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์ไม่ใช่หรือ?
แล้วเหตุใดถึงกลับกลายเป็นฝ่าบาทได้เล่า!?
ต่อให้เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่เขาก็เข้าใจดีว่านี่คือความจริง!
คำพูดของฝ่าบาทยังจะเป็นเรื่องเท็จได้อีกหรือ?
จากนั้นเมื่อพวกเขาลองปะติดปะต่อเหตุการณ์เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นท่าทีระมัดระวังของเยี่ยนชิง หรือว่าตำแหน่งแถวแรก และความสนิทสนมของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก…
เรื่องทั้งหมดนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์แล้ว!
ก่อนหน้านี้พวกเขารู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่ตอนนี้พวกเขากลับคิดว่า มันมีสัญญาณบอกตั้งนานแล้ว!
คนจำนวนไม่น้อยลอบตกใจ ที่แท้คนเหล่านี้ก็คือผู้อาวุโสของพระราชวังเมฆาสวรรค์
ทุกคนจึงทยอยทำความเคารพ
ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งผู้ที่เป็นหัวหน้าโบกมือ จากนั้นก็หันไปมองทางหรงซิว
“ฝ่าบาท ท่านไม่สามารถเลือกตู๋กูเยว่ผู้นี้เป็นพระชายาได้!”
…
สีหน้าของหรงซิวยังราบเรียบเช่นเดิม แต่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
“ผู้อาวุโสทั้งหลายเดินทางมาไกล ลำบากมากแล้ว เรื่องที่ข้าเลือกพระชายา ขึ้นอยู่กับตัวของข้าเอง ไม่ต้องรบกวนผู้อาวุโสทั้งหลายหรอก”
น้ำเสียงของผู้อาวุโสอวี๋จิ้งทั้งเย็นและแข็งกระด้าง
“ตอนนี้ข้าปิดด่านฝึก พระราชวังเมฆาสวรรค์อยู่ในความดูแลของฝ่าบาท เรื่องทุกอย่าง เดิมทีเป็นเรื่องที่ฝ่าบาทตัดสินใจ แต่เรื่องของการเลือกพระชายา เรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้ ฝ่าบาทได้โปรดฟังข้าเสียหน่อยเถอะ”
ขณะที่พูด เขาก็หันไปมองทางฉู่หลิวเยว่ แล้วขมวดคิ้วขึ้น
“คนจากด้านนอกพรมแดน จะมาเป็นพระชายาได้อย่างใด?”
น้ำเสียงของหรงซิวราบเรียบ
“เรื่องที่ข้ากับเยว่เอ๋อรู้จักกันได้อย่างใดนั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึง อีกทั้งเรามีการหมั้นหมายไว้นานแล้ว เพียงแต่ข้ายุ่งกับการจัดการเรื่องราวทางด้านนี้ จึงไม่สามารถนำนางกลับมาพร้อมกันได้ อีกทั้งการคัดเลือกพระชายาในครั้งนี้ นางก็ชนะอันดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือส่วนรวม นางคือพระชายาที่ดีที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้พูดออกไปแล้ว การที่ผู้อาวุโสทั้งหลายมาคัดค้านคำพูดของข้านั้น ข้าจะต้องเชื่อฟังคำพูดของท่านด้วยหรือ?”
“ฝ่าบาทเข้าใจผิดแล้ว! ข้าเพียงครุ่นคิดถึงอนาคตของฝ่าบาทและพระราชวังเมฆาสวรรค์!”
ท่าทางของเขาดื้อรั้นอย่างมาก
“หากฝ่าบาทชอบนางจริงๆ สามารถรับนางเป็นพระสนมได้ สำหรับนางถือเป็นเกียรติอันสูงสุดแล้ว แต่ตำแหน่งพระชายานั้น นาง…ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้!”
หรงซิวยกริมฝีปากขึ้น เหมือนว่ามีแสงสว่างวาบ
จากนั้นเขาก็ค่อยๆ พูดทีละคำ ราวกับประกาศิต
“ชั่วชีวิตนี้ ข้าจะแต่งงานมีภรรยาคนเดียว และคนๆ นั้น…จะต้องเป็นนางเท่านั้น!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...