ทันใดนั้นเองหัวใจของผู้อาวุโสตันชิงเหมือนถูกอันใดบางอย่างบีบรัดจนแน่น
เขาหันกลับไปมองทางผู้อาวุโสซูเฟิงในทันที
“เจ้า…”
“หรงซิวไม่อยู่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้”
เหมือนว่าผู้อาวุโสซูเฟิงจะไม่มีท่าทางกล่าวเตือนอีกฝ่ายเลย แต่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“พระชายาคนนั้น หรงซิวเป็นคนเลือกขึ้นมาด้วยตนเอง ซึ่งก็มากพอที่จะสามารถเห็นความตั้งใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่หรงซิวเพิ่งเข้าสำนักมาแรกๆ เขาก็เคยกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า พระชายาผู้นั้นเป็นรักแรกพบของเขา หากเขารู้ว่าเจียงจื่อหยวนพูดเช่นนี้ต่อหน้าสาธารณชน ดูถูกพระชายาผู้นั้น แล้วยังพูดอีกว่า เดิมทีตำแหน่งพระชายาควรจะต้องเป็นของนาง…ด้วยนิสัยของเขาเช่นนั้น จะปล่อยเรื่องนี้ให้จบไปได้อย่างง่ายดายหรือ ตันชิง เจ้าว่าอย่างใดล่ะ”
ท่าทางของผู้อาวุโสตันชิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หรงซิวฝีมือแข็งแกร่ง จิตใจโหดเหี้ยม ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถขึ้นมายังตำแหน่งโอรสสวรรค์และควบคุมพระราชวังเมฆาสวรรค์ภายในช่วงเวลาสั้นๆ แน่นอน!
หากเขาจะติดตามเรื่องนี้จริงๆ แล้วละก็…จุดจบของเจียงจื่อหยวนไม่มีทางดีแน่นอน
ความจริงแล้วหลายปีที่ผ่านมานี้เป็นเจียงจื่อหยวนที่พยายามทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูคลุมเครือ ทำให้ผู้คนเข้าใจผิด และมันไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง
แต่ในเวลานั้นเอง หรงซิวก็ไม่ได้อยู่ในสำนักแล้ว เขาจึงไม่ได้ใส่ใจอันใดมาก
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกันแล้ว
หรงซิวอยู่ที่นี่ อีกทั้งหากเขาอยากรู้อันใดบางอย่าง เขาก็สามารถรู้ได้อย่างชัดเจน!
หัวใจของผู้อาวุโสตันชิงดำดิ่งลงอย่างเชื่องช้า
คนที่อยู่รอบข้างอาจจะไม่รู้ แต่เขาที่เป็นอาจารย์ของเจียงจื่อหยวน กลับรู้ถึงท่าทีที่หรงซิวปฏิบัติต่อนางได้อย่างชัดเจน
คู่รักที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กอันใดกัน หมั้นหมายของผู้อาวุโสอันใดกัน…
ความจริงแล้วเป็นเพียงแค่ความปรารถนาของเจียงจื่อหยวนคนเดียวเท่านั้น!
ทุกวันนี้คนเขามีพระชายาอยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์อยู่แล้ว จะปล่อยให้คนอื่นมาใส่ร้ายป้ายสีได้อย่างใด?
“เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง”
ผู้อาวุโสตันชิงพูดขึ้นเสียงเรียบ
“ศิษย์ของข้า ไม่รบกวนให้คนอื่นมาสั่งสอนหรอก!”
ผู้อาวุโสซูเฟิงรู้ว่าอีกฝ่ายฟังทั้งหมดแล้ว จึงหัวเราะออกมาเบาๆ จึงไม่ได้พูดอันใดมากอีก
แม้ว่าตันชิงจะมีนิสัยดื้อรั้น แต่ก็เคยผ่านอุปสรรคมามากมาย และตอนนี้สมองก็ยังแจ่มใสอยู่
แต่น่าเสียดายที่เจียงจื่อหยวนกลับไม่มีสมอง
หรงซิวอยู่ในสำนัก แต่นางก็ยังกล้าพูดคำพูดแบบนั้นออกมาในที่สาธารณะ อีกทั้งยังพูดขึ้นต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้!
