อ่านสรุป บทที่ 1173 หลงลืม จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บทที่ บทที่ 1173 หลงลืม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บนจัตุรัสอันมีพื้นที่กว้างขวาง พื้นที่ปูด้วยหินหยกขาวแผ่แสงสว่างจางๆ ออกมา
เด็กหนุ่มผู้นั้นรูปร่างสูงโปร่งสง่างาม ดวงหน้าแฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงเรียบเรื่อยไร้กังวล มักพูดลากเสียงท้ายประโยคนิดๆ ฟังดูเอื่อยเฉื่อยเป็นพิเศษ
ถ้าหากดูเพียงสีหน้าของเขาในตอนนี้ ก็คงทำให้ใครต่อใครพากันคิดไปว่าเขากำลังพึมพำเสียงเบาถึงอันใดบางอย่างด้วยความอ่อนโยน ไฉนเลยจะไปคาดคิดว่าเขากำลังกระทืบลงบนร่างของใครอีกคนหนึ่งที่อยู่ใต้เท้าอย่างไร้ปรานี!
อวดดีเป็นบ้า!
คิดจะทำให้เป็นข่าวกระพือไปทั่วหรือไร!
ใจกล้าบ้าบิ่นชะมัด!
คนทุกผู้ที่มองดูฉากนี้กันอยู่ ในใจล้วนอดไม่ได้ที่จะคิดเช่นนี้กันออกมาทั้งนั้น
…เด็กหนุ่มผู้นี้ดูไปแล้วว่าง่ายไร้พิษภัยนัก ทว่าความเป็นจริงแล้วไม่ควรเข้าไปยุแหย่เขาจะเป็นการดีที่สุด!
หลิ่วอินถงคาดคิดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยว่า ตนอุตส่าห์ออกหน้าตักเตือนอย่างรุนแรงไปแล้วแท้ๆ อีกฝ่ายกลับปัดมันออกอย่างไม่ไยดี!
ถึงขั้นที่ว่าทำให้หลิ่วจื่ออันอับอายต่อหน้าสาธารณชนอีก!
เท้านั่นที่ดูเหมือนจะกระทืบหลิ่วจื่ออันอยู่ แต่แท้จริงแล้ว เป้าหมายจริงๆ คือนางต่างหาก!
นางโมโหเสียจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง อดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียงสูงกว่าเดิมจนกลายเป็นแหลมเสียดหูไปอยู่บ้าง
“ฉู่เยว่! ภายในสำนักนี้ อย่างน้อยเจ้าก็ช่วยมีความยับยั้งชั่งใจบ้างเถอะ!”
เมื่อแน่ใจแล้วว่ากระดูกมือของหลิ่วจื่ออันแตกหักไปได้ประมาณหนึ่งแล้ว ฉู่หลิวเยว่ถึงได้ยกเท้าขึ้น
หลิ่วจื่ออันเจ็บปวดเสียจนร้องตะโกนไม่ออกแล้ว ทำได้แค่นอนขดอยู่กับพื้น ทั่วทั้งร่างสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง
เขาบรรยายความรู้สึกเมื่อครู่ออกมาเป็นภาษาคนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ฉู่เยว่มัน…กะทำให้เขาถึงตายจริงๆ!
อีกอย่าง บนร่างของคนคนนี้ ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงได้แฝงไปด้วยการวางตัวที่เหนือการบรรยาย ทำเอาคนมิกล้าดูเบา กระทั่งยามที่สีหน้าของเขาถูกระงับยับยั้งเอาไว้ ก็ทำให้ใครต่อใครยอมสยบอยู่ใต้อำนาจของเขาได้โดยไม่รู้ตัว
เขาที่ถูกกระทืบเสียจนไร้หนทางขัดขืนต่อต้าน เหตุผลหนึ่งก็เพราะว่าได้รับบาดเจ็บ ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะว่าเขาได้รับแรงกดดันมหาศาลอันน่าหวาดหวั่นบนตัวฉู่เยว่เข้าไป!
ฉู่หลิวเยว่ปรายตามองหลิ่วจื่ออันแวบหนึ่ง ก่อนจะเบนสายตากลับมาอย่างพออกพอใจ ก่อนจะเอ่ยแกมหัวเราะว่า
“ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่ศิษย์พี่หญิงหลิ่วพูดออกมาเลยขอรับ ข้าเพิ่งเข้าสำนักมาได้แค่สิบเอ็ดวัน แถมวันที่ว่าข้าก็ถูกขังอยู่ในเขาเฝิงหมินไปแล้วสิบวัน เหตุใดข้าจะไม่รู้ถึงการยับยั้งชั่งใจเล่าขอรับ?”
