สรุปตอน บทที่ 1231 การประลอง – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 1231 การประลอง ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
จากที่เขาได้รู้จักกับฉู่เยว่มา นี่ย่อมไม่ใช่การจำใบสั่งยาผิด แล้วก็มิใช่การใส่สมุนไพรพลาดด้วย
อธิบายได้อย่างเดียวว่า…เป็นฉู่เยว่ที่แก้ใบสั่งยาเอง!
เจ้าเด็กนี่คิดอันใดอยู่กันแน่!?
ผู้อาวุโสวั่นเจิงกัดฟันกรอดอย่างอดไว้ไม่อยู่
ใบสั่งยาระดับนี้ล้วนแล้วแต่มีความสลับซับซ้อนอย่างยิ่งยวด ถึงขนาดที่ว่าปรับเปลี่ยนปริมาณสมุนไพรเหล่านั้นขนานเดียว ก็สามารถนำไปสู่การปรุงยาล้มเหลวได้ แต่นอกจากนางจะแก้ใบสั่งยาซึ่งๆ หน้าเช่นนี้แล้ว ยังจะโยนสมุนไพรมากหน้าหลายตาใส่ลงหม้ออีก!?
ริมฝีปากของเขาสั่นระริก กว่าจะกลืนคำพูดในลำคอกลับลงไปได้ก็ยากเย็นนัก
ตอนนี้ก็ทำได้แค่นั่งเงียบๆ รอดูความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นแล้ว…
…
ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสวั่นเจิงเท่านั้น เซียนหมอคนอื่นๆ จำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์บัดนี้ล้วนมองออกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“ฉู่เยว่คิดจะปรุงยาบำรุงปราณตั้งต้นสินะ? แต่เหตุใดเมื่อครู่เขาถึงได้ใส่เม็ดบัวเขียวน้ำฟ้าลงไปด้วยเล่า?”
“ยิ่งไปกว่านั้นนะ! สมุนไพรสี่ชนิดที่เขาใส่ลงไปเมื่อครู่ล้วนหาใช่ของในใบสั่งยาไม่…ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาคิดจะทำสิ่งใดกันแน่?”
“ได้ผู้อาวุโสวั่นเจิงกับศิษย์พี่หรงซิวคอยชี้แนะด้วยตัวเอง พูดตามหลักแล้วเขาไม่น่าจะทำผิดพลาดเล็กน้อยเช่นนี้ออกมาได้นี่นา? สีหน้าเขาออกจะนิ่งปานนั้น ดูอย่างใดก็เจตนาทำเองชัดๆ!”
สีหน้าของคนจำนวนมากต่างแสดงออกว่าไม่เข้าใจ
ไม่ว่าระดับของพวกเขาจะสูงหรือต่ำ ทุกคนล้วนเข้าใจหลักการข้อหนึ่งดีว่า…ใบสั่งยามิใช่สิ่งที่จะปรับแก้ได้ตามใจชอบ ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขายังอยู่ในช่วงการประลองที่ตึงเครียดเช่นนี้ด้วย?
ฉู่เยว่ผู้นี้ใจกล้าบ้าบิ่นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
คนจำนวนหนึ่งลอบส่ายศีรษะอยู่ในใจ
“สมุนไพรที่ใช้ในการปรุงยาบำรุงปราณตั้งต้นล้วนแล้วแต่เป็นสมุนไพรฤทธิ์อ่อน พวกผู้ฝึกตนมักรับยาเพื่อเสริมฐานบำรุงราก ระงับและเติมเต็มลมปราณ ทว่าสมุนไพรที่ฉู่เยว่ใส่ลงไปอย่างมั่นอกมั่นใจเมื่อครู่ล้วนแล้วแต่มีฤทธิ์แรงทั้งสิ้น นี่มิใช่เป็นการทำให้ยาอายุวัฒนะเสียหายหรอกหรือ?”
“ข้าว่าการแข่งขันครานี้ไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินต่อแล้วล่ะ…”
“น่าเสียดาย เมื่อครู่ข้ายังคิดอยู่เลยว่าผลงานของเขาไม่เลวเลยทีเดียว! ทว่าตอนนี้กลับเปลี่ยนสูตรใบสั่งยาเสียอย่างนั้น จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!”
…
สิ่งที่คนเหล่านั้นเอ่ยกระซิบกระซาบกันไปมาแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาหมดหวังกับฉู่หลิวเยว่ไปโดยสิ้นเชิง
ยามได้ยินคำพูดเหล่านั้น ใจของหลัวซือซือก็โหวงขึ้นมาทันใด
แม้ว่านางจะมิใช่เซียนหมอ ทว่าเรื่องความรู้ทั่วไปพวกนี้ นางเองก็รู้เช่นเดียวกัน
ในฐานะเซียนหมอระดับเก้า ไม่มีทางที่ฉู่เยว่จะไม่เข้าใจถึงเรื่องพวกนี้ แต่เหตุใดเขาถึงยังทำเช่นนี้เล่า?