ผู้อาวุโสซูเฟิงลูบเคราของตนเอง
อนาคตของเจียงจื่อหยวน เกรงว่าจะต้องลำบากแล้ว
…
หลินจือเฟยและเจียงจื่อหยวนยืนประจันหน้ากัน
ตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองคนมีกระดานหมากรุกปรากฏขึ้นอย่างเงียบงัน
ทั้งสองคนผลัดกันลงมือ
เดิมทีในตอนแรกเจียงจื่อหยวนไม่เห็นหลินจือเฟยอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป นางถึงรู้สึกได้ว่ามีอันใดบางอย่างผิดปกติไป
ทุกครั้งที่นางก้าวขึ้นมาด้านหน้าหนึ่งก้าว หลินจือเฟยก็สามารถติดตามมาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งตำแหน่งที่เขาวางนั้นก็แม่นยำอย่างมาก!
เหมือนว่าเขาไม่จำเป็นจะต้องใช้เวลาในการตอบสนองใดๆ เลย การกระทำคล่องตัวและว่องไวอย่างยิ่ง!
ในตอนแรกนั้น เจียงจื่อหยวนยังสามารถหลอกตนเองได้อยู่ และปลอบใจว่านี่มันแค่เพิ่งเริ่มเท่านั้น แผนในการวางหมากยังไม่เริ่มต้นขึ้นเลย หลินจือเฟยมีที่เหลือว่างเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดเขาถึงเล่นได้อย่างราบรื่นเช่นนั้น
แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปหมากที่อยู่บนกระดานก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์ก็ซับซ้อนมากขึ้น แม้กระทั่งตอนที่เจียงจื่อหยวนเคลื่อนไหว นางต้องคิดก่อน แต่สำหรับหลินจือเฟยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เขาจะไม่ได้รับผลกระทบอันใดเลย และยังคงเฉียบคมเหมือนกับเมื่อก่อนหน้านี้!
จนกระทั่งตอนนี้ ในที่สุดเจียงจื่อหยวนก็เกิดความรู้สึกที่เหนือบ่ากว่าแรง
นางเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่กลับมองเห็นสีหน้าที่ดูราบเรียบและปกติของหลินจือเฟย
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของนาง หลินจือเฟยก็หัวเราะออกมา พร้อมกับพยักหน้าส่งสัญญาณให้นาง
เจียงจื่อหยวนกัดฟันกรอด
ในสายตาของนาง ปฏิกิริยาของหลินจือเฟย มันคือการยั่วยุ!
“ศิษย์พี่เจียงจื่อหยวน เจ้าแพ้แล้ว”
แค่คำพูดบางเบาเหมือนสายลมไม่กี่คำ แต่กลับหนักอึ้งเหมือนศิลา กดทับหัวใจของเจียงจื่อหยวนอย่างแรง!
ในสมองของนางสับสน แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
นางแค่เหม่อไปเพียงครู่เดียวเท่านั้น เหตุใดมันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้?
แต่ว่าบนกระดาน นางกลับถูกตัดหัวแล้วจริงๆ!
นางแพ้แล้วจริงๆ!
เรื่องนี้ทำให้ขาทั้งสองข้างของเจียงจื่อหยวนอ่อนยวบลงไป จนเกือบจะล้มลงที่พื้น
ชายหนุ่มที่ต้องการจะท้าประลองนางคนก่อนหน้านี้ก็รีบเข้ามาพยุงโดยเร็ว
“จื่อหยวน เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่…”
เจียงจื่อหยวนผลักเขาออกไป ราวกับว่าจะกลัวติดสิ่งสกปรก
ชายคนนั้นหน้ามืดคล้ำ และถอยหลังลงไปอย่างเงียบๆ
หลินจือเฟยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ศิษย์พี่เจียงจื่อหยวน เหมือนว่าหลังจากที่กลับมาจากพระราชวังเมฆาสวรรค์ ฝีมือของเจ้า…ก็ไม่มีความก้าวหน้าขึ้นเลยนะ”
คำพูดนี้เหมือนเป็นการตบหน้าเจียงจื่อหยวนอย่างแรง!
นางจ้องไปที่กระดานหมากนั้น แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดับเปลวเพลิงที่อยู่ในใจลงอย่างยากลำบาก
“ช่วงนี้ข้าได้ละเลยการฝึกซ้อม ขอบคุณศิษย์น้องหลินที่ช่วยชี้แนะ”
เมื่อพูดจบ นางก็หมุนตัวเดินออกไปทางผู้อาวุโสทั้งหลาย
ผู้อาวุโสตันชิงสาวเท้าก้าวขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
“จื่อหยวน…”
“อาจารย์ ข้าขอลาหยุด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...