“เจ้า…”
หลิ่วอินถงขบกรามแน่น
ฉู่เยว่ผู้นี้ ไม่เพียงแต่ยโสโอหังทะนงตัว ยังจะฝีปากดีอีก!
“หลิ่วจื่ออันก็แค่มาขอแลกเปลี่ยนวิชาฝึกปรือฝีมือกับเจ้าเท่านั้น เหตุใดเจ้าต้องทำจนเขาอยู่ในสภาพเช่นนั้น…”
“ข้ากับหลิ่วจื่ออันไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จู่ๆ เขาก็เข้ามาหาข้า นั่นฟังดูแปลกไม่ใช่หรือขอรับ? ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า เพื่อที่เขาจะได้ ‘แลกเปลี่ยน’ วิชากับข้าจนถึงกับเข้ามารอในจวนพำนักของข้าโดยเฉพาะอยู่นานสองนาน…”
รอยยิ้มของฉู่หลิวเยว่เข้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยคำแฝงไปด้วยความนัยอยู่หลายส่วน
“ข้าไม่ทราบจริงๆ ขอรับว่าข้าที่เป็นศิษย์ใหม่เพิ่งเข้าสำนักมาได้ไม่นานอย่างนี้ มีความสามารถใดกันหนอที่ทำให้ศิษย์พี่หลิ่วดึงดันถึงขนาดนี้ เพียงเพื่อให้ข้าประมือด้วยสักรอบหนึ่งเท่านั้น?”
ทุกคนต่างพากันมองไปทางหลิ่วอินถงเป็นตาเดียว
ความจริงแล้วคำพูดนี้ของฉู่หลิวเยว่ก็ชัดเจนในตัวมันเองมากอยู่แล้ว
ที่หลิ่วจื่ออันจงใจมาหาเรื่องนาง ล้วนเป็นเพราะหลิ่วอินถงเป็นคนจุดประกายให้
ส่วนเรื่องเหตุผล…ย่อมเป็นเพราะว่าบนเขาหมื่นเมรัยตอนก่อนหน้านี้ นางแพ้พ่ายให้กับศิษย์น้องเล็กคนหนึ่งที่เพิ่งเข้าสำนักมาใหม่น่ะสิ!
จะดีร้ายอย่างใดก็เป็นถึงอัจฉริยะที่มีอันดับสูงจากงานประลองชิงอวิ๋น ยิ่งไปกว่านั้นปกติแล้วก็มักชอบทำเรื่องทำราวให้ใหญ่โต นิสัยจึงยากจะหลีกเลี่ยงความทะนงตนและอวดดี
หลิ่วอินถงที่เป็นเช่นนี้ จะไปสงวนท่าทีได้อย่างใดไหว?
ทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ความจริงแล้วก็เข้าใจได้ไม่ยากเลยทีเดียว
เพียงแต่นางกลับคาดคิดไม่ถึงว่า ผลลัพธ์ในท้ายที่สุดจะกลับกลายมาเป็นเช่นนี้!
หลิ่วจื่ออันไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการไปสั่งสอนฉู่หลิวเยว่ ไม่พอยังทำให้นางขายขี้หน้าอีก!
สายตาของคนบางส่วนที่มองไปยังหลิ่วอินถงก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยน
เป็นคนไปท้าเขาสู้ก่อน พอแพ้มาก็ไม่ยอมเลิกรา กระทั่งลับหลังยังจงใจใช้แผนการสกปรกเช่นนี้มารังแกผู้อื่นอีก…
ความอดทนที่มีออกจะต่ำไปหน่อยแล้วกระมัง!
นางเองก็คงมองว่าฉู่เยว่เป็นศิษย์เพิ่งเข้ามาใหม่ ไม่มีที่มาที่ไปแน่ชัด ถึงได้กล้ารังแกข่มเหงกันเช่นนี้
หากเปลี่ยนไปเป็นคนที่มีพลังแข็งแกร่งกว่าหรือว่าเก่งกาจในระดับใกล้เคียงกัน นางย่อมมีปฏิกิริยาตอบกลับอีกแบบหนึ่งอย่างแน่นอน
หลิ่วอินถงพลันรู้สึกประหม่าและทำตัวไม่ถูก
สายตาของคนทุกผู้ที่จับจ้องมาทำให้นางรู้สึกกดดันอย่างยิ่งยวด
นางรู้สึกว่าตนนั้นอดทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ท้ายที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงเย็นเยียบออกมา
“ดังนั้น ตอนนี้เจ้าก็ยอมรับแล้วสิว่าที่ทำแบบนี้น่ะก็เพราะจงใจแก้แค้น?”
ฉู่หลิวเยว่คลี่ยิ้มบางเบาพลางเอ่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...