จัวเซิงส่ายศีรษะอย่างรู้สึกเสียดาย
“ข้าว่าการแข่งรอบนี้ เกรงว่าฉู่เยว่มีแววแพ้แล้วจริงๆ”
หลัวซือซือเม้มริมฝีปาก
“บางทีเขาอาจจะกำลังคิดหาวิธีอันใดอยู่…“
“เขาเพิ่งบุกทะลวงเป็นเซียนหมอระดับเก้าสำเร็จ คิดจริงหรือว่าจะสามารถเปลี่ยนคำสั่งใบสั่งยาตามใจชอบได้?”
แม้ว่าจัวเซิงเองก็รู้สึกได้มาโดยตลอดว่าทักษะของฉู่เยว่แข็งแกร่งนัก แต่เรื่องใบสั่งยาเป็นพื้นฐานการปรุงยาของเซียนหมอเลยหนา!
หลัวซือซือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งพลางผินสายตามองไปยังเด็กหนุ่มที่อยู่บนลานประลอง
รูปร่างของเขาเพรียวลออ สูงโปร่งแลตัวตรง มือหนึ่งวางอังอยู่เหนือหม้อยาคอยควบคุมความร้อนจากเปลวเพลิงสีชาดภายในหม้อ ส่วนอีกข้างก็กำลังใส่สมุนไพรส่วนที่เหลือลงไปอย่างต่อเนื่อง
เป็นท่าทีที่ดูแล้วนิ่งสงบและชวนผ่อนคลาย
“ข้าก็ยังคิดว่าท่าทางเขาดูไม่เหมือนคนที่คิดเปลี่ยนคำสั่งใบสั่งยาปุบปับ…”
หลัวซือซือพึมพำเสียงเบา
ดูจากท่วงท่าลื่นไหลเป็นธรรมชาติของฉู่เยว่ ให้ความรู้สึกประหนึ่งว่าสมุนไพรเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ควรใส่ลงไปแต่เดิมอยู่แล้ว
จัวเซิงยักไหล่
“เมื่อครู่พวกเซียนหมอกลุ่มนั้นก็พูดแล้วว่าที่เขากำลังปรุงอยู่คือยาบำรุงปราณตั้งต้น คนที่รู้สูตรยานี้มีไม่น้อย พวกเขาต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าฉู่เยว่เปลี่ยนสูตรใบสั่งยาเอง หรือจะบอกว่าพวกเขาทั้งหมดพูดผิดหรือ?”
หลัวซือซือมิได้เอ่ยสิ่งใดตอบกลับไป
เมื่อเห็นสีหน้าของนาง ใจของจัวเซิงก็กระตุก ด้วยรู้ว่านางกำลังเป็นฉู่เยว่จึงกล่าวปลอบไปว่า
“เฮ้อ จริงๆ เจ้าเองก็ไม่เห็นต้องกังวลขนาดนี้เลยนี่นา! อย่างใดซะนี่ก็เป็นแค่การแข่งรอบแรก อีกอย่างคู่ต่อสู้ยังเป็นถึงศิษย์พี่ที่มีรายชื่ออยู่บนติดประกาศงานประลองชิงอวิ๋น ต่อให้แพ้ก็ไม่เห็นเป็นอันใดนี่ อย่างใดเสียทุกคนก็ล้วนดูออกว่าเขาเลื่อนขึ้นเป็นเซียนหมอระดับเก้าแล้วจริงๆ หนา!”
หลัวซือซือราวกับมีคำจะกล่าว ทว่าก็มิได้เอ่ยอันใดออกมา
แม้จะพูดเช่นนี้ ทว่าคนในสำนักที่รอทับถมซ้ำเติมฉู่เยว่ให้กลายเป็นตัวตลกมีนับไม่ถ้วน
หากเกิดแพ้ขึ้นมาจริงๆ เช่นนั้น…ตัวเขาเองจะถูกเย้ยหยันไม่พอ ย่อมต้องถูกดึงเข้าไปพัวพันกับศิษย์พี่หรงซิวและผู้อาวุโสวั่นเจิงด้วยเป็นแน่
ฉู่เยว่…จะเมินเฉยต่อผลแพ้ชนะของการแข่งครั้งนี้ได้จริงๆ หรือ?
…
ไม่ว่าผู้อื่นจะพูดเช่นไร ฉู่หลิวเยว่ก็มิได้สนใจทั้งนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...